Chapter 1 : จุดเริ่มต้นของเทพนิยาย
(http://www.uppic.org/image-4EFB_538AFD1A.jpg)
Deval หนึ่งในเมืองหลักแห่งพื้นพิภพ ที่นี่คือสถานที่ซึ่งเทพธิดาลงมาเพื่อบอกข่าวว่าเสาของโลกหายสาบสูญไป มันเป็นเมืองใหญ่มีประชากรมากกว่า 3000 คน เนื่องจากเป็นเมืองที่ตั้งอยู่กึ่งกลางของพื้นพิภพ เศรษฐกิจหลักของที่นี่คือการค้าขาย โดยจะมีกองคาราวานเข้ามาทุก 3 เดือน และเทพธิดาก็จะจุติลงมาที่นี่ทุก 3 เดือนเช่นกัน โดยทั้งเมืองจะมีการเฉลิมฉลองครั้งใหญ่บ้างเล็กบ้าง ตามแต่ความพร้อมในขณะนั้น
Deval ไม่ใช่เมืองที่มีประชากรมากเท่านั้น แต่ยังมีกำลังทหารมากอีกด้วย กล่าวกันว่าประชากรเกินครึ่งของที่นี่คือทหาร จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เมืองแห่งนี้จะตั้งตระหง่านและสงบสุข ขณะที่หมู่บ้านหรือเมืองเล็ก ๆ แห่งอื่นล้วนแต่ประสบความพินาศย่อยยับ แต่จะโทษเมืองนี้ที่ไม่ยอมช่วยก็ไม่ได้ เพราะมันเองแค่ช่วยตนเองก็เต็มกลืนแล้ว
วันนี้ยังอยู่ในช่วงงานเฉลิมฉลอง โดยมีทั้งกองคาราวานและงานแสดงต่าง ๆ ผู้คนยิ้มแย้มแจ่มใสโดยไม่มีใครใส่ใจนักเดินทางกลุ่มใหม่ที่มาถึงนัก
ข้อมูลตัวละคร คลิก (http://baron.wudthipan.com/forum/index.php?topic=1386.msg124834#msg124834)
ทรัพย์สินของผู้เล่นแต่ละคน
Jaaku : 20 เหรียญ
Tito : 20 เหรียญ , 3exp
Jack : 20 เหรียญ , 3exp
ไอรี่ : 15 เหรียญ
บารอน : 60 เหรียญ
อุนดิเน่ : 20 เหรียญ , 3exp
Soah : 20 เหรียญ , 3exp
Erichika : 60 เหรียญ , 1exp
เทอนิป : 20 เหรียญ
Tifasola : 20 เหรียญ , 3exp
สถานที่ เลือก 1 ที่ หรือจะอยู่เฉย ๆ ที่หน้าประตูเมืองก็ได้
- นอกเมือง
- ม้าที่ยืนหันก้นมาใส่คนดู
- รูปปั้นหน้าเมือง
- วิหารกลางเมือง
- ลานกว้าง / ลานขายสินค้า
- ลานแสดงมหรสรรพ
- โรงแรม
- หอสมุด
- อื่น ๆ ระบุ
หน้าประตูเมือง
ที่หน้าประตูเมืองมีทหารบางส่วนมาถึงก่อนแล้ว แต่ดูจะไม่มีใครกล้าเดินออกไปด้านนอก บ้างจับกลุ่มถือหอกชี้ไปที่ชายนิรนาม บ้างทำตัวลืบ ๆ บ้างไปแอบหลังรูปปั้น
(http://www.uppic.org/image-AB94_538C1D74.jpg)
"หึ ฮ่าๆๆๆ!" อัศวินในเกราะสีม่วงเข้มระเบิดหัวเราะ รอบตัวเขามีศพทหารยามสามนายนอนจมกองเลือด ม้าศึกที่ชายคนนี้ขี่อยู่เองก็กำลังเหยียบย่ำศพของทหารยามนายที่สี่อย่างไม่ยินดียินร้าย เขาถือหอกที่หน้าตาประหลาดชี้ขึ้นฟ้า แต่มีบางอย่างที่ผิดปรกติแผ่ออกมาจากตัวของเขา...บางสิ่งที่น่าอึดอัดอย่างมาก
นักเดินทางมาถึงแล้ว พวกเขา...
