-
(http://image.free.in.th/z/ib/rqpju.jpg) | เสี่ยวจู | เพศหญิง | อายุ 23 ปี | HP 3/3 | SP 3/3 | พลังกาย +1 | การรับรู้ +0 | ความเร็ว +1 | ปัญญา +0 | เสน่ห์ +0 | EXP 6/46 |
|
ความมุ่งมั่น 2 | เป้าหมาย : ตามหาความจริงเกี่ยวกับบิดามารดาของตน |
Inventory | มือเปล่า AT=0 | เสื้อผ้าไหมทอมือ ราคา 1000เหรียญ DF=0 | |
| Profile | กำพร้าบิดามารดา ปัจจุบันอาศัยอยู่กับสำนักกระบี่ (+10EXP) ไม่มีเงินและที่ซุกหัวนอน | Skill | พลังกาย +1 (10EXP) | ความเร็ว +1 (10EXP) | วิชากระบี่ขั้นต้น (10EXP) : ได้รับ+1โบนัสเมื่อต่อสู้ด้วยกระบี่ | เพลงกระบี่พิรุณโปรย (20EXP ต้องการ พละกำลัง+1 ความเร็ว+1) : จ่าย 1SP โจมตีด้วยกระบี่สองครั้งในเทิร์นนี้ | |
|
ประวัติ
บิดามารดาเป็นโจรออกปล้นหากินและถูกฆ่าตายไป ตัวนางในตอนนั้นยังเยาว์วัยไม่ถูกพาออกไปเสี่ยงอันตรายจึงยังไม่รู้ว่าบิดามารดาตนเสียชีวิตแล้ว
จึงได้ออกตามหา ระหว่างทางถูกโจรป่าลักพาแต่มีศิษย์สำนักกระบี่ธรรมะแห่งหนึ่งได้ช่วยเหลือไว้และรับมาดูแล เสี่ยวจูจึงได้ฝึกปรือวิชาหวังออกตามหาบิดามารดาพบสักวันหนึ่ง ฉายาที่ได้มานั้นเป็นเพราะฝีมือกระบี่ของนางเมื่อยามใช้รวดเร็วงดงามหากเศร้าสร้อยดั่งสายฝนโปรยปราย
-
ณ อารามบ๊อฮวยอำ (ไร้บุปผา) เชิงเขาบู๊ตึ๊งซัว
หญิงสาวคนนึงนั่งคุกเขาอยู่เบื้องหน้าแม่ชีวัยชรา แม่ชีผู้นั้นมีเค้าหน้าเอื้ออารี กลับเป็นเจ้าอาราม แม่ชีปุ๊ดเจงซือไท่ (ไม่แค้นเคือง)
ท่านกล่าวกับหญิงสาวว่า "เสี่ยวจูเอ๋ย สิบกว่าปีก่อน ท่านนักพรตสนยะเยียบได้นำเจ้ามาฝากฝังไว้ที่อารามแห่งนี้"
"ในที่สุดเจ้าก็ฝึกเพลงกระบี่พิรุณโปรยสำเร็จ เจ้าอายุเกินยี่สิบปีแล้ว ในเมื่อเจ้าไม่ต้องการปลงผมบวชชี ได้แต่ต้องลงจากเขาไป"
"ศิษย์สถาบันสงฆ์เช่นพวกเรา ต้องละเว้นศีลปาณา เจ้าจงเก็บกระบี่ไม้สำหรับฝึกซ้อมเล่มนี้เอาไว้ใช้ป้องกันตัว"
เสี่ยวจูได้รับ กระบี่ไม้ AT=1
-
เสี่ยวจูรับคำของแม่ชีด้วยใบหน้าอันเศร้าสร้อย
"ข้าซึ้งในความเมตตาของพวกท่านอย่างมาก และขอบคุณสำหรับเรื่องราวที่ผ่านมาบุญคุณนี้ข้าจะไม่มีวันลืม ข้าสัญญาว่าเมื่อข้าตามหาบิดามารดาของข้าพบ ข้าจะย้อนกลับมาเยี่ยมท่านอย่างแน่นอน"
เสี่ยวจูเอ่ยคำขอบคุณและร่ำลาอีกหลายประโยค แม้นางจะไม่อยากจากไปแต่การตามหาความจริงเกี่ยวกับบิดามารดาอันเป็นสิ่งที่ค้างคาใจมาแต่วัยเยาว์ย่อมเป็นเรื่องที่ไม่อาจละเลยได้ นางรับดาบไม้มาและเดินเท้าออกจากเชิงเขา ก่อนอื่นนางคงต้องกลับไปถามท่านนักพรตว่าเก็บนางมาจากโจรป่ากลุ่มใด แล้วสืบว่าบ้านนางอยู่แถวใดล่ะมัง จะได้ไปถามหาจากเพื่อนบ้านว่ารู้ข่าวคราวของพ่อแม่บ้างหรือเปล่า
-
เสี่ยวจูเดินทางขึ้นเขาบู๊ตึ๊งเพื่อไปขอเข้าพบนักพรตสนยะเยียบ
ระหว่างทางเธอได้ยินเสียงฝีเท้าม้าจำนวนไม่น้อยกำลังวิ่งขึ้นมาตามทางบนภูเขา
-
"??" เสี่ยวจูสงสัยจึงหยุดรอดูว่าใครกัน จะยกพวกมาถล่มรึอย่างไร
-
ผู้มาเป็นคนบนหลังม้ากลุ่มหนึ่ง
นำโดย ชายหนุ่มท่าทางสูงศักดิ์ในชุดมองโกลควบม้าเคียงข้างกับชายวัยกลางคนในชุดแม่ทัพ
ที่ติดตามมาเป็นทหารองครักษ์ชาวมองโกลอีกหกนาย ทุกคนมีอาวุธเป็นดาบโค้งและธนูพร้อมสรรพ
(http://wudthipan.com/fucko/index.php?q=/image/2268.jpg)(http://wudthipan.com/fucko/index.php?q=/image/2267.jpg)
ชายหนุ่มและแม่ทัพคล้ายกับกำลังหารืออันใดกัน แต่พอเห็นหญิงสาวคนนึงขวางทางอยู่ข้างหน้าก็หยุดม้า
ชายวัยกลางคนในชุดแม่ทัพเห็นเสี่ยวจูใส่ชุดธรรมดาแต่กลับสะพายกระบี่ไม้ก็ทราบความเป็นมาของนาง
แม่ทัพนั้นกล่าวกับชายหนุ่มว่า "ท่านราชบุตร แม่นางน้อยผู้นี้เป็นศิษย์ของอารามไร้บุปผาที่พวกเราผ่านมาบริเวณเชิงเขา"
ชายหนุ่มมองเสี่ยวจูอย่างสนใจกล่าวกับเธอด้วยสำเนียงมองโกลว่า "เมื่อได้พบกันถือเป็นวาสนา โกวเนี้ยเดินทางขึ้นเขาพร้อมกับเราเถอะ"
แม่ทัพมีท่าทางวิตกกังวล คัดค้านชายหนุ่ม บอกว่า "พวกเรามาด้วยธุระสำคัญของบ้านเมือง นำโกวเนี้ยน้อยนางหนึ่งขึ้นเขาไปด้วยออกจะไม่สมควร"
-
"จะอย่างไรข้าก็มีธุระที่นั่นและข้าก็กำลังเดินขึ้นไปเองอยู่แล้ว มิต้องลำบากพวกท่านหรอกข้าเป็นแค่ชาวบ้านธรรมดา" เสี่ยวจูปฏิเสธไปแล้วเดินขึ้นเขาไปเอง
-
(http://wudthipan.com/fucko/index.php?q=/image/2268.jpg)
ชายหนุ่มทำหน้าเสียดาย เขาประสานมือเก้ๆกังๆพยายามแนะนำตัวว่าเป็นราชบุตรมองโกล ชื่อว่า เยรูฮาจา
ยังมิทันที่เสี่ยวจูจะโต้ตอบอันใด แม่ทัพก็กระตุ้นม้าควบขี่ล่วงหน้าขึ้นเขา ชายหนุ่มจำต้องลาจากไปอย่างเสียไม่ได้
เสี่ยวจูเดินขึ้นเขาเอง เสียเวลาอีกกว่าชั่วยามค่อยเดินทางไปถึงยอดเขา
บนยอดเขา เสี่ยวจูได้ยินเสียงโห่ร้องจากลานฝึกซ้อมฝีมือ
มองเห็นศิษย์บู๊ตึ๊งชุมนุมกันอยู่ที่ลานฝึกซ้อมฝีมือ
ตรงกลางลานประกอบด้วย นักพรตสนยะเยือก และ ราชบุตรเยรูฮาจา เผชิญหน้ากัน
เสี่ยวจูจะทำอย่างไรต่อไป
-
เสี่ยวจูถามคนที่อยู่ใกล้เคียงว่า "สองท่านนั้นกำลังจะประฝีมือกันด้วยเหตุใดรึ?"
-
ศิษย์บู๊ตึงเห็นว่าเสี่ยวจูเป็นคนของอารามเชิงเขาจึงตอบว่า
"ชายหนุ่มผู้นั้นบอกว่าตนเองเป็นราชบุตรมองโกล เดินทางภาคกลางเพื่อรับทราบยอดฝีมือของตงง้วน"
"ชายหนุ่มนั้นมีพลังฝีมือมิใช่น้อย สามารถล้มศิษย์พี่ จางจืออิง ได้ในสามกระบวนท่า ท่านเจ้าสำนักจึงลงมือเอง"
"ตอนนี้ทุกคนในสำนักล้วนแต่ออกมาชมดู การต่อสู้จนหมดสิ้น"
เสี่ยวจูมองไปกลางสนามอีกครั้ง เห็นว่าการต่อสู้ยังไม่เริ่มขึ้น คล้ายกับว่าราชบุตรมองโกลกำลังกล่าวอันใดอยู่
มองไปด้านหลังราชบุตรมองโกลก็พบ ชายในชุดแม่ทัพกับองครักษ์อีกห้าคนตั้งแถวเป็นหน้ากระดาน
คอยป้องกันการถูกจู่โจมจากด้านหลัง เสี่ยวจูรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดแปลกไป แต่มันคืออะไรกันนะ?
-
เสี่ยวจูเชื่อมั่นในตัวท่านนักพรตนางจึงเดินเลี่ยงออกมาจากลานประลองด้วยในใจรู้สึกตะขิดตะขวง นางจึงเดินสำรวจภายในสำนักดูว่ามีใครฉวยโอกาสตอนผู้คนชมการประลองเพื่อลักลอบเข้ามาหรือเปล่า
-
เสี่ยวจูเข้ามาที่ตึกใน แต่ไม่พบผู้ใด มีแต่ชาวบ้านที่ทำงานรับใช้ทั่วไป
ครู่หนึ่งเธอก็ได้ยินเสียงจากลานฝึกซ้อม
"ชั่วช้านัก ชาวมองโกลกลับลอบใช้พิษ"
"พวกเจ้าไร้ยางอายนัก"
ฯลฯ
- ออกไปดูเหตุการณ์
- อื่นๆ
-
- ออกไปดูเหตุการณ์
-
เสี่ยวจูเดินออกจากตึกไปที่ลานประลอง เธอพบว่านักพรตสนยะเยือกถูกเยรูฮาจาสยบเอาไว้
ศิษย์บู๊ตึ๊งที่พยายามเข้าไปช่วยเหลือกลับถูกทหารมองโกลฆ่าฟัน
ศิษย์บู๊ตึ๊งล้วนมีฝีมือมิใช่ชั่ว กลับฟาดฟันกระบี่ราวกับคนไร้เรี่ยวแรง ไม่อาจฆ่าไก่ เป็นเพราะเหตุใด
คนล้มลงราวใบไม้ร่วง ราชบุตรมองโกลอุ้มเจ้าสำนักบู๊ตึ๊งลอยตัวขึ้นไปบนม้าแล้ว
เสี่ยวจูจะทำอย่างไรต่อไป
-
พวกนั้นอาจโดนยาพิษ แต่เจ้าสำนักย่อมสำคัญกว่า เสี่ยวจูใช้แขนเสื้อปิดจมูกไว้แล้วเร่งฝีเท้าตามราชบุตรมองโกลไป
"ช้าก่อน! เจ้าจะพาท่านเจ้าสำนักไปที่ใดเจ้าพวกหน้าไม่อาย แล้วสั่งให้ทหารหยุดฆ่าฟันผู้ไร้ทางสู้ด้วย!" เสี่ยวจูตะโกน หากเจ้านั่นไม่รีรอตอบคำถาม เธอก็คว้าม้าตัวใกล้ๆแล้วควบตามไปเลย
-
เสี่ยวจูพยายามเร่งเร้ากำลังภายใน เพื่อวิ่งตาม แต่กลับพบว่าเธอเองก็ถูกพิษเช่นกัน
คาดว่าพิษนี้ลอยมาตามลม เพียงสูดดมก็ทำให้ไม่สามารถใช้กำลังภายในได้
ได้ยินเสียงม้าตัวหนึ่งขับมาจากด้านหลัง เสี่ยวจูนึกออกแล้วว่าทหารม้ามองโกลที่ลานประลองหายไปคนหนึ่ง
ที่แท้เป็นผู้ลอบไปปล่อยพิษที่เหนือลมนั่นเอง
ทหารม้านั้นเพียงยื่นมือก็รวบตัวเสี่ยวจูขึ้นมาบนหลังม้า มันหัวเราะฮิฮะอย่างชั่วช้าลามก กล่าวว่า
(http://wudthipan.com/fucko/index.php?q=/image/2272.jpg)
"โกวเนี้ยน้อย ไม่ต้องรีบร้อนไป เราพาท่านไปพบราชบุตรเอง"
เสี่ยวจูถูกพิษใช้กำลังภายในไม่ได้ เธอจะทำอย่างไรดี
-
เสี่ยวจูร้องว่าผิดท่า นางโดนพิษไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้อีกทั้งยังถูกศัตรูจับตัวอีก แต่เมื่อนางได้ยินที่มันพูดก็ทำให้นางเลิกคิดที่จะขัดขืน
จะพาข้าไปพบท่านราชบุตรผู้นั้นน่ะรึ ได้..
เสี่ยวจูแกล้งดิ้นรนพอเป็นพิธีจากนั้นก็ยอมให้พาตัวไป
-
เสี่ยวจูเจ็บใจนักที่เสียรู้ชาวมองโกล
ความมุ่งมั่น -3
พอเห็นเสี่ยวจูไม่ขัดขืนทหารม้าก็จับเธอมัดมือไว้ กระตุ้นม้าเข้าไปรวมกลุ่มกับราชบุตร
(http://wudthipan.com/fucko/index.php?q=/image/2268.jpg)
"ได้พบกันอีกแล้ว เราสองคงมีวาสนามาแต่ปางก่อน"
เยรูฮาจา ยิ้มย่อง โยนนักพรตสนยะเยียบที่ถูกมัดไปให้แม่ทัพมองโกลดูแล
จากนั้นโอบอุ้มเสี่ยวจูมาขึ้นมาเดียวกับตนเอง
"ขอทราบนามของแม่นางได้หรือไม่"
(http://wudthipan.com/fucko/index.php?q=/image/2267.jpg)
ท่านราชบุตร พวกเราควรรีบออกเดินทางได้แล้ว
สำนักนางชีที่เชิงเขาหาได้ถูกพิษไม่ หากถูกพวกนางพัวพันไว้ก็ย่ำแย่แล้ว
แม่ทะพมองโกลกล่าวพลางยัดนักพรตสนยะเยียบลงในถุงหนังใบหนึ่ง พาดไว้บนหลังม้า
-
"หน้าตาเจ้าก็หล่อเหลาหากนิสัยกลับเป็นเช่นนี้ แม้จะเป็นราชบุตรสูงส่งแต่ที่ใดมาข้าก็จะไม่รักษามารยาทแล้ว" เสี่ยวจูต่อว่าราชบุตรและไม่ยอมบอกชื่อของตนให้ทราบ
เสี่ยวจูพยายามรีดเร้นกำลังภายในเรื่อยๆ ดูว่าเมื่อไหร่พิษจะหาย นางจะได้เตะก้านคอเจ้าราชบุตรผู้นี้สักป้าบหนึ่ง
จากนั้นเสี่ยวจูก็นิ่งเงียบไม่สนทนากับบุรุษผู้นี้อีกเลย นัยน์ตาได้แต่จับจ้องหาทางหนีทีไล่และคิดหาหนทางช่วยท่านเจ้าสำนัก นางคิดว่าจะตะโกนเรียกให้สำนักชีออกมาช่วย แม้จะเป็นการรบกวนพวกท่านก็ตาม
-
(http://wudthipan.com/fucko/index.php?q=/image/2268.jpg)
ไม่ว่าเสี่ยวจูจะด่าว่าอย่างไร เยรูฮาจาก็ยังคงแย้มยิ้มมิคลาย
พอเธอนิ่งเงียบ แม่ทัพมองโกลก็กำชับให้เขาจี้จุดใบ้และจุดอัมพาตของเสี่ยวจู
ก่อนจะแก้มัดออก ไม่ให้คนสงสัย มองแต่ไกลทั้งคู่คล้ายกับคู่รักที่ขี่ม้าร่วมกันคู่หนึ่ง
กองทหารม้าขับผ่านหน้าอารามบ้อฮวยอันแล้ว ที่ประตูอารามมีแม่ชีแผนกต้อนรับและเหล่าอุบาสิกา กำลังกวาดลานอารามอยู่
เสี่ยวจูไม่อาจขยับแขนขาหรือส่งเสียงได้ เธอจะทำอย่างไร
-
T--T เสี่ยวจูทำหน้าร้องไห้ ขยับหน้าแทน น้ำตาไหลเลย
-
ราชบุตรทำท่าทางปลอบโยนเสี่ยวจู ทำให้ไม่มีใครสงสัย คิดว่าเป็นคู่หนุ่มสาวทะเลาะเบาะแว้งกันตามธรรมดา
แม่ชีที่รู้จักเสี่ยวจูยังคิดว่าเยรูฮาจาเป็นคนรักที่เสี่ยวจูแอบซ่อนไว้ วันนี้ออกจากสำนักจึงกล้าเปิดเผย
บ่ายคล้อยแล้ว พอลงจากเขาได้ราชบุตรก็คลายจุดใบ้ให้เสี่ยวจู
เขายังคงถามไถ่เรื่องราวของเสี่ยวจูไม่หยุดปาก
แม่ทัพที่ติดตามได้แต่แอบทำหน้าเอือมระอา
เดินทางไปอีกระยะหนึ่ง กองทัพม้าร้อยนายก็เข้ามาสมทบ
เสี่ยวจูจะทำอย่างไรต่อไป
-
ม่ายยย T--T
เสี่ยวจูไม่คิดจะทำอย่างไรแล้ว ตามน้ำไปเรื่อยๆ ด้วยความเบื่อในที่สุดนางจึงเอ่ยปากพูด
"ข้าชื่อหมั่นโถว" เสี่ยวจูแนะนำตัวด้วยชื่อประหลาดๆไป "ทำไมเจ้าถึงจับท่านผู้มีพระคุณของข้ามา ท่านทำอะไรให้พวกเจ้าเดือดเนื้อร้อนใจอะไรอย่างนั้นรึ อีกอย่างเจ้าเป็นคนต่างชาติไม่น่าเกี่ยวอะไรกับชาวเรานี่"
ถ้าท่านราชบุตรอะไรนี่ถามอะไรมา เสี่ยวจูก็ยอมคุยด้วยแล้ว แต่ตอบไปด้วยข้อมูลผิดๆ หรือพูดจากำกวม
-
(http://wudthipan.com/fucko/index.php?q=/image/2268.jpg)
ท่านราชบุตรสอบถามว่า เสี่ยวจูสังกัดสำนักอาจารย์ใด บ้านช่องและบิดามารดาอยู่ที่ไหน
ชอบกินอาหารแบบไหน ชอบผู้ชายแบบไหน
-
"สังกัดสำนักอาจารย์ใดรึ ข้าก็แค่อาศัยอยู่กับแม่ชีหาได้มีสังกัดวิชาอันใด บ้านช่องข้าไม่มี บิดามารดาข้าอยู่ที่ใดเรื่องนั้นข้าก็อยากรู้ ...นี่เจ้าจะถามอะไรมากมาย รู้เรื่องข้าไปก็มิเป็นประโยชน์อันใดแก่ท่านราชบุตรผู้สูงศักดิ์หรอก" เสี่ยวจูพูดจาเหน็บแนมในตอนท้าย ::)
"ข้าถามว่าเจ้าจับท่านนักพรตมาเพราะเหตุใดไยเจ้าไม่ตอบ สงสัยข้าคงจะได้เปลี่ยนไปชอบดื่มเลือดสดๆของชนชาวต่างชาติเป็นแน่แท้ และข้าชอบบุรุษผิวคล้ำ ร่างใหญ่ แลดูบึกบึนแข็งแรง" นางพูดตรงกันข้ามกับหน้าตาของเยรูฮาจาทุกประการ
-
(http://wudthipan.com/fucko/index.php?q=/image/2268.jpg)
แม่นางเมื่อไม่มีบ้านช่องให้กลับคืน เหตุใดไม่ติดตามเราผู้เป็นราชบุตรไป
ครั้งนี้พวกเราเป็นกองหน้าบุกเข้าดินแดนตงง้วนเพื่อจัดการกับเจ้าสำนักต่างๆ
ข่มขู่มิให้ชาวยุทธจักรยุ่งเกี่ยวกับการกรีฑาทัพของมองโกลเรา
แผ่นดินตงง้วนยามนี้มีแต่จะพินาศย่อยยับ
แม่นางหากยินยอมเป็นพระสนมย่อมเสพสุขวาสนาไม่สิ้น
ระหว่างที่พูดคุยกันพวกทหารก็ก่อกระโจมตั้งค่ายที่พัก
เยรูฮาจาย่อมนำตัวเสี่ยวจูเข้าไปยังกระโจมใหญ่ของตนเอง
เขาอุ้มนางให้นั่งลงบนเก้าอี้สนามอย่างแผ่วเบา
จากนั้นก็เดินออกไปสั่งการทหารที่เบื้องนอก
สักพักก็มีคนยกอาหารเข้ามา เป็น แพะย่างทั้งตัว ผักป่าจานหนึ่ง หม่านโถวสองเข่ง และน้ำซุปสองถ้วย ชานมแพะป้านหนึ่ง
อาหารวางลงบนโต๊ะ เยรูฮาจาใช้มีดหั่นเนื้อแพะส่วนที่ดีที่สุดวางลงบนจานเบื้องหน้าเสี่ยวจู
จากนั้นตบคลายจุดอัมพาตทำให้สองมือของนางเคลื่อนไหวได้
(http://wudthipan.com/fucko/index.php?q=/image/2268.jpg)
ล่วงเกินแล้ว ขอให้เราเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารแม่นางสักมื้อ เชิญตามสบาย
จากนั้นเยรูฮาจาก็เริ่มรับประทานอาหาร ตาก็คอยมองดูว่าเสี่ยวจูจะทำอย่างไรต่อไป
-
"..." เสี่ยวจูนิ่งเงียบขมวดคิ้วอย่างไม่ชอบใจ ในสมองมีความคิดต่างๆพันกันวุ่นวาย สุดท้ายนางก็จับตะเกียบ(หรือแถวนี้มีแต่ส้อม)แล้วส่งเนื้อแพะรสเลิศเข้าปาก ส่วนอาหารอื่นๆก็ดื่มกินพอให้หายหิวเท่านั้น ขณะกินนางก็ดูว่าตอนนี้กระบี่ไม้อยู่กับตัวใช่หรือไม่ แล้วนึกย้อนไปว่ากระโจมของราชบุตรนี้ตั้งอยู่ใจกลางของค่ายทหารเลยรึเปล่า
"ข้าไม่ต้องการเสพสุข ข้าต้องการเพียงพบหน้าพ่อแม่ของข้า" เสี่ยวจูตอบก่อนจะถามกลับว่า "การจับตัวเจ้าสำนักต่างๆหากทำได้ไม่ง่ายนัก ข้าคิดว่าถ้าสังหารเลยจะไม่เป็นการง่ายกว่ารึในเมื่อพวกเจ้าก็สังหารศิษย์สำนักเหล่านั้นราวกับผักปลาอยู่แล้ว"
-
กระโจมราชบุตรย่อมอยู่ใจกลางค่ายทหาร กระบี่ไม้ของนางก็ยังอยู่กับตัว
(http://wudthipan.com/fucko/index.php?q=/image/2268.jpg)
"หากสังหารเจ้าสำนัก ก็เพียงแต่งตั้งเจ้าสำนักใหม่ ถ้าจับตัวเอาไว้เหล่าศิษย์ย่อมมีข้อกริ่งเกรง..."
เสี่ยวจูคิดว่ายังมีเงื่อนงำอื่นๆอีก แต่ตอนนี้ยังนึกไม่ออก
พอกินอาหารไปได้สักพักเสี่ยวจูก็รู้สึกร้อนวูบวาบแปลกๆ หรือนางจะถูกพิษอะไรอีก...
เสี่ยวจูต้องรวบรวมสติต้านทานฤทธิ์ยาที่ครอบงำจิตใจให้ได้ ทอย+ปัญญา ดูว่าจะทำได้ไหม
-
ปัญญาหามีไม่...
"ทำไมข้า...รู้สึกแปลกๆ" เสี่ยวจูขมวดคิ้ว นางพยายามต้านฤทธิ์ยาอย่างเต็มกำลัง

