เปิดเกมแล้วผ่าน Chapter 1ผ่าน Chapter 2ผ่าน Chapter 3
(http://i240.photobucket.com/albums/ff261/KingTUMMAN/Llorar-002.jpg)
| Llorar Bestia (รอร่า)
HP 3/3 | SP 4/4 | Skl 2 | Inv 1 | Int 3 | Str 2 | Edr 2 | Agi 1 | Acc 2 |
|
Skill - Last Chance เมื่อ HP=0 จ่าย SP ตามต้องการเพื่อฟื้นกลับมาในสภาพ HP=1 โอกาสสำเร็จเท่า SP ที่จ่ายไป (อุปสรรค 10c) [Active] - Item - Llorar's Memento : จี้ห้อยคอประดับด้วยอัญมณีสีม่วงอมแดง ข้างในมีรูปของ Llorar กับใครบางคน เมื่อ HP=0 , ฟื้นค่า HP และ SP อย่างละ 2 [P]
|
หญิงสาวพูดน้อย หน้าตาอมทุกข์ แต่ในใจแล้วเป็นคนนิสัยดีมาก เป็นห่วงเป็นห่วงทุกๆคนที่พบเจอ เธออยู่ตัวคนเดียวมาแต่เล็ก ไม่มีความทรงจำของพ่อและแม่เหลืออยู่เลยแม้แต่น้อย ปัจจุบันอาศัยที่พอมีความสามารถนิดหน่อย ใช้ดูแลตัวเองไปได้วัน ๆ สิ่งที่เป็นกำลังใจให้เธอสู้ต่อไปมีแค่ภาพความทรงจำจางๆของใครสักคนที่เธอรับรู้ได้ว่าเมื่อนึกถึงแล้วจะรู้สึกว่าไม่มีปัญหาอะไร กับของดูต่างหน้าชิ้นหนึ่ง ซึ่งก็ไม่รู้ว่าใครเป็นเจ้าของ แต่ทุกครั้งที่มองดูมัน เธอจะรู้สึกว่ามีกำลังใจมากขึ้นอย่างหาสาเหตุไม่ได้ และเพราะเธอเป็นคนที่พูดน้อย ทำให้ไม่ค่อยมีเพื่อนมาก สิ่งที่เธอกลัวที่สุดคงเป็นการถูกมองข้าม และการที่ไม่มีใครเห็นคุณค่าในตัวของเธอ
พนักงานเอกชนหญิงอายุ 23 ปีที่เหมือนจะเป็นคนปกติที่สุดในเกมแล้ว
รอร่าและนากิเอาชีวิตรอดไปได้ ทั้งคู่เดินมาด้วยกันพักหนึ่งก่อนจะแยกทางกัน ก่อนแยกนากิหันมาขอบคุณเธอและให้ช่องทางติดต่อไว้ เธอบอกว่าว่าง ๆ ก็ลองไปเที่ยวประเทศของเธอบ้างนะ จะพาเที่ยว...
หลังจากนั้นทั้งคู่ก็แยกกัน จอกแหนที่พบกันโดยบังเอิญก็ต้องแยกจากกันสักวันหนึ่ง ระหว่างเธอโซเซกลับบ้านเธอก็คิดถึงสิ่งที่หญิงสาวผมสีม่วงพูด เธอไม่เข้าใจเลย่วาหญิงสาวคนนั้นต้องการจะสื่ออะไร แต่เธอคิดว่าเธอน่าจะ...
Bonus Choices มีผลต่อฉากจบ
- ไปแจ้งตำรวจ/พาตำรวจไปที่ตึกนั้น
- กลับไปที่ตึก เลือก : ตอนกลางวัน , กลางคืน
- ใช้ชีวิตตามปกติำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
The path we walk
รอร่ากลับมาใช้ชีวิตพนักงานเงินเดือนแสนราบเรียบของเธอ ทุกสิ่งไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลย ไม่มีใครรู้ว่าเธอถูกจับตัวไป เธอเป็นเพียงฟันเฟืองตัวจ้อยที่คอยหมุนขับเคลื่อนสังคมให้เดินต่อไปข้างหน้า หากวันหนึ่งฟันเฟืองตัวนี้หยุดหมุน ฟันเฟืองตัวใหม่จะเข้ามาแทนที่ เธอไม่มีชื่อเสียงหรือหน้าตาทางสังคมเหมือนใครเขา รอร่าจึงได้แต่ปลงตกและใช้ชีวิตให้หมดไปวัน ๆ
บางครั้งสิ่งที่หญิงสาวผมม่วงคนนั้นเฉลยให้เธอฟังก็ดังขึ้นในหัว การคิดมากเกินไปอาจทำให้เธอตายได้ แต่จริงหรือ ? เธอไม่เคยคิดว่ามันจะเป็นจริง สิ่งที่หญิงสาวคนนั้นพูดอาจเป็นการคำพูดของคนโรคจิตธรรมดา รอร่าไม่ได้ใส่ใจนักเมื่อคำพูดนั้นดังขึ้น เธอทำเพียงแค่สลัดหัวไล่มันออกไป
วันหนึ่งหลังกลับจากงาน เธอเห็นจดหมายสองฉบับเสียบไว้หน้าประตูห้องพัก ซองหนึ่งไม่มีแสตมป์ จ่าหน้าซองเพียงว่า ถึงคุณรอร่า ส่วนอีกซองมีอากรณ์สแตมป์เรียบร้อย จ่าหน้าผู้ส่งมาจากต่างประเทศ รอร่าเลิกคิ้วด้วยความสงสัย ส่งผิด ? แต่เธอก็นำมันกลับเข้าไปดูด้านในห้องและแกะออกอ่าน ผิดคาด หนึ่งในสองซองนที่ติดสแตมป์นั้นเป็นของนากิ ด้านในมีเพียงข้อความสั้น ๆ ไม่ถึงสามบรรทัด
คุณเป็นยังไงบ้าง ? ฉันเอง ยังจำนากิได้ไหม ? ฉันเรียนภาษาพื้นเมืองของที่นั่นคล่องแล้วนะ อีกสามวันฉันจะบินไปเที่ยวที่นั่น ถ้าคุณสะดวกฉันอยากให้คุณมาเที่ยวด้วยกัน คงยังมีเบอร์โทรที่ฉันให้ไว้ใช่ไหม ? ฉันยังใช้เบอร์เดิมอยู่นะ โทรมาคุยกันบ้างสิ!
- นากิ
รอร่ายิ้ม อย่างน้อยเธอก็ยังมีใครสักคนที่ไม่คิดว่าเธอเป็นแค่ฟันเฟืองตัวนึง แม้ว่าใครคนนั้นจะอ่อนกว่าเธอเกือบสิบปีก็ตาม รอร่าเข้าใจสิ่งที่หญิงสาวลึกลับคนนั้นต้องการจะสื่อแล้ว
"การคิดวิเคราะห์ไม่ใช่ทุกสิ่ง หากใครทิ้งอารมณ์ความรู้สึกไปแล้ว เขาคนนั้นก็เป็นเพียงแค่คนเป็นที่ไร้วิญญาณ ไม่ต่างจากคนตาย"
The Building : Good Ending.