-
เรื่องราวของ เหลี่ยวหยวนหว่อ
เหลี่ยวหยวนหว่ออดีตเคยเป็นองครักษ์ในวังหลวงของดินแดนทางตะวันออก ต่อมาเกิดการช่วงชิงอำนาจภายในวังเขาไม่สามารถปกป้องผู้เป็นนายได้ จึงถูกเนรเทศ
เดินทางรอนแรมมาถึงอาณาจักร Fatimah และได้พบกับเจ้าหญิง Ziavarisha ระหว่างที่หนีออกเที่ยวเล่น และบังเอิญได้ช่วยเหลือเจ้าหญิงจากอันตราย
มารดาของ Ziavarisha ซึ่งเป็นนางสนมจึงตอบแทนด้วยการให้เขาเป็นองค์รักษ์ประจำกายของ Ziavarisha เพื่อคอยดูแลเจ้าหญิงจอมซน
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
Level : 29 | เหลี่ยวหยวนหว่อ
HP SP M.Atk/R.Atk Magic Atk Def | ▉▉▉▉ ▉ ▉▉
▉ ::::::::::::::::: | Int Str Vit Agi Dex | ▉ ▉▉▉▉ ▉▉ ▉ ▉▉▉▉ ::::::::::::::: | Lds Fth Eft Chr Luk | ▉ ▉▉ ▉▉▉▉▉ ▉▉ ::::::::::::::: |
|
Aggressor : M.Atk +1 Ⓟ [Nature] Charisma : Chr +2 Ⓟ [Nature] Safeguard : รับอุปสรรคแทนเป้าหมายได้ [Nature] Hand-held Bombs : ระเบิดโบราณ R.Atk +4 Ⓦ [Nature] [3/3] Ice Ring : แหวนอาคม Magic Atk +2 (Freeze) Def +1 Ⓦ [Magic]
|
(http://i.imgur.com/vsiPEWG.jpg)
Level : 32 | Karal
HP SP M.Atk/R.Atk Magic Atk Def | ▉▉▉▉▉ ▉▉▉▉▉ ▉▉▉ ▉▉ ▉ ::::::::::::::::: | Int Str Vit Agi Dex | ▉▉ ▉▉▉▉▉▉ ▉ ▉ ▉ ::::::::::::::: | Lds Fth Eft Chr Luk | ▉▉▉▉ ▉▉ ▉
::::::::::::::: |
|
Kara Form : แปลงร่างเป็นมังกรมรกต Magic Atk +6 Def +5 Vit +1 (3 Turn) [Magic] [5 SP] Strength : Str +2 Ⓟ [Nature] Riding : ทักษะขับขี่ Def +2 เมื่อใช้ ⇄Item Ⓟ [Nature] Dragon Summoner : เรียกใช้ Dragon Summons ได้ Ⓟ [Magic]
|
(http://i.imgur.com/FzzQC7I.jpg)
Level : 27 | Rasha
HP SP M.Atk/R.Atk Magic Atk Def | ▉▉▉ ▉▉▉▉▉▉ ▉
::::::::::::::::: | Int Str Vit Agi Dex | ▉▉▉ ▉ ▉ ▉ ▉▉ ::::::::::::::: | Lds Fth Eft Chr Luk | ▉ ▉ ▉▉▉ ▉▉▉ ▉ ::::::::::::::: |
|
Advice : เป้าหมาย Def +1 Int +2 Ⓠ [Nature] [1 SP] Call : เรียกใช้ Human Summons ได้ Ⓟ [Nature] Mandate : เป้าหมาย Def +1 และทำสิ่งต่าง ๆ ที่ใช้ SP ≤ 1 ได้โดยไม่ใช้ SP Ⓠ [Nature] [1 SP] Sabre : ดาบโค้งมือเดียว M.Atk +1 Ⓦ [Nature]
|
(http://i.imgur.com/NT3ayqQ.jpg)