Rolled 1d10 : 9, total 9
-
เสี่ยวจูพยายามคิดถึงบิดามารดา ในที่สุดก็ต้านทานฤทธิ์ยาไว้ได้ชั่วคราว +1EXP
แต่ก็สูญเสียกำลังภายในไปไม่น้อย (-1SP)
(http://wudthipan.com/fucko/index.php?q=/image/2268.jpg)
เยรูฮาจาเห็นเสี่ยวจูเงียบไป ทั้งมีใบหน้าแดงก่ำ เหงื่อออกโทรมกาย ก็ถามนางอย่างห่วงใย
"แม่นางเป็นอย่างไรแล้ว ยังโกรธเราอยู่อีกหรือ?"
เสี่ยวจูจะตอบโต้อย่างไร
-
"เจ้ามันสกปรก" เสี่ยวจูกัดฟันพึมพำคนเดียว นางรวบรวมสติแล้วแย้มยิ้มอย่างฝืนกำลังก่อนจะกล่าวว่า "วันนี้เดินทางไกล ข้าคงรู้สึกเหน็ดเหนื่อยหรือไม่ข้าก็อาจจะถูกแมลงพิษโสโครกกัดเอา ข้าขอลาไปพักผ่อน ขอบคุณสำหรับอาหารมื้อนี้ด้วย"
เสี่ยวจูขอตัวลา นางถามหาที่พักของตนซึ่งต้องไม่ใช่ที่นี่ บุรุษกับสตรีนอนร่วมห้องกันย่อมเป็นที่ติฉินนินทาแล้ว
-
(http://wudthipan.com/fucko/index.php?q=/image/2268.jpg)
ราชบุตรทำหน้าตาเหมือนสงสัยอะไรบางอย่าง จากนั้นก็บอกเธอว่า
"พวกเราเดินทางมาไกล ไม่ได้เตรียมกระโจมสำรองมา แม่นางคงไม่อยากพักร่วมกับทหารกระมัง"
จากนั้นราชบุตรก็ลุกขึ้น แล้วทำท่าทางเหมือนวิงเวียน ยกมือขึ้นกุมศีรษะ
เสี่ยวจูเห็นราชบุตรหายใจแรงใบหน้าแดงก่ำ พูดพึมพำว่า "หรือว่าพวกทหารลอบผสมผงชายหญิงสู่สมลงในอาหาร"
เยรูฮาจาค่อยๆเดินเข้ามาหาเสี่ยวจูช้าๆ ตอนนี้สองมือเธอขยับได้ แต่เท้าสองข้างยังด้านชา
เสี่ยวจูจะทำอย่างไร
-
^-^ ห๊ะ อะไรนะ ทหารจะผสมทำไมเล่า อย่ามาเนียนนะ
"เจ้าคงเหนื่อยมากแล้ว กลับไปนอนเถอะ ผสมผงอะไรนั่นไม่มีหรอกเจ้าคิดไปเอง"
นั่งรอนิ่งๆแต่มือเอื้อมไปหยิบกระบี่ไม้รอไว้ เมื่อเยรูฮาจาเข้ามาในระยะก็ฟาดกระบี่ใส่กลางหัวมันเลย