- เข้าสู้
- อยู่เฉย ๆ ดูท่าที
- อื่น ๆ ระบุ
ภายในเมือง
อัลคิสกระโดดขึ้นหลังติโต้แล้วควบ (?) เขาไปที่บ้านหลังเล็ก ๆ ที่ภายในมีแต่กลิ่นยาคลุ้งไปหมด ติโต้เข้าใจว่าอัลคิสไม่เคยเดินทางไปไหนหรอก เธออยู่ที่นี่แต่เกิด
(http://www.uppic.org/image-32ED_538B16A5.jpg)
"..." หมาป่าสูงศักดิ์เห็นหญิงสาวผมยาวในชุดเกราะวิ่งไปยังประตูเมืองอย่างรวดเร็ว แปลกมากที่เขาสัมผัสถึงกลิ่นจากเธอไม่ได้แม้แต่น้อย
ขณะเดียวกัน ไอรี่กับเทอนิปที่พยายามหาที่หลบก็ดูไม่เป็นปัญหานัก เนื่องจากทั้งคู่ตัวเล็ก ไอรี่นั้นเข้าไปหลบในกล่องเก็บตุ๊กตาหุ่นเชิดของมาริเน่ ส่วนเทอนิปก็นั่งแหมะอยู่ข้างต้นไม้ต้นอื่น ๆ
(http://www.uppic.org/image-BB3B_538B16A5.jpg)
"..." ไอรี่และเทอนิปเองก็เห็นหญิงสาวผมทองวิ่งผ่านไป แต่ไอรี่คิดว่าเธอ "บิน" มากกว่า "วิ่ง"
ประตูเมือง
(http://www.uppic.org/image-AB94_538C1D74.jpg)
"กลับบ้านไปกินนมแม่ซะไป๊" เขาตอบอุนดิเน่ที่ด่าโว้กเว้กอย่างไม่แยแสแล้วหัวเราะตบท้าย ขณะเดียวกันที่บารอนปลุกใจทหารให้เข้าไปรุมประชาทัณฑ์ แต่น่าแปลกที่กลับไม่มีใครกล้าเข้าไปเลย ถึงแม้ว่าตอนนี้จะมีทหารรวมกันหลายสิบคนก็ตาม ราวกับว่าพวกเขาหวาดกลัวชายผู้นี้ราวกับเห็นปีศาจร้าย บารอนมองไปรอบ ๆ เมื่อไม่เห็นว่าได้การ เขายังไม่เห็นแม้แต่เงาของมิคาเอลเลย
ตอนนั้นเองที่ไม่มีใครคาดคิด แจ็คตาเดียวชักดาบใบเลื่อยออกมา ใบดาบส่งเสียงร้องและหมุนอย่างรวดเร็วจนเกิดประกายไฟปะทุออกมา
แจ็คไม่รอช้า เขาทะยานเข้าใส่อัศวินนิรนามพร้อมกับวาดวงดาบหมายฟันทั้งคนทั้งม้า
"หึ ฮ่าๆๆๆ !!" อัศวินไม่ตอบโต้กับดาบที่ฟันเข้าใส่แต่กลับระเบิดหัวเราะตามเคย คมดาบฟันสะพายแล่งทั้งเขาและม้าศึกจนเลือดกระฉูด แจ๊คแปลกใจเมื่อไม่เห็นอีกฝ่ายหลบ
เป็นไปไม่ได้ที่ชายคนนี้จะหลบไม่พ้น บางทีเขาอาจจงใจต้านรับเพราะเชื่อว่าเกราะจะรับคมดาบไหว แต่ดาบของแจ็คไม่ใช่ดาบดาษ ๆ มันจึงฟันผ่านทะลุไปถึงเนื้อหนังได้ ?
(http://www.uppic.org/image-AB94_538C1D74.jpg)
"ทำอะไรของแกวะ" อัศวินเกราะม่วงที่ควรจะถูกฟันล้มลงจมกองเลือดพร้อมม้าของเขาปรากฎตัวขึ้นข้างแจ็ค บรรยากาศกดดันถาโถมออกมาอีกครั้ง แจ็คเหลือบไปเห็นชายนิรนามชูหอกขึ้นฟ้าเตรียมฟาดลงมาใส่เขาเต็มแรง...