Level : 40 | Twilight Dragon
HP SP M.Atk/R.Atk Magic Atk Def | ▉▉▉▉▉▉ ▉▉▉▉▉▉▉ ▉▉ ▉▉▉▉▉ ▉▉▉ ::::::::::::::::: | Int Str Vit Agi Dex | ▉▉▉ ▉▉▉ ▉▉▉▉ ▉▉ ▉▉▉▉▉ ::::::::::::::: | Lds Fth Eft Chr Luk |
::::::::::::::: |
|
Cost : 4 Twilight : ม่านแสง Magic Atk +4 Dex +1 ✚✚ [Magic] [1 SP] Magic Wall : ป้องกัน Atk ≤ 10 100% [Magic] [1 SP] Fly : บินได้, ✪ Dragon [Nature]
|
PP : 12
Exp : 11
G : 62
([url]http://i.imgur.com/vsiPEWG.jpg[/url]) ([url]http://i.imgur.com/GtInv56.png[/url]) ([url]http://i.imgur.com/SPf9emW.jpg[/url]) ([url]http://i.imgur.com/mxDuqWt.jpg[/url])
([url]http://i.imgur.com/jrTBhHK.jpg[/url]) ([url]http://i.imgur.com/FzzQC7I.jpg[/url]) ([url]http://i.imgur.com/PcY4aRa.jpg[/url]) ([url]http://i.imgur.com/sf9V0Yt.jpg[/url])
Ally : Karal 10, นันฮะ 10, Arah 3, Lala 1, Alya 2, Roxana 3, Rasha 3, Yasmin 3
Greatbow : ธนูยักษ์ R.Atk +4 Vit -3 Ⓦ [Nature]
Spear : หอก M.Atk +1 Ⓦ [Nature]
Al-Sahara : ดาบอาคมปลุกเสก Magic Atk +6 Ⓦ [Magic]
-
พื้นที่เก็บข้อมูล
-
(http://wudthipan.com/fucko/_images/9ea4b4571ba39841ea1b16ceac1b5a4d/4017%20-%20Background.jpg)
Salem
Salem มีชื่อเดิมว่า 'ป้อมค่ายแห่งพระเป็นเจ้าอันสถิตย์บนสรวงสวรรค์'
ไม่อาจสืบทราบได้ว่าใครที่คิดค้นตั้งชื่อยาวเหยียดให้กับเมืองแห่งนี้ที่อยู่บนทุ่งโล่งๆ ในผืนดินที่แห้งแล้งทางตะวันตกของ Fatimah
การมีอยู่ของ Salem ไม่ได้มีมรรคผลในด้านยุทธศาสตร์ใด ไม่ใช่เส้นทางการค้า ไม่ใช่ป้อมค่ายที่เหมาะสมในชัยภูมิ มันไม่ได้สลักสำคัญอะไร
ในบรรดาหัวเมืองน้อยใหญ่กว่าสิบหัวเมืองของแคว้น Fatimah แล้ว Salem เป็นเมืองที่มีประชากรเบาบางที่สุด และแร้นแค้นที่สุด
มีเพียงสิ่งเดียวที่สร้างคุณค่าให้แก่ Salem ก็คือประวัติศาสตร์ในอดีตกาลที่บ่งชี้ว่านครแห่งนี้ได้ถูกสร้างเพื่อใช้เป็นศูนย์กลางของการเผยแผ่ศาสนา Zenda
ผู้ที่สร้างนครแห่งนี้คือกษัตริย์ Etihad ซึ่งครองราชย์ในช่วงที่ Faris ยังคงเป็นศูนย์กลางของอาณาจักร Faris โดยที่พระองค์ได้เปลี่ยนชื่อเป็น Salem
ก่อนพระองค์จะย้ายเมืองหลวงไปยังแคว้น Fatih (ชื่อเดิมของ Fatimah) และสถาปนาอาณาจักร Fatimah ขึ้น ทิ้งให้ Faris เป็นเพียงเมืองหลวงเก่า