Rolled 1d10+1 : 9 + 1, total 10
-
เสี่ยวจูรอจังหวะเยรูฮาจาเข้ามาใกล้ ก็ชักกระบี่ฟาดใส่ศีรษะของเขา
เลือดไหลอาบใบหน้าของราชบุตรมองโกล (บาดเจ็บ1 เยรูฮาจา HP 4/5)
(http://wudthipan.com/fucko/index.php?q=/image/2268.jpg)
"แม่นางช่างร้ายกาจนัก สามารถต้านทานพิษของผงชายหญิงสู่สมได้"
เยรูฮาจายิ้มอย่างชั่วช้าลามก การกระทำเมื่อครู่ยอมตั้งใจเสแสร้งแกล้งดัดแล้ว
เยรูฮาจาล้วงพัดจีบออกมาใช้ต่างพู่กันสกัดจุด
เขาจ่อจี้ด้ามพัดใส่จุดเส้นที่ข้อมือ คิดปลิดอาวุธของเซี่ยวจู
-
เสี่ยวจูหลบวูบ (ความเร็ว+1)

Rolled 1d10+1 : 6 + 1, total 7
-
เยรูฮาจาจู่โจมพลาดผิด น่าเสียดายสองขาของเสี่ยวจุยังไม่อาจขยับ ได้แต่เอียงตัวหลบหลีกไปมา
ราชบุตรยังคงใช้ด้ามพัดจู่โจมอีกครั้งที่ตำแหน่งเดิม
-
เสี่ยวจูเหงื่อตก นางต่อว่ามัน "เจ้ามันไร้ยางอาย ทำร้ายสตรี เจ้าโสโครก เจ้าสกปรก เจ้า..."
ครานี้นางฟาดกระบี่สวนไปเลย มีเป้าหมายคือพัดของฝ่ายตรงข้าม ฟาดพัดปลิวให้หลุดออกจากมือมัน

Rolled 1d10+2 : 9 + 2, total 11
-
เสี่ยวจูใช้กระบี่ฟาดพัดกระเด็นหลุดจากมือเยรูฮาจา ทั้งยังฟาดจนข้อมือเขาเป็นจ้ำแดง (บาดเจ็บ1 เยรูฮาจา HP 3/5)
(http://wudthipan.com/fucko/index.php?q=/image/2268.jpg)
"สิ่งที่ได้มาอย่างยากลำบาก ย่อมมีรสชาติยิ่งนัก ตั้งแต่เราเป็นราชบุตรมายังไม่เคยมีสตรีนางใดดื้อรั้นถึงเพียงนี้"
เขาหยิบพัดจีบขึ้นมาอีก คราวนี้ไม่กล้าดูแคลนกำลังฝีมือของเสี่ยวจูอีก
ครั้งนี้เยรูฮาจาควงพัดจีบเป็นวง คล้ายจริงคล้ายมายา เสี่ยวจูไม่อาจเห็นชัดตาว่าด้ามพัดจะจู่โจมใส่จุดใด
ราชบุตรจู่โจมด้วยท่า ราตรีฝันยาวนาน -1 เต๋าโต้ตอบของเสี่ยวจู
-
"วิธีการของเจ้่าช่างสกปรกเช่นนี้ จะมีสตรีนางใดยอมเจ้าบ้างเล่า" เสี่ยวจูโต้กลับ แม้นางจะขยับเท้ามิได้แต่นางก็ยังแทงกระบี่ออกด้วยวิชาเพลงกระบี่พิรุณโปรย

Rolled 1d10+1 : 2 + 1, total 3
-
เมื่อถูกจู่โจมด้วยไม้ตาย เสี่ยวจูก็พลาดท่าเสียที โดนสกัดจุดที่ข้อมือจนไร้เรี่ยวแรง
ปล่อยกระบี่ไม้ตกลงบนพื้น เยรูฮาจาเตะกระบี่ไม้ไปที่มุมกระโจม
ก่อนจะหยิบถ้วยซุปมาจ่อที่ริมฝีปากเสี่ยวจู บังคับให้นางดื่มน้ำซุปเข้าไป
เซี่ยวจูจะทำอย่างไร
-
นางถลึงตาอย่างโกรธขึ้ง ปากเม้มแน่น ถ้าถูกบังคับกรอกปากก็ไม่กลืน ป้วนใส่ซะเลย
-
(http://wudthipan.com/fucko/index.php?q=/image/2268.jpg)
"ตกลง เราจะทำให้เจ้ายอมสยบให้ได้ มิฉนั้นไม่ขอเป็นผู้คน" เยรูฮาจากัดฟันกรอด
วุ่นวายจนเหนื่อย เยรูฮาจาเห็นเสี่ยวจูแน่วแน่ ก็รู้สึกว่ายากจะสำเร็จกิจการ ได้แต่ใช้ทหารเข้ามาเก็บกวาดกระโจมที่เละเทะ
คืนนั้นเยรูฮาจาอุ้มเสี่ยวจูวางลงบนเตียงของเขา ห่มผ้าให้ ส่วนตัวเองกลับนอนหลับฟุบกับโต๊ะ
ที่จริงราชบุตรจะส้่งนำเตียงมาเพิ่มก็ได้ แต่เกรงกลัวเป็นที่หัวเราะเยาะของเหล่าทหาร จึงต้องยอมกล้ำกลืนฝืนทน
เสี่ยวจูถูกสะกดจุดแขนขา นอนอยู่บนเตียง จะทำอะไรไหม
-
เสี่ยวจูพยายามเดินลมปราณคลายจุดสะกัดเสียก่อน
-
เสี่ยวจูไม่เคยฝึกวิชาทะลวงจุดมาก่อน จะทดลองดูไหม
หากผิดพลาด อาจมีอาการลมปราณแตกซ่านหรือกระอักโลหิตได้
ถ้าจะลองก็ทอย+ปัญญา
-
ลองดู ดีกว่านอนเฉยๆรอเวลาเจ้านั่นมาฉวยโอกาสลักหลับ เสี่ยวจูคิดเช่นนั้นก่อนที่นางจะหลับตาทำสมาธิ

Rolled 1d10 : 9, total 9
-
เสี่ยวจูเดินลมปราณเปะปะ มิคาดสามารถทะลวงจุดคลายออกได้
แต่ก็สูญเสียลมปราณไปไม่น้อย -2SP
เสี่ยวจูนอนนิ่งอยู่บนเตียง เยรูฮาจาเป็นยอดฝีมือคนหนึ่ง หากขยับวุ่นวายเขาอาจจะตื่นก็ได้
ถ้าจะขยับไปทำอะไรก็ทอย+ความเร็วดูว่าเยรูฮาจาจะรู้สึกตัวไหม
-
ถ้าคลายจุดได้แล้วเสี่ยวจูก็หมดห่วง ด้วยความเหนื่อยอ่อนก็ม่อยหลับไป
-
เสี่ยวจูเดินลมปราณทั้งคืน กว่าจะทะลวงจุดได้ก็เช้าพอดี
เยรูฮาจาตื่นมาก็ทำเป็นเนียนมานั่งบนเตียงข้างๆเสี่ยวจู รอให้ทหารยกน้ำเข้ามาให้ล้างหน้า
(http://wudthipan.com/fucko/index.php?q=/image/2268.jpg)
ซาลาเปาน้อยหลับสบายหรือไม่ เช้านี้ต้องการรับประทานอันใด
-
"ไม่ อย่ามายุ่งกับข้า ข้าจะนอน" เสี่ยวจูอยากจะนอนหลับพักผ่อนเต็มทน นางเอ่ยปากไล่เยรูฮาจาแล้วหลับตาหนี ถ้าหลับได้ก็หลับเลย
-
ได้ยินเสียวจูร่ำร้อง ทหารที่ยกอ่างล้างหน้าเข้ามาต้องลอบหัวร่อ หรือเมื่อคืนทั้งคู่มิได้หลับได้นอนแม้แต่น้อย
เยรูฮาจาล้างหน้าล้างตาแล้วใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำมาเช็ดหน้าให้เสี่ยวจู กำชับให้รีบตื่น พวกทหารจะเก็บกระโจมกันแล้ว
จากนั้นก็อุ้มเสี่ยวจู ออกมานั่งบนเก้าอี้
-
"เยรูฮาจา เจ้าไม่โกรธเคืองข้าและยังดูแลข้าดี แต่เมื่อคืนเจ้ากลับทำตัวหยาบช้า ข้าไม่เข้าใจเจ้าจริงๆว่าแท้จริงแล้วเจ้าเป็นคนเช่นไร" เสี่ยวจูเปรยขึ้นแต่ในประโยคมิวายจิกกัด ในใจนางรู้สึกสับสน แต่เมื่อนึกไปนึกมาก็ได้แต่ส่ายหน้าปฏิเสธ จะอย่างไรบุรุษต่างชาติผู้นี้ก็เลวล้ำ ไม่สามารถดีด้วยได้
เสี่ยวจูไม่อยากทานอะไร กลัวพิษในอาหารอีก นางทำตัวนิ่งประหนึ่งถูกสกัดจุดอยู่ก่อนจะโพล่งขึ้นว่า "ข้าอยากปลดทุกข์หนัก"
-
(http://wudthipan.com/fucko/index.php?q=/image/2268.jpg)
"ยากนักที่ซาลาเปาน้อยจะกล้าบอกเรื่องนี้กับเรา นับว่าพวกเราสนิทสนมกันมากกว่าเดิม"
ราชบุตรให้ทหารนำถังน้ำ กระโถน และผ้าเช็ดตัวเข้ามาวางข้างเก้าอี้เสี่ยวจู
เยรูฮาจาตบคลายจุดที่แขนให้นาง จากนั้นออกจากกระโจมไป ปิดประตูกระโจมแล้วสั่งไม่ให้ทหารเข้าใกล้บริเวณนั้น
เยรูฮาจาบอกว่า ถ้าทำธุระเรียบร้อยก็ให้ตะโกนบอก
-
(ตบคลายจุดให้ทั้งๆที่คลายอยู่แล้วมันจะกลับเป็นสะกัดจุดหรือเปล่าน่ะ)
เสี่ยวจูมองซ้ายมองขวาพลางคิดหาวิธีหลบหนี แต่คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออกได้แต่เดินพล่านไปมาในกระโจม สุดท้ายแล้ววิธีที่คิดออกก็คือการหาที่ซ่อนแล้วจัดฉากว่าหญิงสาวหลบหนีออกนอกกระโจมได้แล้ว ถ้าทำไม่ได้ก็ตั้งท่าถือกระบี่รอแล้วตะโกนบอกว่าจัดการธุระเสร็จแล้ว เมื่อราชบุตรเข้ามาในกระโจมก็จัดการฟาดกระบี่ไม้ใส่โดยไม่ให้ทันได้ตั้งตัว แล้ววิ่งหนี
-
เสี่ยวจูไม่ร้จะจัดฉากยังไง พอจะดักตีก็พบว่ากระบี่ถูกเก็บไปตั้งแต่เมื่อคืน ไม่รู้อยู่ไหนแล้ว
-
อ้าว... ยอมก็ได้
เสี่ยวจูจัดการทำธุระส่วนตัวให้เสร็จแล้วตะโกนบอกจากนั้นก็ทำตัวสงบเสงี่ยมไม่ดิ้นรนแล้ว
"ขอข้าไปคุยกับท่านนักพรตจะได้ไหม" นางขอ เพราะจำได้ว่าจุดประสงค์แรกๆคือถามท่านนักพรตนี่แหละว่าตอนที่เก็บเธอมาเลี้ยงที่ไปเจอจากที่ไหน
-
(ตบคลายจุดเป็นคนละที่กับจุดต่างๆน่ะ)
(http://wudthipan.com/fucko/index.php?q=/image/2268.jpg)
คงจะยาก นักพรตสนยะเยียบถูกส่งตัวไปกักขังไว้ที่อื่นตั้งแต่เมื่อคืน
จริงๆแล้วท่านแม่ทัพบอกว่าต้องสังหารเจ้าเสีย ไม่ให้ส่งข่าวแก่ชาวยุทธ
ดีที่เราช่วยขอชีวิตแม่นางไว้ แต่ก็จำเป็นต้องรั้งแม่นางไว้ข้างกาย
พอให้ทหารจัดการเก็บข้าวของเสร็จ ราชบุตรก็เดินเข้ามาทำท่าจะจี้จุดเสี่ยวจูไว้อีก
เสี่ยวจูจะทำอย่างไร
-
D{
เสี่ยวจูถอนหายใจ
"ข้าแค่อยากตามหาบิดามารดาข้าเท่านั้น ถ้าข้าไม่ถามจากท่านนักพรตเข้าคงหมดสิ้นหนทางแล้ว" แต่สถานการณ์ตอนนี้การตามหาบิดามารดาคงต้องรั้งรอไว้ก่อนกระมัง ในเมื่อข้าอยู่เบื้องหน้าศัตรูของหมู่มวลชาวยุทธ จะหาทางสังหารพวกเจ้าให้ได้
"ไม่ต้องจี้จุดข้าหรอก ถ้าเจ้าอยากให้ข้าอยู่ด้วยต้องอยู่แบบที่ข้าเต็มใจมิใช่รึ ดูสิทหารมีตั้งมากมายอีกทั้งยังมีม้า ข้าตัวเปล่าๆรึจะหนีไปที่ใดได้"
-
ลองต่อรองดู ทอย+เสน่ห์
-