ภายในเมือง
ไอรี่ เทอนิป ติโต้ ทั้งสามที่ไม่ใช่คนพบกันระหว่างทางไปยังประตูเมือง คุยกันเข้าใจว่าพวกเขาตามหญิงสาวผมทองในชุดเกราะสีแดงมา เมื่อทั้งคู่ไปถึงก็พบกลับกลุ่มคนห้อมล้อมชายขี่ม้าสวมเกราะสีม่วงและถือหอกอยู่
รอบตัวเขามีศพทหารของเมืองนี้ถึงสี่ศพ บ่งบอกอย่างชัดเจนว่าชายคนนี้ไม่เป็นมิตร แต่หญิงสาวผมทองล่ะ ? พวกเขาเห็นว่าผู้หญิงคนนั้นมุ่งหน้ามาทางนี้นี่นา...ยังไม่ทันทีจะคิดอะไร หุ่นเหล็กมีชีวิตตนหนึ่งก็เหวี่ยงดาบไปใส่อัศวินคนนั้นทันที
- มองหาหญิงผมทอง
- เข้าไปช่วยหุ่นเหล็กสู้
- อื่น ๆ ระบุ
ภายหลังเหตุการณ์สงบและทหารสมทบมาเพิ่ม ผู้กล้าต่างหมายจะแยกย้ายกันไปตามทางของตน แต่พวกเขากลับถูกวัลไครีเอริอัลและเอจิสรั้งตัวไว้
อัศวินผมทองทั้งสองกล่าวว่าการที่มีบุคคลอื่นพบเจอกับอัศวินผู้ปกป้องเสาอาจเป็นโชคชะตา บางทีพวกเขาอาจเป็นกลุ่มคนที่สามารถตามหาเสาได้พบ
(http://www.uppic.org/image-32ED_538B16A5.jpg)
"อย่างไรก็ตาม องค์เทพธิดาจะเป็นผู้ตัดสินทั้งหมด" เอจิสที่ช่างพูดมากกว่าพี่สาวของเธอกล่าวขณะลูบหัวติโต้ หมาป่าสูงศักดิ์ไม่ได้กลิ่นหรือสัมผัสใด ๆ จากเธอราวกับเธอไร้ตัวตน
แต่บารอน เอริ อุนดิเน่ ไอรี่ และเทอนิปต่างรู้จักสองพี่น้องวัลไครีดี พวกนางนั้นเกิดจาก "ส่วนหนึ่ง" ของเทพธิดา อาจเรียกได้ว่าทั้งสองเป็นผู้คุ้มกันและนักรบโดยตรงของเทพธิดา
ว่ากันว่านอกจากผ่านการเห็นชอบจกาเทพธิดาแล้ว ผู้ปกป้องเสาจำเป็นต้องให้ทั้งคู่ยอมรับในฝีมือ และทั้งคู่มีฝีมือการต่อสู้สูงที่สุด
เธอกล่าวต่อว่าที่ทีโอดอร์หายไปเพราะองคืเทพธิดาส่งเขาไปที่มุมหนึ่งของโลก ลำแสงนั้นคือเวทย์ Banishment ที่มีเพียงองค์เทพธิดาใช้ได้
"อัศวินนิรเนตร ทีโอดอร์ กุงนิล เป็นอัศวินตาบอดเพียงคนเดียวบนพื้นพิภพ เคล็ดวิชา Illusion Waltz ของเขานั้นแม้แต่ข้าหรือน้องข้าต่างมิอาจหยั่งรู้ว่าามันมีต้นกำเนิดหรือรากฐานเช่นไร
แต่เราพอจะเข้าใจการทำงานของมัน มันเป็นทั้งภาพมายาและความเป็นจริง พริบตาที่ผู้ใช้วิชานี้ถูกฟันจนล้มลง เขาจะกลับขึ้นมาอีกครั้งโดยไร้บาดแผล จุดอ่อนเพียงหนึ่งเดียวคือวิชานี้ใช้ได้กับการโจมตีเพียงหนึ่งจุด"
เอริอัลอธิบายขณะพาคณะผู้กล้าไปที่วิหารเพื่อเข้าพบเทพธิดา นั่นอาจเป็นสาเหตุที่นางโจมตีถึงสี่จุดในครั้งเดียวและทีโอดอร์ไม่ได้ยืนรับการโจมตีนั้น
ทั้งหมดรับฟังเรื่องราวต่าง ๆ จนกระทั่งเข้าสู่วิหารโล่งกว้าง องค์ดีวอนที่สามดูจะรู้เรื่องดีอยู่แล้ว เขาและองค์เทพธิดาจึงรอกลุ่มผู้กล้าอยู่ที่โถงใหญ่