แต่กระนั้น Salem กลับตกเป็นของ Fatimah เกิดความขัดแย้งกันระหว่าง Fatimah และ Faris มาโดยตลอดเมื่อต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิ์ครอบครองเหนือดินแดนนี้
ที่ตั้ง: Fatimah/Faris (พื้นที่พิพาท)
(http://i.imgur.com/vsiPEWG.jpg)
"เสด็จแม่ต้องการพัฒนาและบูรณะเมืองเก่าเมืองนี้ ท่านเป็นเจ้าเมืองคนใหม่"
Karal บอกอาหว่อที่กำลังครุ่นคิดว่าเขามาทำอะไรที่เมืองเจ้าปัญหานี่
Roleplay อิสระ (มีผลต่อทิศทางของเรื่องราว)
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
"เราไปตรวจดูตัวเมืองก่อนดีกว่า"
"เธอเองก็มาด้วย อัลยา"
อาหว่อกับคาราล อัลยา ออกไปเยี่ยมชมตัวเมือง วิถีชีวิต ลักษณะของผู้คน ว่าเป็นเช่นไร
-
Alya และ Karal รู้สึกชื่นชมที่อาหว่อเลือกจะเดินในเมืองเพื่อดูวิถีชีวิตของผู้คนทันทีในวันแรกแทนที่จะนึกถึงปราสาทที่พักหรือไปสนใจเรื่องอื่นๆ
เมืองน่ะ ถ้าไม่มีพลเมืองก็ไม่มีความหมายหรอกนะ Ally +1
(http://www.mx7.com/i/181/iSxYDu.jpg) (http://www.mx7.com/view2/yW3BbIRUgnUhYRM2)
เมืองนี้มีขนาดเล็ก เป็นเมืองรายล้อมรอบเนินปราสาทซึ่งก็ไม่ได้ใหญ่โตนัก แม้จะมีปราสาทและตัวเมืองเล็กๆ แต่ก็ไม่ใช่ป้อมปราการ กำแพงเมืองแทบจะไม่มีระบบปกป้องเมือง
ประชากรของเมืองนี้มีอยู่ทั้งสิ้น 7000 คน จะไปกระจุกตัวแถวกลางเมืองที่เป็นย่านค้าขาย ได้ยินว่าชาวเมืองอพยพออกไปเรื่อยๆด้วยหลายสาเหตุ ทั้งความยากจน และสภาพอากาศที่เลวร้าย
ชาวเมืองมีอาชีพทอผ้า ช่างปั้น เลี้ยงสัตว์ และขายของทั่วไป ไม่มีการทำฟาร์มขนาดใหญ่ และไม่มีเส้นทางการค้าใดๆผ่านมาที่เมืองนี้
มีกองทหารประจำเมือง (Militia) อยู่ทั้งสิ้น 400 คน และอัศวินที่เคยรับใช้เจ้าเมืองคนเก่าอีก 9 คน หนึ่งในนั้นออกมารับอาหว่อ
(http://i.imgur.com/3HrnHX0.jpg)
"ยินดีต้อนรับสู่ซาเลม ประตูสู่สรวงสวรรค์" เธอชื่อรูค (Ruk) เป็นหัวหน้าอัศวิน ดูแววตาแล้วน่าจะจริงจังกับหน้าที่เอามากๆ
"เชิญนายท่านที่ปราสาทเถิด"
- ไปปราสาท แล้วระหว่างทางจะคุย/ถามเรื่องอะไร
- บอกเธอว่าอยากไปที่... ระบุ
- อื่นๆ
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
"ทำไมถึงเรียกว่า ประตูสู่สรวงสวรรค์?"