Rolled 1d10 : 1, total 1
"นะ.."
-
(http://wudthipan.com/fucko/index.php?q=/image/2268.jpg)
ดูจากพฤติกรรมที่ผ่านมา เราคงเชื่อใจเจ้าไม่ได้หรอก เยรูฮาจาคลำแผลที่โดนฟาดศีรษะที่ยังบวมอยู่ไม่น้อย
เสี่ยวจูโดนสกัดจุดแขนขา แล้วอุ้มขึ้นมาอีกครั้ง
กว่าจะออกเดินทางก็เป็นเวลาสายแล้ว กองทหารม้าเคลื่อนทัพไปทางทิศตะวันตก
เสี่ยวจูจะทำอย่างไรต่อไป
-
ทิศตะวันตก มันคือที่ไหน เธอทบทวนความจำดู
เสี่ยวจูไม่คิดจะทำอะไรต่อไป ชวนเยรูฮาจาคุย น่าจะเรียกว่าถามมากกว่าคุย
"เจ้าจะพาข้าไปถึงที่ไหนคงไม่ใช่พากลับบ้านเมืองของเจ้านะ ข้ามีเรื่องสำคัญต้องทำอยู่ แต่ข้าคิดว่าอีกประเดี๋ยวเจ้าก็เบื่อข้าและปล่อยข้าไปใช่ไหม มิเช่นนั้นข้าจะทำตัวให้น่ารำคาญกระทั่งเจ้าไล่ข้าไปเอง"
-
(http://wudthipan.com/fucko/index.php?q=/image/2268.jpg)
"พวกเรากำลังเดินทางไปวัดเส้าหลิน ภูเขาเซียวสิกซัว"
เยรูฮาจาบอกว่ายิ่งเสี่ยวจูทำตัวน่ารำคาญเขายิ่งชื่นชอบ ลองทำดูก็ได้
แม่ทัพมองโกลควบม้าติดตามมา บอกราชบุตรว่ามีเรื่องปรึกษา ขอให้นำตัวเสี่ยวจูไปฝากไว้กับทหารองครักษ์ก่อน
เสี่ยวจูจะทำอย่างไร
-
ได้ฟังเช่นนั้นเสี่ยวจูก็ทำสีหน้าพิลึกพิลั่นพูดไม่ออก ราชบุตรผู้นี้มีรสนิยมแปลกพิสดาร สตรีทำตัวน่ารำคาญกลับชมชอบ
บ้าไปแล้ว
เมื่อแม่ทัพมองโกลมาบอกว่ามีเรื่องจะปรึกษากับบุรุษรสนิยมประหลาดนี้ นางพลันรู้สึกยินดีที่จะได้อยู่ห่างจากเขา แต่นึกไปนึกมาหากทหารเหล่านั้นสังหารข้าเล่า ถูกสกัดจุดเช่นนี้จะไปสู้อะไรได้
เสี่ยวจูจึงมองไปยังเยรูฮาจา ให้เขาเป็นผู้ตัดสินใจ
-
เยรูฮาจาเห็นเสี่ยวจูมองมาก็คิดว่านางส่งสายตาอ้อนวอนไม่อยากจากไป
เขาจึงพยักหน้าให้ บอกแม่ทัพมองโกลว่า
(http://wudthipan.com/fucko/index.php?q=/image/2268.jpg)
ตอนนี้นางถือเป็นชาวมองโกลครึ่งหนึ่ง ท่านแม่ทัพมีอะไรก็พูดมาเถอะ
แม่ทัพมองโกลปรึกษาเรื่องการจับกุมตัวหลวงจีนเสี้ยวลิ้มยี่
พูดถึงการใช้ฝุ่นหอมวิญญูชน การขโมยคัมภีร์วิทยายุทธ์ อันใด
ทั้งคู่พูดกันด้วยภาษามองโกล เสี่ยวจูจึงจับเค้าได้อย่างเลือนราง
จนกระทั้งถึงเวลาบ่าย ทั้งคู่ค่อยปรึกษากันจบสิ้น
เนื่องจากเร่งรีบเดินทาง จึงไม่ได้หยุดพักรับประทานอาหาร
มีคนส่งถุงนมแพะมาให้เยรูฮาจา เขาดื่มไปครึ่งถุงก็ยื่นต่อให้เสี่ยวจู
พร้อมกับคลายจุดที่แขนของนาง
เสี่ยวจูจะทำอย่างไร
-
ในตอนนี้เสี่ยวจูชักหวาดระแวงไปเสียทุกอย่าง แต่คิดมากไปเครียดหัวแตกพอดี
นางขมวดคิ้ว ทำไมถึงต้องกินต่อครึ่งที่เหลือจากเจ้าด้วย นางคิด แต่นั่นเป็นการยืนยันว่าไม่มีพิษในอาหาร
"...ถึงเจ้าจะดูแลข้าดีอย่างไร แต่มันก็ไม่สามารถลบล้างเรื่องเมื่อคืนได้" เสี่ยวจูยังคงพูดจาไม่ดี นางไม่แม้แต่เอ่ยคำขอบคุณทั้งๆที่อีกฝ่ายมีศักดิ์สูงกว่า มือที่ถูกคลายจุดก็คว้าถุงนมแพะรับมาดื่มแก้หิว
-
พอเห็นว่าเสี่ยวจูไม่ต่อต้านอะไร เยรูฮาจาก็ไม่ได้สกัดจุดที่แขนของเธออีก
ทั้งหมดเดินทางจนถึงตอนเย็น ก็มาถึงที่ราบเชิงเขาแห่งหนึ่ง พวกมองโกลพยายามหลีกเลี่ยงเส้นทางสัญจร
เดินทางผ่านเขตแดนรกร้าง จึงไม่พบกับหมู่บ้านระหว่างทาง
พวกทหารกำลังเตรียมตั้งกระโจมสำหรับคืนนี้ หน่วยสอดแนมมารายงานว่าพบน้ำตกใกล้กับเชิงเขา มีทำเลมิดชิด
เยรูฮาจาก็ถามเสี่ยวจูว่าสนใจจะไปอาบน้ำไหม
-
"....." นี่คงเป็นโอกาสอันดีที่ข้าจะได้ลอบหลบหนี คิดได้ดังนั้นจึงพยักหน้า "ข้าอยากอาบน้ำ สตรีตัวเหม็นดูไม่ดีนัก"
-
(https://encrypted-tbn2.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcQf7Ayi5LZXcmWL5ARxCODpZHJPvCf2MgpKcOQ8wfGJut-P0YCc)
น้ำตกนั้นมีทำเลมิดชิดจริงๆ อยู่ที่กลางหุบเขา มีทางเข้าออกทางเดียว
เยรูฮาจาขี่ม้ามาส่งเสี่ยวจู ที่หน้าหุบเขา คลายจุดให้นางแล้วก็เฝ้าอยู่ที่ทางเข้า
(http://wudthipan.com/fucko/index.php?q=/image/2268.jpg)
"เรารออยู่ที่นี่ รับรองว่าเราไม่แอบดู ถ้าเจอเสือลงมาจากเขาก็ร้องบอกแล้วกัน" เยรูฮาจากล่าวยิ้มๆ
เสี่ยวจุจะทำอย่างไร
-
ตอนนี้ความไม่เชื่อใจของนางมีต่อบุรุษผู้นี้เท่ากับแปดในสิบส่วน แต่นางก็คิดว่าเขาคงมีศักดิ์ศรีและสัจจะในคำพูดตัวเองบ้างจึงพยักหน้าแล้วเตรียมตัวไปชำระล้างร่างกาย
เมื่อไปถึงที่น้ำตกกลับยังไม่อาบน้ำอย่างที่ว่า แต่เดินดูบริเวณรอบๆอีกทั้งดำลงไปใต้น้ำหวังหาทางออก
-
บริเวณรอบๆเป็นผนังภูผาสูงชัน แต่ยังสามารถปีนขึ้นไปได้ แม้จะยากเย็นไม่น้อย (ทอย+ความเร็ว -1 จากความชัน)
เสี่ยวจูดำลงไปใต้น้ำก็เสาะพบถ้ำเล็กๆแห่งหนึ่ง ไม่ทราบว่าลึกแค่ไหนหรือมีทางไปออกที่ใดหรือไม่
-
เสี่ยวจูดำลงไปในถ้ำ กลั้นหายใจลึกๆและมุดเข้าถ้ำไป แตะๆเลียดเพดานถ้ำ คอยดูดฟองอากาศที่เกาะอยู่เพื่อต่อลมหายใจเข้า
-
ถ้ำนั้นอยู่ใต้น้ำ ภายในมืดมิดมองไม่เห็นอันใด
ถ้าจะดำไปจนสุดต้องกลั้นลมหายใจ (ใช้1SP แล้วทอย+พลังกาย) เพื่อดำเข้าไปดูว่าจะสำเร็จไหม
ตอนนี้มี 1SP จากการดื่มนมแพะ
-
เอ้า ฮึบ
บุ๋งๆๆๆ

Rolled 1d10+1 : 10 + 1, total 11
-
เสี่ยวจูดำเข้าไปจนสุดทางพบว่าถ้ำนั้น...

Rolled 1d2 : 2, total 2
1 ตัน
2 มีทางไปต่อ
-
เสี่ยวจูดำผุดดำว่ายดุจมัจฉา ไปตามทางที่ลาดชันขึ้นเรื่อยๆของผนังถ้ำ
จนกระทั่ง มองเห็นแสงสว่างที่ปลายถ้ำรำไร กลับพบว่าตนเองมาโผล่ที่บึงน้ำเล็กๆแห่งหนึ่งบนเขา
มีน้ำตกเล็กๆไหลรินลงมา เป็นทิวทัศน์ที่งดงามยิ่งนัก
ในที่สุดเธอก็หนีรอดจากเงื้อมมือของราชบุตรมองโกล
+5EXP
เสี่ยวจูมองดูรอบข้าง พบว่าตนเองขึ้นมาอยู่ที่ขอบผาซึ่งเป็นผนังด้านหนึ่งของน้ำตกที่เยรูฮาจาพาเธอมา
มองลงไปยังเห็นเยรูฮาจาขี่ม้าเฝ้าอยู่ที่ทางออก
เธอจะทำอย่างไร
-
"ลาล่ะ" เสี่ยวจูหาทางลงที่ไม่ใช่ทางที่ไปหาเยรูฮาจา ลงได้แล้วหนีเลยไม่อยู่แล้ว ดูว่าขโมยม้าได้หรือไม่เพราะจะหนีถ้าวิ่งไปคงไม่พ้น
-
เสี่ยวจูอยู่ที่ขอบผา ใกล้ๆเป็นบึงน้ำซึ่งอยู่ติดกับดงไม้ ตอนนี้พระอาทิตย์กำลังตกดิน
เป็นเวลาใกล้ค่ำ ทิศทางยากจำแนก เธอจะลองเดินสุ่มเข้าไปในป่าไหม
หรือจะเดินทางอย่างไร หรือจะทำอย่างอื่น
-
เสี่ยวจูเดินเข้าไปใกล้ๆบึงน้ำ เดินดูรอบๆหาที่นอน เข้าไปแอบในพุ่มไม้ถอดผ้าออกมาตากให้แห้งก่อน ถึงไม่แห้งแต่พอฟ้ามืดก็นำเสื้อมาสวมกลับ หาสุมพุ่มไม้ใต้ผาหลบนอนเอาแรงเพื่อรอให้กลุ่มชาวต่างชาติจากไป
-
ริมบึงน้ำมีหินก้อนใหญ่ที่ราบเรียบราวโต๊ะตัวหนึ่ง พออาศัยพักผ่อนได้
เสี่ยวจูคิดว่าถึงผึ่งผ้าไปตอนกลางคืนถ้าไม่มีกองไฟคงไม่ทันแห้ง
ค่ำแล้ว เสี่ยวจูมองเห็นกองไฟอยู่ไกลๆ คงเป็นของค่ายพักของพวกมองโกล
เธอรู้สึกเหน็บหนาว หิวโหย โดดเดี่ยว ลำพัง นั่งคู้เข้ากอดอกริมบึงบนผาสูง
เสี่ยวจูจะทำอย่างไร
-
เสี่ยวจูเดินไปทางกองไฟของค่ายมองโกล ลอบเข้าไปขโมยอาหารดีกว่า
-
ยังไม่พบทางเดินไปค่าย เสี่ยวจูเดินตามแสงไฟไปก็พบตัวเองอยู่ริมผาเดิม ที่เธอเคยมองเห็นเยรูฮาจา
ถ้าเดินตรงต่อไปก็จะต้องโดดหน้าผาลงไปในบึงน้ำตกเบื้องล่าง
เสี่ยวจูจะทำอย่างไร
-
อ่อ คือตอนนี้อยู่บนหน้าผาที่ไม่มีทางลงสินะ งั้นเสี่ยวจูก่อไฟดีกว่า พวกนั้นคงไม่เสียเวลาออกมาดูหรอกมั้ง
"หนาว" พึมพำๆ แล้วเก็บกิ่งไม้ใบไม้แห้งมาก่อไฟ
-
เสี่ยวจูไม่มีชุดไฟ ไม่มีแรงจะจุดไฟแล้วด้วย
เธอรู้สึกเหน็บหนาว หิวโหย โดดเดี่ยว ลำพัง นั่งคู้เข่ากอดอกริมบึงบนผาสูง
เสี่ยวจูจะทำอย่างไร
-
รู้เช่นนี้ข้าคงไม่หลบหนีมาหรอก แต่จะให้กลับไปก็ไม่เอานางจึงทนหนาวแล้วนอนคู้กายหลับไป ตื่นมาคงป่วยไข้เป็นแน่แท้
-
เสี่ยวจูนอนหลับๆตื่นๆจนเช้า อากาศบนภูเขาไหนเลยคล้ายกระโจมอันอบอุ่นของเยรูฮาจา
เสี่ยวจูรู้สึกเหนื่อยล้า เรี่ยวแรงยังไม่ฟื้นฟูเท่าใด คงเพราะความลำบากตรากตรำที่ได้รับ
แสงอาทิตย์ส่องกระทบดงไม้ริมบึงน้ำ ในเมื่อฝั่งนี้เป็นริมผา
หากเดินฝ่าดงไม้ไปยังอีกฝั่งอาจจะมีเส้นทางเดิน
เสี่ยวจูจะทำอย่างไร
-
เดินเข้าไปในป่ามุ่งหน้าตรงไปเรื่อยๆ ถ้าเป็นป่าเปิดก็เงยหน้ามองดวงอาทิตย์เพื่อบอกทิศทาง จะได้ไม่เดินวน
เสี่ยวจูเดินอย่างเหนื่อยอ่อน แต่ในใจยังคงมุ่งมั่น ถ้าเหนื่อยก็พิงพักข้างต้นไม้แล้วเดินต่อไป
-
เสี่ยวจูเสี่ยงเดินทางเข้าดงไม้ ดวงอาทิตย์อยู่เหนือศีรษะ รอบข้างอึมครึมด้วยเงาหมอก
เสียงแมลงร้องดังระงม
ทอย+รับรู้ ว่าจะเจออะไรไหม
-
เสี่ยวจูเองก็ไม่ได้เชี่ยวชาญการเดินป่า หากหลงทางคงแย่แล้ว แล้วนี่กระบี่ไม้อาวุธติดตัวเพียงชิ้นเดียวคงถูกพวกคนโฉดเหล่านั้นแย่งชิงไป หนทางการตามหาบิดามารดาตนเองมันช่างยากลำบากเช่นนี้เอง ทางที่ดีน่าจะเข้าเมือวรับงานทำเสียเล็กน้อยเพื่อซื้ออาหารไว้กักตุนระหว่างเดินทางคงจะดี แต่ตอนนี้คงต้องหาถนนหลักก่อนล่ะ