นางกล่าวว่าทีโอดอร์ กุงนิลนั้นอาจเป็นหนึ่งในสามของผู้ปกป้องเสาที่เห็นตัวผู้ขโมย แต่ภายหลังเหตุการณ์นั้นเขากลับบ้าคลั่งและฆ่าทุกคนไม่เลือกหน้า เป็นไปได้ว่าเขาถูกพลังความมืดกลืนกินจนไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไป
(http://www.uppic.org/image-49E1_53898CE7.jpg)
"พวกเจ้าล้วนแต่เผชิญหน้ากับผู้ปกป้องเสา มันอาจรวบรัดและบังคับขืนใจ แต่หากเป็นไปได้ ข้าอยากให้พวกเจ้าออกตามหาเสาแห่งโลก
ลำพังนักเดินทางทั่วไปนั้นไม่อาจพบเจอมันได้โดยง่าย นอกจากบุคคลที่พื้นพิภพเลือกมาเอง" องค์เทพธิดากล่าวสรุป
"ข้าขอมอบพรศักดิ์สิทธิ์ให้แก่พวกเจ้า จงไตร่ตรองและกลับมาให้คำตอบแก่เราที่วิหารภายในห้าวัน"
(http://www.uppic.org/image-BE99_538AFD1A.jpg)
"ข้าจะก่อตั้งพันธมิตรแห่งกุงนิลขึ้นมาอีกครั้ง ครั้งนี้เราจำเป็นต้องทำให้สำเร็จ พวกเจ้าทั้งหมดได้สิทธิ์เข้าพักในปราสาทหรือหนแห่งอื่นในเมืองแห่งนี้ตามอัธยาศัย
ขอให้กลับมาที่นี่ภายในห้าวันและให้คำตอบแก่ข้าด้วย"
ขณะที่ทุกคนเดินออกจากวิหาร องค์ดีวอนที่สามกลับร้องเรียกให้บารอนหยุดก่อน
(http://www.uppic.org/image-BE99_538AFD1A.jpg)
"เกี่ยวกับเรื่องที่ท่านขุนขลังต้องการ นักปราชญ์ซาอินั้นเกษียณตนไปอยู่อย่างโดดเดียวที่หอสมุดทางใต้ แพทย์หลวงคูลันนั้นเสียชีวิตไปแล้วแต่บุตรีของเขานั้นยังอาศัยอยู่ในเมืองนี้
ช่างตีเหล็กหลวงสุเมรีเองก็ออกเดินทางหาวัตถุดิบทางตะวันตกตั้งแต่สองเดือนก่อน ข้าไม่ทราบว่าเขายังมีชีวิตอยู่หรือไม่ หากท่านต้องการหาข้อมูลของศพแล้วบุตรีของคูลันอาจช่วยท่านได้มากที่สุด
บ้านของนางตั้งอยู่ไม่ไกลจากประตูเมืองนัก ท่านสามารถถามชาวเมืองในละแวกนั้นได้ ทุกคนที่นั่นล้วนรู้จักนาง" องค์ดีวอนกล่าวแล้วยื่นรูปวาดของนางให้บารอน
(http://www.uppic.org/image-91B7_538B0392.jpg)
อัลคิส บุตรีของคูลัน คาดเดาจากรูปภาพแล้วอายุไม่น่าจะเกิน 12 ขวบปี
...
ทีฟาโซลาดูไม่เข้าใจกับอะไรสักอย่าง แต่ในเมื่ออาจารย์ส่งเธอมาช่วย เธอก็จะช่วยโดยที่ไม่ต้องรอให้โชคชะตาหรือใครต่อใครโยนภาระให้หนักอึ้งหรอก
(http://www.uppic.org/image-F306_538B16A5.jpg)
"ต้องขออภัยที่ข้าไม่ได้บอกกล่าว" อาเซลยืนรอทีฟาโซลาอยู่ที่หน้าวิหาร เธอคิดว่าอาเซลต้องเก็บซ่อนบางสิ่งไว้อย่างแน่นอน แต่เธอไม่ได้คิดจะคาดคั้นอะไรจากหญิงคนนี้
ทีฟาโซลาจึงตอบรับเหนือย ๆ และพูดคุยเรื่องราวต่าง ๆ กับเธอ จากอาการที่อินาสึมะแสดงเมื่ออยู่่ต่อหน้าอาเซลแล้ว ทีฟาโซลาก็ไม่ได้ไว้ใจอาเซลนัก
ทุกคนได้รับ
- ค่าสถานะ 1 แต้ม
- 3 exp ให้ไอเทม 1 ชิ้น
Chapter End.