"แล้วข้าได้ยินว่าเมืองนี้เคยถูกใช้เป็นศูนย์กลางของการเผยแผ่ศาสนา Zenda"
"ควรจะมีศาสนสถานที่สำคัญตั้งอยู่ ข้าอยากไปดูหน่อย"
- บอกเธอว่าอยากไปที่... ระบุ
-
(http://i.imgur.com/3HrnHX0.jpg)
"สมญานามของเมืองนี้" Ruk ตอบแล้วมองดู Alya แต่ไม่ได้ทักทายหรือนอบน้อมให้
เธอเดินนำไปพลางบอกว่าที่มันมีสมญานามนี้ก็เพราะคำทำนายของพระมหาศาสดาที่มีในพระคัมภีร์
เมื่อนั้นประตูสู่สรวงสวรรค์ก็ได้เปิดออก แต่ผู้ศรัทธายังคงไม่เชื่อว่านั่นคือประตูสู่สรวงสวรรค์ พวกเขาล้วนแต่สงสัยในปาฏิหาริย์ที่บังเกิด
จอมกษัตริย์อาติฮาดเร่งระดมพลให้ค้ำยันประตูนั้น เพื่อหวังจะเปิดมันเอาไว้ตลอดไป แต่พระองค์ผู้ศรัทธาก็ยังไม่เชื่อในปาฏิหาริย์ที่บังเกิด
ศาสนา Zenda มีสองนิกายใหญ่ หนึ่งคือ Hulf ซึ่งเป็นนิกายทางฝั่งตกวันตก มีพื้นฐานความเชื่อว่ามังกรนั้นพระเจ้าได้ส่งลงมาให้มนุษย์ใช้งาน
ในขณะที่ Dafh นั้นเชื่อว่ามังกรถูกสร้างมาพร้อมกับมนุษย์ โดยพระเจ้าต้องการให้ทั้งสองฝ่ายช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกัน
มนุษย์จะใช้ปัญญาช่วยเหลือมังกร ในขณะที่มังกรจะเป็นพลังให้กับมนุษย์ และศาสนานี้ยังต่อต้านการทานอาหารที่ทำจากมังกรอีกด้วย
นิกาย Dafh จะนับถือกันในหมู่ชาว Azar แต่ก็เพียงเปลือกนอก เพียงแค่ชาว Azar ไม่ต้องการนับถือนิกายเดียวกับพวกชนชาติทะเลทรายเท่านั้น
และนั่นทำให้ศาสนา Zenda นิกาย Dafh เสื่อมลงไปเรื่อยๆ
แต่ที่จริงแล้วแก่นแท้ของศาสนา Zenda ที่แท้จริงกลับไม่มีคำกล่าวใดกล่าวอ้างถึงมังกรเลยสักถ้อยคำ
(http://wudthipan.com/fucko/_images/7c5a02b8da38a4e61f14205facfc78b1/4018%20-%20Background.jpg)
หลังจากเข้าไปที่ปราสาท หลบเลี่ยงสายตาอัศวินและทหารลงชั้นใต้ดิน ผ่านคุก และแยกไปอีกทางหนึ่ง ลงบันไดวนที่สร้างใหม่ไปอีกลึกมากกว่า 1000 ขั้น ทั้งหมดก็มาถึงสถานที่แห่งหนึ่ง
ที่นี่คือมหาวิหารโบราณ เป็นโบราณสถานที่เก่าแก่ซึ่งจมลงมาใต้ผืนทราย เป็นเมืองโบราณที่เคยเป็นศูนย์กลางของการเผยแผ่ศาสนาในอดีตกาล
"ที่นี่ไม่มีศาสนสถาน หรือท่านจะเรียกมันว่าเป็นศาสนสถานก็คงได้" Ruk บอก แล้วชี้ไปตามทางที่ทำเอาไว้ใหม่ๆ
"อดีตผู้ครองนครแห่งนี้คนก่อนหายเข้าไปที่นั่น และไม่กลับมาอีก"
Ruk เป็นเพียงคนเดียวที่รู้ทางลงมายังที่นี่ เพราะเธอเป็นคนสนิทของเจ้าเมืองคนก่อน
เธอตัดสินใจบอกเรื่องนี้กับอาหว่อเพราะมองดูแล้วว่าอาหว่ออาจจะไขความลับนี้ และนำพาสิ่งดีๆมาให้กับเมืองนี้
"ท่านอิซราเอลเคยกล่าวเอาไว้ว่า ลึกเข้าไปที่สุดปลายทางนั่นอาจจะมีประตูสู่สรวงสวรรค์อยู่จริง"
"เหลือเชื่อ" Alya มองตาค้าง
"เราเข้าไปด้านในได้ไหม" Karal เริ่มซน
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
"ก็น่าสนุกดี แต่ถ้าพวกเราหายไปอีกคนจะทำยังไง"
"เจ้าเคยเข้าไปไหม? ไปตามหาท่านอิซราเอล?"
"แล้วท่านอิซราเอลเคยบอกไหมว่าทำไมจึงเชื่อว่ามีประตูสู่สรวงสวรรค์อยู่?"
ถาม Ruk
-
(http://i.imgur.com/3HrnHX0.jpg)
"ท่านก็ไม่มีคุณสมบัติ และเจ้าเมืองคนใหม่ก็ถูกแต่งตั้งขึ้น" เธอตอบคำถามแรก
"ข้าไม่ได้รับอนุญาต ท่านอิซราเอลย้ำว่าข้าต้องเป็นผู้นำทางให้กับผู้ที่เหมาะสม และ..."