Rolled 1d10 : 4, total 4
-
เสี่ยวจูเดินหลงทาง วนไปวนมาจนถึงตอนบ่าย ยังไม่พบเส้นทางใด
แม้แต่ทางกลับไปที่เดิมก็หาไม่เจอแล้ว
ถ้าจะเดินสุ่มไปเรื่อยๆ ก็ทอยเต๋าเหมือนเดิม
-

Rolled 1d10 : 4, total 4
"มองไปทางใดก็เจอแต่ต้นไม้ ข้าล่ะนับถือพวกนักท่องยุทธภพนักที่เดินทางหลายลี้ได้โดยไม่หลงทาง" เสี่ยวจูรำพึงรำพัน แม้จะเหนื่อยแต่ก็ไม่รู้สึกแย่เท่ากับอยู่ในกลุ่มชาวต่างชาติชั่ช้า นั่นสินะ ข้าคงต้องไปแจ้งข่าวเกี่ยวกับคนเหล่านี้ให้ชาวเราได้รู้ จะได้ออกขัดขวางไม่ให้พวกมันยึดประเทศเรา
-
เสี่ยวจูเดินหลงทาง วนไปวนมาจนถึงตอนเย็น ยังไม่พบเส้นทางใด
แม้แต่ตอนนี้กำลังเดินขึ้นหรือลงเขาก็ไม่รู้แล้ว
ถ้าจะเดินสุ่มไปเรื่อยๆ ก็ทอยเต๋าเหมือนเดิม
-
( T--T)
ข้ารู้สึกว่าใกล้จะถึงที่หมายแล้ว... เสี่ยวจูให้กำลังใจตัวเอง

Rolled 1d10 : 5, total 5
-
เสี่ยวจูเดินหลงทาง วนไปวนมาจนถึงตอนมืดค่ำ ยังไม่พบเส้นทางใด
ยามนี้แม้แต่นิ้วมือของตนเองก็ยังมองแทบไม่เห็น
หนาวก็หนาว หิวก็หิว
ขณะที่กำลังรู้สึกสิ้นหวัง เสี่ยวจูก็มองเห็นแสงคบไฟ อยู่ไกลๆ
เสี่ยวจูจะทำอย่างไร
-
รอดแล้ว! (น้ำตาจิไหล)
เสี่ยวจูย่องเข้าไปใกล้ๆ แลดูว่าเป็นคบไฟของผู้ใดกัน แต่อย่าเข้าไปใกล้มากเดี๋ยวฝ่ายตรงข้ามรู้ตัว
-
ถ้าจะย่องเข้าไป ต้องลองทอย+ความเร็ว ดู ว่าจะสำเร็จไหม
-
นางย่องประหนึ่งแมวเดิน

Rolled 1d10+1 : 10 + 1, total 11
-
เสี่ยวจูย่องเข้าไปแอบหลังพุ่มไม้อย่างแผ่วเบา
พบว่ามีคนสองคนถือคบไฟ เดินตรวจตราตามที่ต่างๆ
สองคนนั้นใส่ชุดมองโกล พูดคุยกันว่า
"คนรักของท่านราชบุตรหายตัวไป ท่านราชบุตรกลับสั่งให้พวกเราแยกย้ายกันค้นหาจนถึงภูเขาปีศาจนี่ นับว่ายากทนทานจริงๆ"
เสี่ยวจูจะทำอย่างไร
-
"..." หนีไม่พ้นจริงๆ
เสี่ยวจูนำดินมาพอกหน้าให้สกปรกมอมแมม ก่อนที่จะควานหาหินก้อนหนึ่งปาไปยังทิศทางตรงกันข้ามเพื่อให้เกิดเสียง
-
นั่นเสียงอะไร...ทหารคนนึงพูดขึ้น
จากนั้นก็พากันเดินไปส่องคบไฟตรวจสอบดู อีกฝั่งนึง
เสี่ยวจูจะทำอย่างไร
-
ทำไมไปพร้อมกะนสองคนเลยเล่า :(
เสี่ยวจูตัดสินใจอย่างรวดเร็ว นางพุ่งตัวเข้าไปนั่งริมกองไฟจากนั้นก็ขยี้ผมให้เกระเซอะกระเซิงปิดหน้าปิดตา พร้อมกับก้มหน้าให้เงามืดกลืนไป ทำตัวให้เหมือนผี
-
ทหารเดินไปส่องทั้งสองคน
แถวนั้นไม่มีกองไฟ มีแต่คบไฟที่ทหารคนนึงถือ ทหารอีกคนถือหอก เขี่ยตามพุ่มไม้ที่มีเสียง
เสี่ยวจูจะทำอย่างไร
-
เสี่ยวจูเปลี่ยนแผน นางเดินเข้าไปหาทหารสองคนนั้นช้าๆ ทำเสียงยานคางถามว่า "กำลังงงงหาาาาอาารายยยอยู่หรืออออ---"
-
ทหารสองคนท่าทางตกใจ แต่ไม่ถึงกับวิ่งหนี
ทหารคนแรกกล่าวว่า "ชุดที่นางใส่เป็นชุดของคนรักท่านราชบุตร"
ทหารอีกคนกล่าวว่า "หรือนางเสียชีวิต กลายเป็นปีศาจหัวโตมาหลอกหลอนเรา"
ทหารคนแรกตะคอกว่า "ผายลม ปีศาจหัวโตอันใด นางคงตกหล่มโคลน จึงเสียสติไป"
ถ้าจะหลอกว่าเป็นผี ทอย+เสน่ห์ ดู
หรือเสี่ยวจูจะทำอย่างอื่นดี
-
เสียสติรึ?
เสี่ยวจูพยายามกลั้นหัวเราะ นางไม่แสร้งหลอกว่าเป็นผีอีกแต่ก็ไม่เฉลยตัวว่าเป็นใคร นางทำตัวให้ดูเสียสติอย่างที่ทหารว่า
"เจ้าเป็นผีหัวโต เจ้าเป็นผีหัวโต ข้าก็เป็นผีหัวโต" พูดจาสับสน
-
ทหารสองคนท่าทางสงสัย
ทหารคนแรกกล่าวว่า "หรือนางจะเสียสติ"
ทหารอีกคนบอกว่า "ยังไงก็ต้องพานางไป หรือเจ้ากล้าขัดคำสั่งราชบุตร"
ทหารที่ถือหอกส่งหอกให้คนถือคบเพลิง จากนั้นหยิบเชือกหนังวัวมาถือ เดินเข้ามาทำท่าจะมัดเสี่ยวจู
เธอจะทำอย่างไร
-
"ข้ารู้นะ เจ้าจะเอาเชือกมาผูกผมให้ข้าใช่ไหม ไม่ได้! ข้าต้องให้บุรุษที่ข้ารักเท่านั้นแตะต้องตัวข้าได้" นางพูดจาเพ้อเจ้อ ในวินาทีนั้นเองเสี่ยวจูพลันกระโดดเข้าใส่ทหารถือเชือก พลักให้เขาเสียหลักล้มลง

Rolled 1d10 : 5, total 5
-
มีพลังกาย+1น่ะ
ทหารนั้นถูกเสี่ยวจูผลักล้มลง แต่ก็คว้าจับข้อมือเสี่ยวจูได้ทัน
ทั้งคู่เลยล้มกลิ้งไปด้วยกัน
ทหารที่ถือคบไปเห็นเหตุการณ์ยุ่งเหยิง ได้แต่แตกตื่นลนลาน ยังไม่กล้าตัดสินใจทำอะไร
เสี่ยวจูจะทำอย่างไร
-
หญิงสาวรีบลุกขึ้น ถ้าทหารยังจับข้อมืออยู่ก็ให้สะบัดออก ถ้าไม่ได้ถูกจับอยู่ก็พุ่งเข้าใส่ทหารถือคบเพลิงเพื่อแย่งหอกมา

Rolled 1d10+1 : 10 + 1, total 11
-
เสี่ยวจูรีบลุกขึ้น พอเห็นว่าข้อมือของตนยังถูกทหารจับเอาไว้ก็ถีบท้องทหารคนนั้นเท้าหนึ่ง
พอทหารคนนั้นร้องด้วยความเจ็บปวด มือก็คลายออก ทหารคนนั้นยังนอนกุมท้องอยู่บนพื้น (ตีโดนแต่AT=0)
ทหารอีกคนเห็นเสี่ยวจูมีฝีมือร้ายกาจ ก็โยนคบไฟลงบนพื้น ถือหอกในท่าเตรียมพร้อม ป้องกันการโจมตีของเธอ
เสี่ยวจูจะทำอย่างไร
-
เสี่ยวจูลองเสี่ยงดู ระหว่างมือเปล่ากับหอกใครจะชนะ >:(
เข้าไปสับข้อมือศัตรูให้หอกหลุดออกจากมือ

Rolled 1d10+1 : 1 + 1, total 2
-
เสี่ยวจูรู้ผลในไม่ช้า ไม่กี่ท่าเพลงเธอก็เพลี่ยงพล้ำ
ทหารถือหอกยังไม่ถึงกับกล้าทำร้ายเธอ ได้แต่ใช้หอกแทงชุดของเธอตรึงไว้กับต้นไม้
หากเธอดิ้นรนวุ่นวายชุดที่มีอยู่ตัวเดียวจะขาดแล้ว
ทหารที่ล้มอยู่ก็ลุกขึ้นมา ถือเชือกหนังวัวเดินเข้ามาหาเธออีกครั้ง อย่างระมัดระวังกว่าเดิม
เสี่ยวจูจะทำอย่างไร
-
ยอมก็ได้ ข้าเหนื่อยแล้ว ข้าหิวข้าว ข้าง่วงนอน ข้าหนาว ข้าเมื่อย
เสี่ยวจูยอมให้ถูกจับกลับไปง่ายๆ ระหว่างนั้นไม่ลืมที่จะทำตัวให้ดูสติไม่ดีด้วยการพูดจาเลอะเลือนเพ้อเจ้อ
-
ทหารจับเสี่ยวจูมัดมือ แล้วก็จูงพาลงจากเขาตลอดคืน
พอพระอาทิตย์ขึ้น ก็มาถึงค่ายทหารมองโกล
ทหารทั้งสองคนนำตัวเสี่ยวจูมาพบเยรูฮาจาที่กระโจม
ท่านราชบุตรพอเห็นเสี่ยวจูมาถึง ก็ลุกขึ้นจากโต๊ะอาหาร
วิ่งเข้ามาสวมกอดเสี่ยวจูอย่างรักใคร่ เสี่ยวจูแอบเห็นนัำตาแห่งความดีใจ ของเขาแวบหนึ่ง ก่อนที่เยรูฮาจาจะเช็ดมันกับเรือนผมของเธอ
(http://wudthipan.com/fucko/index.php?q=/image/2268.jpg)
"ซาลาเปาน้อย เจ้าได้รับความลำบากมากแล้ว เจ้าถูกเสือร้ายคาบไปหรือไร"
"ช่างเถอะ หิวหรือไม่ เหนื่อยหรือไม่ จะรับประทานอาหารก่อนไหม"
เสี่ยวจูเริ่มรู้สึกว่า การตามหาพ่อแม่ของเธอชักจะยากเย็นเกินไป
ความมุ่งมั่น -5
เสี่ยวจูอยู่ในอ้อมกอดของราชบุตร เธอจะทำอย่างไร
-
อร้ากกกกกกกกก เช็ดน้ำตาที่ผมชั้นเหรอ ยี้
เสี่ยวจูขมวดคิ้วดิ้นหนีและแกล้งทำตัวความจำเสื่อมเสียเลย "ซาลาเปา ข้าชื่อซาลาเปาหรือ แล้วเจ้าเป็นใครกัน ไยมาทำตัวรุ่มร่ามกับข้าเช่นนี้"
"แต่ข้าหิวและเหนื่อยมาก ขอรับประทานอาหารก่อนค่อยสนทนากัน"
-
(http://wudthipan.com/fucko/index.php?q=/image/2268.jpg)
ข้า...เป็นสามีของเจ้า o/// ท่านราชบุตรก็เนียนไปเรื่อย
เขาจัดแจงแก้มัดให้เสี่ยวจู พาไปนั่งโต๊ะอาหาร มีหม่านโถวและเนื้อแพะย่าง
ท่านราชบุตรก็หั่นเนื้อแพะป้อนให้เธอรับประทาน
เสี่ยวจูจะทำอย่างไร
-
นางขมวดคิ้วอีกครา ไม่ตอบคำอะไร
"ข้ามิได้พิการ มือข้าหยิบจับอาหารเข้าปากเองได้ ไม่..." เสี่ยวจูเกือบจะพูดจาเหน็บแนมอีกฝ่ายด้วยความเคยชิน แต่แล้วก็เงียบไว้ดีกว่าและยอมอ้าปากกินเนื้อแพะที่ราชบุตรป้อนให้
"ข้าจำมิได้ว่าเคยมีสามี ท่านหลอกข้า" พูดตามความจริงนะเนี่ย ถึงไม่ได้สติเลอะเลือนแต่นางก็จำได้จริงๆว่าไม่ได้ตกปากรับคำว่าจะเป็นภรรยาของบุรุษผู้นี้แต่เมื่อใด พูดจามั่วซั่วเสียจริง
-
(http://wudthipan.com/fucko/index.php?q=/image/2268.jpg)
ราชบุตรเทชานมแพะให้เสี่ยวจูดื่ม บอกว่ากินไปพูดไปจะสำลักอาหารได้
จากนั้นตอบว่า "เจ้าซาลาเปาน้อยคงความจำเสื่อมหรือเลอะเลือนไป หากเจ้าไม่ได้เป็นภรรยาของเราแล้วเราจะดีต่อเจ้าถึงเพียงนี้เชียวหรือ"
เสี่ยวจุจะทำอย่างไร
-
เสี่ยวจูรับชานมแพะมาดื่มเพราะคิดว่าตอนนี้ยังเป็นเวลาเช้าที่ต้องเดินทาง เจ้าราชบุตรนี่คงไม่มีลูกเล่นลวดลายอันใดหรอก
"ท่านดีกับข้าจริงๆ" นางยิ้มให้ เป็นรอยยิ้มแฝงแผนการเอาไว้ นางจะทำตัวดีต่อบุรุษผู้นี้เสียหน่อย ดูท่าทีว่าเขาจะทำเช่นไร หากข้าไม่ทำตัวน่ารำคาญแล้วราชบุตรนี่คงเบื่อและปล่อยข้าไป
-
ราชบุตรมีท่าทางยินดี จากนั้นถามเสี่ยวจูว่าออกเดินทางไหวหรือไม่ หรือจะนอนพักก่อน
-
"ข้าเหนื่อยเหลือเกิน" เสี่ยวจูบอก "นั่งหลับบนหลังม้าได้ไหม ไม่อยากรบกวนเวลาการเดินทางของผู้อื่น"
เดินทางต่อได้เลย ไม่เป็นไร
-
เสี่ยวจูฟื้นฟูเรี่ยวแรงเล็กน้อยจากการกินอาหาร +1SP
ราชบุตรสั่งให้เคลื่อนทัพ พวกทหารก็เก็บค่ายกระโจมอย่างเป็นระเบียบ
ไม่นานก็สามารถออกเดินทางได้อีก
ตอนนี้เป็นเวลาสาย เสี่ยวจูนั่งม้าตัวเดียวกันกับเยรูฮาจา
แต่ครั้งนี้เขามิได้จี้จุดหรือพันธนาการนางแต่อย่างใด
(http://wudthipan.com/fucko/index.php?q=/image/2268.jpg)
ถึงการงานจะล่าช้าไปบ้าง แต่ก็ดีแล้วที่เจ้าปลอดภัย ค่ำนี้พวกเราคงเดินทางถึงเมืองน้อย
ที่เชิงเขาเซียวสิกซัว พรุ่งนี้เช้าจะไปคำนับเจ้าอาวาสวัดเส้าหลินกัน
เสี่ยวจูจะทำอย่างไร
-
"ไปคำนับเจ้าอาวาสไยต้องยกพลไปตั้งมากมายเช่นนี้เล่า ดูเอิกเริกยิ่งนัก" เสี่ยวจูทำเนียนจำไม่ได้ นางยอมนั่งม้าไปดีๆ ในใจคิดว่าจะติดตามไปถึงเส้าหลินเพื่อเตือนถึงเล่ห์กลของคนเหล่านี้
แต่ตอนนั่งบนหลังม้าก็ขยับออกมาไม่ให้ชิดกับเยรูฮาจามากเกินไป แถมพูดด้วยว่า "ปกติสามีภรรยาต้องนั่งม้าตัวเดียวกันหรือ ข้ารู้สึกไม่ชินและค่อนข้างอายที่มีผู้คนมากมายเห็นพวกเราที่..." ว่าแล้วก็ก้มหน้าแสร้งขวยเขิน
-
(http://wudthipan.com/fucko/index.php?q=/image/2268.jpg)
เยรูฮาจาตอบว่า "เราเป็นถึงราชบุตรประเทศหนึ่ง มีเพียงทหารกองร้อยติดตามเท่านี้นับเป็นอย่างไรได้"
"พวกเราย่อมไปคำนับท่านเจ้าอาวาส เพื่อให้ท่าน... o/// เป็นสักขีพยานในการแต่งงาน"
เสี่ยวจูจะทำอย่างไร
-
"ระ..ระ..เรากำลังจะแต่งงานกัน?! ผู้ใดกล่าวว่าจะแต่งกับเจ้า!" เสี่ยวจูติดอ่างเผลอร้องอุทาน แต่ก็ได้สติรีบเอ่ยแก้ "ที่ข้าแปลกใจเพราะสงสัยว่าเราไม่ได้แต่งงานกันอยู่แล้วรึ ก็ท่านบอกข้าว่าเราเป็นสามีภรรยากัน"
นางทุบอกเยนูฮาจาไปปึ้กหนึ่ง(แรงๆ)ด้วยความเขินอาย
-
(http://wudthipan.com/fucko/index.php?q=/image/2268.jpg)
"ตอนนี้ยังเป็นเพียงสามีภรรยาทางพฤตินัย หากต้องเดินทางกลับมองโกลไปขออนุญาติ เสด็จพ่อ หนึ่งนั้นนานเกินไป เกรงเจ้าจะมิอาจทนรอ"
"เจ้าเมื่อไม่มีบิดามารดาเราจึงคิดให้เจ้าอาวาสวัดเส้าหลินเป็นสักขีพยานแทน"
ทั้งสองเพ้อเจ้อกันไปจนลืมเวลา ในที่สุดมาถึงเมืองน้อยเชิงเขาเซียวสิกซัวในตอนใกล้ค่ำ
พวกทหารกำลังตั้งค่ายพักแรมที่ตำแหน่งห่างจากเมืองน้อยสิบลี้
เสี่ยวจูจะทำอย่างไร
-
"เราจะแวะเข้าเมืองไปท่องเที่ยวกันหรือไม่" เสี่ยวจูถามเยรูฮาจา "แต่คงมิใช่วันนี้ วันนี้เดินทางมาเหนื่อยข้าอยากพักผ่อนมากกว่า"
เสี่ยวจูบอกว่าอยากไปเที่ยวในเมืองวันพรุ่งนี้เช้า ไปได้ไหม
-
(http://wudthipan.com/fucko/index.php?q=/image/2268.jpg)
เมืองน้อยไม่มีอันใดน่าสนใจ แต่ถ้าเจ้าอยากชมดูก็ย่อมได้แน่นอน
กระโจมราชบุตรตั้งขึ้นแล้ว เยรูฮาจาจูงมือเสี่ยวจูเข้าไปนั่งโต๊ะอาหาร
อาหารวันนี้ใช้ให้คนเข้าไปซื้อจากเมืองน้อย จึงเป็นอาหารพื้นเมืองที่เสี่ยวจูรู้จัก
มีขนมจีบ ซาลาเปา ขาสุกรพะโล้ ไก่ย่าง ปลาหลีฮื้อนึ่งบ๊วย ซุปไข่ ผัดผักเขียว เส้นหมี่
ชาก็เป็นชาจีน ไม่ใช่ชานมแพะอีก
เยรูฮาจาคีบอาหารให้เสี่ยวจูรับประทาน บอกว่าเหนื่อยมาทั้งวัน รับประทานเสร็จจะได้เข้านอน
เสี่ยวจูมองไปที่เตียง ก็เห็นมีเตียงเดียว แต่พลัดเปลี่ยนผ้าปูใหม่เป็นสีชมพู
เสี่ยวจูจะทำอย่างไร
-
ที่ตกใจไม่ใช่ที่มีเตียงเดียว แต่เป็นเตียงสีชมพูมากกว่า ^-^ จะทำอย่างไรดี
"อาหารมีมากมายเช่นนี้จะขุนให้ข้าเป็นหมูน้อยหรืออย่างไร" เสี่ยวจูกินอาหารอย่างเอร็ดอร่อย กินให้มูมมามน่าเกลียดด้วยระหว่างนั้นก็ช้อนสายตามองด้วยว่าเยรูฮาจาทำสีหน้าเช่นไรเมื่อเห็นว่านางรับประทานอาหารเหมือนสุกร กินเสร็จก็เรอออกมาดังๆ เรอเสร็จก็หัวเราะคิกคักอย่างหน้าไม่อาย
กินเสร็จแล้วก็เตรียมตัวนอน บอกให้ท่านราชบุตรหลับไปก่อนก็ได้
-
ราชบุตรมีสีหน้ายินดี เมื่อเห็นเสี่ยวจูรับประทานอย่างตะกละตะกลาม
ควรทราบว่าธรรมเนียมของนอกกำแพงใหญ่ ยิ่งรับประทานมูมมาม ยิ่งแสดงว่าอาหารอร่อยถูกปาก
ยิ่งเห็นเสี่ยวจูหัวเราะคิกคัก เขาก็ยิ่งเบิกบานใจ
เยรูฮาจามานั่งข้างๆเสี่ยวจู บอกว่าในเมื่อเป็นสามีภรรยาย่อมต้องร่วมเรียงเคียงหมอน
หากเสี่ยวจูไม่เข้านอน เขาจะหลับตาลงได้อย่างไร
เสี่ยวจุจะทำยังไง
-
เสี่ยวจูตกตะลึงในตัวบุรุษผู้นี้เป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้
"แต่เรายังมิได้แต่งงานกัน ข้าว่าไม่เหมาะสม" เสี่ยวจูตอบปฏิเสธ "หลังจากที่เราแต่งงานกันเราก็จะได้นอนเคียงข้างกันอยู่ทุกวันแล้ว จะรีบไปไย"
นางหว่านล้อม

Rolled 1d10 : 3, total 3
-
เสี่ยวจูพูดจาสับสน เยรูฮาจาก็ไม่สนใจ เดินเข้ามาอุ้มนางไปนอนบนเตียง
จากนั้นก็ขึ้นมานอนข้างๆ
เสี่ยวจูจะทำอย่างไร
-
ถ้าไม่ทำอะไรไปมากกว่านอนเฉยๆนางก็ยอม เสี่ยวจูนอนหันหลังให้ไม่ใคร่สนใจอีกแม้ในใจจะรู้สึกสับสนเพราะตั้งแต่เกิดมานางไม่เคยได้แนบชิดสนิทกับบุรุษใดไปมากกว่าเยรูฮาจาเลย
คืนนั้นเสี่ยวจูเหนื่อยมาก อีกทั้งไม่ได้หลับเต็มตามาหลายวันแล้วนางจะรู้สึกง่วงงุนและหลับไปแทบจะในทันที หวังว่าเยรูฮาจาจะมีเกียรติมากพอที่จะไม่ฉวยโอกาสนาง
-
คืนนั้นเยรูฮาจาหาได้ฉวยโอกาสอันใดไม่
แต่เสี่ยวจูเองกลับรู้สึกว่าจิตใจของเธอสับสนยิ่งนัก
เขาหาได้จี้จุดหรือพันธนาการเรา แต่เรากลับมิอาจหักใจจากไป นี่เราเป็นอะไรไปแล้ว
ความมุ่งมั่น -5
เช้าแล้ว เยรูฮาจาตื่นก่อนเสี่ยวจู กำลังล้างหน้า พลางถามนางว่าหลับสบายหรือไม่
จะไปกินอาหารในเมืองน้อย หรือที่ค่าย
วันนี้เสี่ยวจูได้นอนเต็มที่มีเรียวแรงเต็มเปี่ยม +2SP
เสี่ยวจูจะทำอย่างไร
-
เสี่ยวจูรู้สึกแจ่มใสยิ่งนัก นางยิ้มแย้มแล้วบอกว่าอยากไปกินอาหารที่เมืองน้อย
เมื่อร่างกายกลับมาแข็งแรงนางก็คิดหาแผนการหนีอีกคราสายตามองหาอาวุธที่พอจะติดตัวไปได้ หรือสิ่งของมีค่าชิ้นเล็กในกระโจมที่พักของราชบุตร ถ้าเขาเผลอเมื่อไหร่ก็แอบหยิบฉวยมาซ่อนไว้ในชุด
-
ไม่พบของที่ใช้เป็นอาวุธ ของมีค่าคงเป็นผ้าปูเตียงน่าจะขายได้สัก 30เหรียญ
ถ้าจะขโมยก็ทอย+ความเร็วดู
-
ขโมยผ้าปูเตียงรึ ไม่ๆ
"ท่านราชบุตรมีเสื้อผ้าให้ข้าผลัดเปลี่ยนหรือไม่ ชุดนี้เก่าและสกปรกมากแล้ว" เสี่ยวจูขอชุดใหม่ใส่ จะได้ไปเดินสวยๆในเมืองเป็นที่คู่ควรกับท่านราชบุตร แต่ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร
-
ในกองทัพย่อมไม่มีเสื้อผ้าสตรีให้ผลัดเปลี่ยน ท่านราชบุตรบอกว่าเข้าเมืองไปซื้อเสื้อสวยๆใส่ดีกว่า
"ถ้าเช่นนั้นพวกเราไปรับประทานอาหารในเมืองดีหรือไม่"
ราชบุตรชักชวนเสี่ยวจู
-
"ดี รับประทานอาหารอร่อยๆแล้วไปซื้อเสื้อผ้าสวยๆ" เสี่ยวจูยิ้ม :D "ท่านราชบุตรใจดีกับสตรีแบบนี้ทุกคนเลยรึเปล่า" เสี่ยวจูคิดว่าคงใช่ ที่บ้านเมืองของบุรุษผู้นี้ต้องมีภรรยาอีกหลายนางแน่ๆ และนางจะจัดการถลุงทรัพย์ก่อนจะหลบหนี
-
ราชบุตรพาเสี่ยวจูไปนั่งทานอาหารที่เหลาในเมืองน้อยก่อน
มีคนนั่งรับประทานอยู่สองสามโต๊ะ ราชบุตรสั่งอาหารมาห้าหกชนิด
เสี่ยวจูจะทำอย่างไร
-
"สั่งมามากมายอีกแล้ว"
เสี่ยวจูค่อยกินอย่างช้าๆ ถ่วงเวลา ดูว่าเยรูฮาจาพาทหารติดตามมาเยอะหรือไม่ คนที่นั่งรับประทานอาหารโต๊ะอื่นมีใครที่ดูเก่งกาจหรือท่าทางวรยุทธสูงส่ง ดูจากอาวุธที่พกมาหรือแววตาของคนผู้นั้น
-
ราชบุตรเดินทางมาเมืองน้อยกับเสี่ยวจูแค่สองคน แต่เธอไม่รู้ว่ามีคนอื่นตามมาอีกไหม
โต๊ะอื่นๆมีผู้คนดังนี้
- แม่ชีสี่คน พกพาแส้ปัด รับประทานอาหารเจ
- ชายร่างกำยำสามคน แบะอกเสื้อ รับประทานเนื้อสุนัข ดื่มสุรา
- หญิงวัยสาวไม่พกพาอาวุธ เดินทางกับบุตรชาย รับประทานหมี่
- ชายวัยกลางคนสวมชุดพ่อค้า สะพายคันชั่ง รับประทานหม่านโถว
เสี่ยวจูสังเกตไม่เป็นว่าใครมีวรยุทธแค่ไหน ถ้าอยากรู้ก็ทอย+รับรู้ ดู
-
ถ้าเสี่ยวจูทำตัวตุกติกตอนนี้ความที่เธอแสร้างความจำเสื่อมต้องแตกอย่างแน่นอน นางนั่งครุ่นคิดถึงผลได้ผลเสียแต่แล้วก็เปลี่ยนใจ นั่งรับประทานอาหารต่อไปด้วยท่าทางสงบเสงี่ยมเศร้าสร้อย ไว้มีฝีมือเก่งกาจและมีอิสระมากกว่านี้ค่อยคิดหาหนทางอื่นก็แล้วกัน แต่ขณะนั้นก็ส่งสายตาขอความช่วยเหลือไปทางแม่ชี ไม่รู้ว่าพวกนางจะสังเกตเห็นหรือไม่ก็ตาม
-
แม่ชีไม่สนใจรอบข้าง กินอาหารเสร็จก็ชำระเงินจากไป
พอเสี่ยวจูรับประทานเสร็จ ราชบุตรก็จ่ายเงินค่าอาหาร จูงมือนางไปที่ร้านแพรพรรณ
เจ้าของร้านย่อมออกมาต้อนรับ ที่นี่เป็นเมืองน้อย เสื้อผ้าส่วนใหญ่เป็นของธรรมดา
เจ้าของร้านถามเสี่ยวจูว่า "ฮูหยินต้องการเสื้อผ้าแบบใด หากไม่มีเราสามารถตัดเย็บให้ได้ รับรองว่าสวยงามรัดรูป"
เสี่ยวจูจะทำอย่างไร
-
เสี่ยวจูยิ้ม
"ข้าอยากได้ชุดซึ่งตัดเย็บจากผ้าเนื้อดีที่สุดเท่าที่จะหาได้ กลางวันสวมสบาย กลางคืนอบอุ่น อีกทั้งยังคล่องแคล่วและสวยงาม...ดีหรือไม่" ท้ายประโยคหันไปขอความเห็นจากเยรูฮาจา (แหม ก็เขาเป็นคนจ่ายนี่) ในตอนแรกจะเอ่ยออกไปว่าต้องการชุดที่แพงที่สุดแต่เกรงว่าจะเป็นการเสียมารยาทมากไปหน่อย
-
เยรูฮาจาก็นุ่มนวลเอาใจ ไม่ว่าเสี่ยวจูจะว่ายังไงก็โอนอ่อนผ่อนตาม
เจ้าของร้านบอกว่าต้องเป็น ชุดหนังเตียวจึงจะมีคุณสมบัติดังกล่าว
แต่ที่ชนบทแห่งนี้หามีไม่ ชุดผ้าไหมทอมือจากแดนใต้ กำลังได้รับความนิยม
ราคาชุดนึง 1000 เหรียย สามารถซื้อม้าได้ตัวนึง ทั้งร้านมีเพียงชุดเดียว
เยรูฮาจาบอกว่าถ้าอยากได้ก็จะซื้อให้
-
"ทำไมแพงเช่นนี้" เสี่ยวจูพึมพำแต่ก็เอา นางขอบคุณท่านราชบุตรเป็นการใหญ่ แต่ในใจหัวเราะชั่วร้าย ได้ของแล้วก็ยินดีแล้วถามว่า "ไม่ทราบว่าที่เมืองนี้มีที่ใดน่าเที่ยวอีกบ้าง"
-
เสี่ยวจูพอสวมใส่ชุดผ้าไหมงดงามราคาแพงแล้ว ก็ได้คิดว่าการเป็นพระสนมของราชบุตรช่างเป็นเรื่องสุขสบายถึงเพียงไหน
เรื่องที่คิดจะออกตามหาบิดามารดาเริ่มห่างไกลเข้าไปทุกทีๆ ความมุ่งมั่น -50
เจ้าของร้านชื่นชมว่าเสี่ยวจูใส่แล้วงามยิ่งนัก จากนั้นบอกว่าแถบนี้ไม่มีสถานที่ท่องเที่ยวใดนอกจากวัดเส้าหลิน
หนุ่มสาวสมควรไปทำบุญกราบพระด้วยกัน
เสี่ยวจูจะทำอย่างไร
-
ไม่ๆ ข้ายังต้องการตามหาบิดามารดา ฮือๆ
"เยรูฮาจา ท่านบอกว่าจะไปกราบไหว้ที่วัดเส้าหลิน เพื่อเป็นการไม่เสียเวลาข้าว่าไปวันนี้กันเลยดีหรือไม่" เสี่ยวจูชักชวนไปวัดเส้าหลิน ในเมื่อได้ชุดราคาแพงมาแล้ว นางสมควรหาเวลาหลบลี้เสียที มองหาเอาระหว่างเดินทางไปที่เส้าหลินนั่นแหละ
-
เยรูฮาจาจูงมือเสี่ยวจูออกจากเมือง แม่ทัพมองโกลและองค์รักษ์อีกห้านายก็จูงม้ามารอเขาอยู่แล้ว
แม่ทัพมองโกลบอกว่าส่งเทียบนามบัตรจากท่านราชบุตรให้เจ้าอาวาสเรียบร้อยแล้ว
แต่เพิ่งทราบว่าธรรมเนียมของวัดเส้าหลินไม่อนุญาติให้สตรีขึ้นเขา
(http://wudthipan.com/fucko/index.php?q=/image/2268.jpg)
เยรูฮาจาหันมาถามเสี่ยวจู "ซาลาเปาน้อยเจ้าก็ปลอมเป็นบุรุษจะได้ขึ้นเขาไปด้วยกันดีหรือไม่"
เสี่ยวจูจะทำอย่างไร
-
ถ้าจะลำบากขนาดนั้น
"มันจะไม่แปลกรึ ชายสองคนขึ้นไปกราบกรานเจ้าอาวาสเพื่อประกาศให้รู้ว่าเราจะแต่งงานกัน" เสี่ยวจูหัวเราะก่อนจะตอบปฏิเสธ "วัดไม่ให้สตรีเข้า แม้จะปลอมตัวเป็นชายแต่ภายในก็ยังเป็นสตรีเช่นเดิม ข้าไม่เข้าจะดีกว่า จะรออยู่บริเวณนี้นี่แหละ"
-
เยรูฮาจาก็ให้ทหารม้านายหนึ่งคอยดูแลเสี่ยวจู อยู่ที่ศาลาพักคนเดินทางที่เชิงเขา
ที่เหลือควบขี่ม้าขึ้นเขาไป
เสี่ยวจูจะทำอย่างไร
-
ดูว่าทหารผู้นั้นพกอาวุธใดติดตัว มองหาทางหนีทีไล่ และดูว่าม้าผูกอยู่ที่ใด ถ้าวิ่งไปใครจะบรรลุถึงก่อน(ใครอยู่ใกล้กว่า)
ขณะสังเกตก็ชวนทหารผู้นั้นคุย
"นี่ ข้ามีเรื่องจะถาม ข้าอยากรู้ว่าที่บ้านเกิดของพวกท่านอยู่ไกลจากที่นี่มากเท่าใด แล้วที่นั่นก็คงมีภรรยาของท่านราชบุตรอีกหลายคนสินะ? ข้าคงไม่ใช่หญิงสาวนางเดียวที่ท่านรบุตรคอยดูแลเอาใจ" เสี่ยวจูแสร้างทำหน้าเศร้า
-
ทหารขี่ม้าอยู่ สะพายคันธนูและดาบยาว
(http://wudthipan.com/fucko/index.php?q=/image/2272.jpg)
แดนมองโกลห่างไกลนับพันลี้ ส่วนเรื่องของท่านราชบุตรข้าพเข้ามิกล้ายุ่งเกี่ยวมากความ
ต้องขออภัยพระสนมด้วย
ศาลาพักคนเดินทางอยู่ที่เชิงเขาเซียวสิกซัว
ด้านข้างเป็นบันไดหินขึ้นสู่วัดเส้าหลิน
รอบๆเป็นถนนดินตัดผ่านดงไม้ร่มรื่น
เสี่ยวจูจะทำอย่างไร
-
เสี่ยวจูพยักหน้าเออออไปอย่างนั้น จากนั้นก็ใช้มารยาหญิงเดินๆอยู่วูบสลบล้มลงไปหวังให้ทหารลงจากหลังม้าเข้ามาดูอาการ
-
พระสนมเป็นอย่างไรแล้ว
ทหารรีบโดดลงจากม้า วิ่งเข้ามาดูอาการเสี่ยวจู
-
เสี่ยวจูแกล้งสลบ นางกะจังหวะตอนที่นายทหารเข้ามาประชิดตัวก็ใช้เท้าสะกัดให้มันล้มคว่ำ จากนั้นจึงชิงดาบยาวมา
-
เสี่ยวจูคิดใช้เท้าสะกัดทหารให้ล้ม
ต้องลอง ทอย+กำลังดู
-
เจ้าพ่อเจ้าแม่ช่วยข้าพเจ้าด้วย

Rolled 1d10+1 : 3 + 1, total 4
-
พอทหารเข้ามาใกล้เสี่ยวจูก็เตะเท้าออกสกัด แต่ทหารนั้นมีช่วงล่างมั่นคงดั่งขุนเขา หาได้โยกคลอนไม่
(http://wudthipan.com/fucko/index.php?q=/image/2272.jpg)
"พระสนมแกล้งสัพยอกข้าพเจ้าเล่นแล้ว" ทหารกล่าวแล้วถอยไปกระโดดขึ้นหลังม้าเช่นเดิม
เสี่ยวจูจะทำอย่างไร
-
ถึงแม้การหลอกรอบแรกจะประสบความล้มเหลว แต่นางก็มิยอมแพ้ ยังคงทำหน้าทนหลอกล่อทหารต่อไป
"ข้าแค่อยากทดสอบความ..อู้ย ขาข้าแพลง เพราะเจ้านั่นแหละ" เสี่ยวจูต่อว่าทหารนั่น เพราะขาทหารแข็งเกินไป ตอนนางเตะไปจึงได้รับบาดเจ็บ ทหารผิด "ไปตามหมอมาดูอาการข้าเร็วเข้า"
-
(http://wudthipan.com/fucko/index.php?q=/image/2272.jpg)
ทหารกล่าวว่า "พระสนมมิต้องร้อนรุ่ม ท่านราชบุตรเชี่ยวชาญวิชาสกัดจุด รับรองว่าจี้ใส่ครั้งเดียวก็หาย"
"อีกสักครู่ท่านราชบุตรก็กลับมา หากไปตามหมอเกรงว่ามิทันการ"
-
::) ฮึ่ม
นางเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน ฝากไว้ก่อนเถอะ
"ถ้าเช่นนั้นข้าขอเดินเล่นเสียหน่อย ข้าบอกท่านราชบุตรว่าจะรออยู่บริเวณนี้แต่ไม่ได้บอกว่าจะรออยู่ที่นี่" พูดจบก็เดินเล่นรอบๆดงไม้ชมความงามของธรรมชาติ จะตามมาก็ช่าง
เดินผ่านรงไม้รกๆที่ม้ายากจะติดตามก็ดี เดินให้ออกห่างจากวัดเส้าหลินไปเรื่อยๆ
-
ทหารไม่ว่าอะไร ขี่ม้าติดตามเสี่ยวจูมา แต่คอยทำเครื่องหมายไว้ตลอดทาง
เสี่ยวจูเดินห่างออกมาจากวัดเส้าหลินได้ไม่ไกลนัก มาถึงบริเวณทางเดิน ที่สองข้างเป็นป่า
ได้ยินเสียงม้ากลุ่มหนึ่งลงจากเขาเซียวสิกซัว คงเป็นราชบุตรกลับมาแล้ว
เสี่ยวจูจะทำอย่างไร
-
แย่แล้ว เห็นทีคงหนีไม่ทันเสียแล้ว ไว้โอกาสหน้าก็ได้
เสี่ยวจูรอจนราชบุตรกลับมาแล้วสอบถามว่าไปวัดเส้าหลินมาเป็นอย่างไรบ้าง
-
เสียวจูยังคงตัดใจหนีไปจากราชบุตรไม่ได้ :))อา...เราเป็นอะไรไปแล้ว ความมุ่งมั่น-5
(http://wudthipan.com/fucko/index.php?q=/image/2268.jpg)
ราชบุตรพอลงจากเขาก็ขี่ม้ามาตามสัญลักษณ์
เมื่อมาถึงก็อุ้มเสี่ยวจูขึ้นม้า บอกนางว่า "งานสำเร็จเสร็จสิ้น ต้องจุมพิตรับขวัญ"
เสี่ยวจูเห็นม้าของแม่ทัพมองโกลที่ติดตามมา แบกถุงหนังใบหนึ่ง ก็ทราบว่าเจ้าอาวาสวัดเส้าหลินเสียทีแล้ว
เสี่ยวจูจะทำอย่างไร
-
ตัดใจได้แล้วย่ะ แต่หนีไม่ได้ :'(
เสี่ยวจูก้มหลบจุมพิต "อ้ะเชือกรองเท้าหลุด อ้ะ กางเกงท่านเปื้อน" ปัดกางเกงให้
"ท่านแบกอะไรลงมารึ ของขวัญแต่งงานที่ท่านเจ้าอาวาสมอบให้หรือ มันคืออะไรข้าอยากเห็น" เสี่ยวจูทำสีหน้ายิ้มแย้ม
-
เสี่ยวจูปัดกางเกงให้ราชบุตร รู้สึกว่าต้นขาของเขาช่างแข็งแรงบึกบึนสมชายยิ่งนัก
(http://wudthipan.com/fucko/index.php?q=/image/2268.jpg)
เยรูฮาจาเห็นเสี่ยวจูใส่ใจในตัวเขาก็ยินดียิ่ง กล่าวตอบว่า "เสียวลิ้มยี่ มิยอมให้ซาลาเปาน้อยขึ้นเขา ข้าพเจ้าจึงเชิญท่านเจ้าอาวาสลงมาแทน"
"คืนนี้ให้ท่านประกอบพิธีวิวาห์ให้พวกเราดีหรือไม่"
เสี่ยวจูจะทำอย่างไร
-
เสี่ยวจูอึกอัก นี่ข้าจะฆ่าเจ้าให้ตายเจ้าคงคิดว่านั่นคือวิธีแสดงความรักหรือเปล่านะ
"ไม่ต้องกลับไปที่บ้านเมืองของท่านก่อนหรอกรึ แล้วข้าเป็นใคร ลูกเต้าผู้ใด ท่านไม่สงสัยเลยหรือไยแต่งงานกับหญิงสาวเช่นข้า ก่อนหนเานี้ข้าเป็นใครกันแน่" ท้ายประโยคนางไม่ลืมพูดจากลบเกลื่อนแสดงให้เห็นว่ายังความจำเสื่อมอยู่
-
(http://wudthipan.com/fucko/index.php?q=/image/2268.jpg)
"เจ้านั้นเป็นกำพร้า บิดามารดาเสียชีวิต บิดามารดาของพวกเรานั้นท่านได้หมั้นหมายพวกเราไว้ตั้งแต่ก่อนเจ้าจะกำเนิดเสียอีก"
ราชบุตรตอบมาแบบนี้ เธอจะทำอย่างไร
-
"บิดา มารดา..." นึกไปนึกมานางก็เศร้า ความหวังในการตามหาพวกท่านช่างริบหรี่เหลือเกิน "เจ้านี่มักจะทำตัวแนบเนียนนักนะ นี่ถ้าข้าความจำเสื่อมจริงๆ คงเชื่ออย่างสนิทใจ"
เสี่ยวจูไม่อยากปิดบังแล้ว พูดไปตามตรงว่าตนเองนั้นแท้จริงแล้วไม่ได้ความจำเสื่อมหรอก แค่แกล้งให้เยรูฮาจาเอาใจไปเช่นนั้นเอง บอกว่าผ้าแพรราคาแพงนี่ก็ไม่เอาแล้ว แต่ปล่อยให้นางไปตามหาบิดามารดาจะได้ไหม
"ข้าไม่ได้ชื่อหมั่นโถว ข้าชื่อว่า เสี่ยวจู"
-
(http://wudthipan.com/fucko/index.php?q=/image/2268.jpg)
เยรูฮาจาบอกว่า "ไม่ว่าเจ้าจะเป็นใครก็ตาม ความรู้สึกของเราก็ยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง"
;)เขานิ่งไปนิดนึงก็บอกต่อว่า "หากท่านเปลื้องผ้าไหมชุดนี้ออกจะเหลือแต่ชุดชั้นใน หาควรไม่"
ชุดธรรมดาของเสี่ยวจูถอดทิ้งไว้ที่ร้านแล้ว
คุยไปคุยมา ก็กลับมาถึงหน้าค่ายชาวมองโกล
เสี่ยวจูจะทำอย่างไร จะเปลื้องผ้าไหม
-
"เปลื้องผ้าบ้านเจ้าสิ ข้าจะกลับไปร้านขายชุดแล้วไปเปลี่ยนที่นั่น" เสี่ยวจูโวยวายใส่ก่อนจะหลอกว่า "นี่เจ้าไม่รู้หรอกหรือว่าข้าเป็นบุรุษหาใช่สตรีไม่ ข้ามีหน้าอก แต่ตรงนั้นข้าก็มี
ดุ้นเจ้านั่นด้วย"
ให้เยรูฮาจาพากลับร้านขายชุด
-
แต่ว่านี่มันเย็นแล้ว หากย้อนกลับไปที่เมืองน้อยจะมืดค่ำ
รอพรุ่งนี้ค่อยไปไม่ดีกว่าหรือ มิฉนั้นก็ให้ทหารไปนำชุดมาให้
เยรูฮาจาต่อรอง เสี่ยวจูจะทำอย่างไร
-
"ให้ทหารไปนำชุดสตรีมาออกจะดูไม่ดีเท่าไหร่ เดี๋ยวพรุ่งนี้ข้าไปเปลี่ยนชุดเองก็ได้" เสี่ยวจูเกรงใจ "แล้วเจ้าจะปล่อยให้ข้าไปตามหาบิดามารดาจริงๆใช่ไหม"
-
(http://wudthipan.com/fucko/index.php?q=/image/2268.jpg)
เยรูฮาจากล่าวว่า "คืนนี้พวกเราแต่งงานกัน พรุ่งนี้เราจะออกไปตามหาบิดามารดาพร้อมกับเจ้า ดีหรือไม่"
-
"เจ้าไม่ทำภารกิจของเจ้าต่อแล้วหรือ?! :o" เสี่ยวจูตะลึง "เช่นนั้นก็ดี แต่ข้าไม่ได้อยากแต่งงานกับเจ้าเพราะเหตุผลเช่นนี้เลย ข้าอยากแต่งเพราะความรักเสียมากกว่า ข้า..." ข้าไม่ได้รักเจ้า คำพูดสุดท้ายถูกกลืนลงคอ นางไม่อยากทำร้ายจิตใจเยรูฮาจาอีกแล้ว
-
(http://wudthipan.com/fucko/index.php?q=/image/2268.jpg)
"อืม จัดการกับ เส้าหลิน บู๊ตึ๊ง ง้อไบ๊ สำเร็จ ภารกิจที่พระบิดาสั่งไว้ก็เสร็จสิ้น"
"เราจะออกเดินทางไปพร้อมกับเจ้า" เยรูฮาจาให้คำมั่นกับเสี่ยวจู
จากนั้นก็ยกมือให้สัญญาณ ทหารคนสนิท
ทันใดนั้น โคมไฟม้าหมุน หลากสีก็ถูกจุดขึ้นพร้อมกันทั่วค่ายทหารสว่างไสว ดูสวยงามยิ่ง
พอเข้าไปในกระโจมก็พบว่ามีการจุดเทียนแดง เยรูฮาจาก็นำชุดคลุมสีแดงที่แอบสั่งตัดที่ร้านตอนเสี่ยวจูลองชุดมาสวมใส่
เจ้าอาวาสวัดเส้าหลินนั่งขัดสมาธิอยู่ในตำแหน่งประธาน เหล่าทหารก็ยืนเรียงแถว คอยให้ทั้งคู่เข้าสู่พิธี
แม่ทัพมองโกล นำมงกุฏเจ้าสาวมามอบให้เสี่ยวจู เธอมองดูชุดที่เธอซื้อมาวันนี้ ก็ไม่ต่างจากชุดเจ้าสาวเท่าไหร่
เสี่ยวจูจะทำอย่างไรต่อไป
-
^-^ <ในใจเสี่ยวจูตอนนี้ ข้าตอบตกลงเจ้าตอนไหนกัน?!
เสี่ยวจูยืนตะลึงอยู่ชั่วครู่ ปากจะตอบปฏิเสธไป แต่เห็นเตรียมมาเสร็จสรรพใครจะปฏิเสธลงเล่า ราชบุตรเองก็ไม่เลว ที่จริงข้าเองก็ไม่ได้รังเกียจเขา (แค่รู้สึกประหลาดๆด้วย) นางจึงตอบตกลงแต่งงานไปด้วยความรู้สึกพิลึกพิลั่นหลากหลาย รู้สึกราวกับถูกมัดมือชกแบบมึนงง
พลางลอบมองไปที่ท่านจ้าวอาวาสวัดเส้าหลินด้วยสายตารู้สึกผิด ท่านคงโดนจี้สะกัดจุดอยู่เป็นแน่
-
เจ้าอาวาสวัดเส้าหลินกล่าวให้ศีลให้พร บอกว่าเคล็ดลับในการครองเรือนนั้นประกอบด้วยสามคำ ได้แก่ เอา เข้า ไว้
เอา คือให้หมั่นเอาอกเอาใจ
เข้า คือต้องเข้าอกเข้าใจกัน
ไว้ คือต้องไว้เนื้อเชื่อใจกัน
จากนั้นท่านก็บอกให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวคำนับฟ้าดิน คำนับเถ้าแก่ คำนับกันเอง
ให้ทั้งคู่ดื่มสุรามงคล
ให้เจ้าบ่าวจูบเจ้าสาวได้
เสี่ยวจูคิดว่า อานี่เรากำลังทำอะไรอยู่กันนะ เรากำลังแต่งงาน เราเป็นใครมาทำอะไรที่นี่ ความมุ่งมั่น -30
จากนั้นก็มีทหารมาหามเจ้าอาวาสออกไป แม่ทัพก็ประกาศให้ส่งตัวเข้าหอได้
ด้านนอกเหล่าทหารล้วนกำลังดื่มสุรามงคล
(http://wudthipan.com/fucko/index.php?q=/image/2268.jpg)
ท่านราชบุตรปิดประตูกระโจมก่อนจะหันมายิ้มให้เสี่ยวจู พวกเราก็มาทำตามคำสอนของท่านเจ้าอาวาสกันเถอะ
เสี่ยวจูจะทำอย่างไร
-
C}
เอาเข้าไว้ แงๆ เอาไงเอากัน
เสี่ยวจูคิดว่ามาถึงขั้นนี้แล้ว...แม้จะเขินอายปานใด หรืออยากจะร้องไห้เท่าใดก็ตาม เอาน่าอย่างน้อยก็หล่อ รวย เลว(?)
นางน้ำตาไหลให้กับความสับสนในใจตนเอง ข้ารักเขางั้นหรือ...
-
คืนนั้น เสี่ยวจูโอนอ่อนผ่อนตาม ยินยอมตกเป็นของท่านราชบุตร
เธอหลงลืมทุกสิ่ง ปล่อยกายปล่อยใจไปตามแรงปราถนา
ความมุ่งมั่น -100
เช้าแล้ว วันนี้ท่านราชบุตรก็ตื่นก่อนเธออีกเช่นเคย เขานั่งอยู่ข้างเตียง ใช้มือข้างหนึ่งลูบไล้เรือนผมของเสี่ยวจูอย่างแผ่วเบา
(http://wudthipan.com/fucko/index.php?q=/image/2268.jpg)
"ซาลาเปาน้อย จำเรื่องที่เราพบกันวันแรกได้หรือไม่" เขาถาม
เสี่ยวจูพยักหน้า เธอย่อมจำได้ ใจเธอเป็นของเขาไปตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ
"เราก็จำได้" เยรูฮาจายิ้ม เสี่ยวจูก็จำได้ว่าเป็นยิ้มชั่วช้าลามกที่เธอเห็นในวันแรก
"วันนั้นเราสาบานว่า เราจะทำให้เจ้ายอมสยบให้ได้ มิฉนั้นไม่ขอเป็นผู้คน" link (http://baron.wudthipan.com/forum/index.php?topic=1071.msg90508#msg90508)
"วันนี้เราทำสำเร็จแล้ว เจ้าเข้าใจหรือยังว่าไม่มีสิ่งใดที่ราชบุตรเช่นเราต้องการแล้วไม่ได้มา"
"ไม่ว่าจะเป็นสมบัติ ทรัพย์สิน แผ่นดิน หรือดวงใจของหญิงงาม ล้วนไม่เกินความพยายามของเรา"
"ตอนนี้เจ้าเป็นของเราแล้ว เราขอบอกต่อเจ้าตามตรงว่าเรามีชายาอีกหนึ่งร้อยแปดนาง สนมอีกนับพัน"
"ไม่ว่าใครก็อยากเป็นฮองเฮา ทุกคนล้วนแย่งชิงความรักจากเรา เจ้าหากต้องการเป็นคนโปรดต่อไปก็ต้องทำแบบนั้นเช่นกัน"
อ่างล้างหน้าถูกยกมา อาหารเช้าก็ถูกยกมา
หลังจากเช็ดล้างหน้าให้กับท่านราชบุตร เสี่ยวจูก็ใช้ผ้าผืนนั้นปาดน้ำตา
ฝืนยิ้มพลางคีบอาหารป้อนให้กับเขา
เสี่ยวจูได้เป็นสนมเอกของราชบุตรมองโกล
NORMAL END
ได้รับ BONUS 9 EXP