เธอเหมือนจะอยากปิดเอาไว้ แต่อาหว่อ Chr เยอะเกินกว่าเธอจะใจแข็ง
"...และคอยกำจัดผู้ที่ไม่เหมาะสม"
เธอยังบอกต่อว่า Izrael เชื่อ เพราะเขาไม่ได้ศรัทธา
เมื่อนั้นประตูสู่สรวงสวรรค์ก็ได้เปิดออก แต่ผู้ศรัทธายังคงไม่เชื่อว่านั่นคือประตูสู่สรวงสวรรค์ พวกเขาล้วนแต่สงสัยในปาฏิหาริย์ที่บังเกิด
จอมกษัตริย์อาติฮาดเร่งระดมพลให้ค้ำยันประตูนั้น เพื่อหวังจะเปิดมันเอาไว้ตลอดไป แต่พระองค์ผู้ศรัทธาก็ยังไม่เชื่อในปาฏิหาริย์ที่บังเกิด
ศรัทธาในที่นี้ไม่ได้หมายถึงศาสนา Zenda ผู้ที่ศรัทธาในศาสนา Zenda จะถูกเรียกว่า 'เหล่าสาวก'
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
"ศรัทธาในราชินีมังกร" ถูกแล้ว
ความเชื่อเกี่ยวกับตำนานราชินีมังกรนั้นยิ่งใหญ่ และเกิดมาก่อนตั้งแต่ก่อนบรรพกาล เกิดมาก่อนศาสนา Zenda ผู้คนจำนวนมากเชื่อและศรัทธาในราชินีมังกร
แม้ศาสนา Zenda จะกำเนิดขึ้นมาก็ไม่อาจดึงและชักจูงผู้ศรัทธาแต่ดั้งเดิมมาได้ทั้งหมด ยังคงมีผู้ที่ศรัทธาต่อราชินีมังกรเป็นจำนวนมากที่ต่อต้านและเมินเฉยต่อศาสนา
ผู้ที่ศรัทธาในราชินีมังกรต่างไม่เชื่อว่านี่คือประตูสู่สวรรค์ เพราะราชินีมังกรคือทุกสิ่งทุกอย่าง ก้อนหิน ใบไม้ ต้นหญ้า สายลม ก้อนเมฆ จิตวิญญาณ ความชั่ว ความดี หรือความว่างเปล่า...
สวรรค์เป็นเพียงส่วนหนึ่งของราชินีมังกร พวกเขาไม่เชื่อในสวรรค์หรือพระเจ้า พวกเขาจึงไม่ก้าวเข้าไปในประตูนั้น
แต่ Izrael ไม่ได้ศรัทธาในราชินีมังกร เขาเป็นผู้ศรัทธาในศาสนาและคำสอนที่มีตัวตน มีทิศทาง และจับต้องได้ เขาจึงเชื่อว่ามันต้องมีประตูสู่สรวงสวรรค์อยู่จริง
- เข้าไป
- เอาไว้ก่อนดีกว่า กลับขึ้นไปจัดการเรื่องที่ควรทำก่อน
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
"ฟังดูน่าสนุกดี ข้าจะเข้าไป"
- เข้าไป
-
เบื้องหน้าของอาหว่อที่ประกบด้วย Alya และ Karal เป็นทางไม้ที่น่าจะสร้างขึ้นไม่ถึง 10 ปีจากการค้นพบที่นี่โดย Izrael เจ้าเมืองคนก่อน
เขาเข้าไปลึกและไม่กลับมา ก็น่าจะราว 3 ปีก่อน มีเจ้าเมืองมาที่นี่อีก 2 คนหลังจากนี้แต่พวกเขาก็ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตอย่างน่ากังขาจนมาถึงอาหว่อ
สะพานเชือกที่มีไม้วางพาดเอาไว้ค่อนข้างผุเพราะความชื้น ระยะทางราว 30-40 เมตร
- เดินไป: 3c Agi
- เดินอย่างระวัง: 3c Dex
- วิ่งไป: 3c Luk
- กลับออกจากที่นี่
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
"ไม่รุ้ว่าโชคดี หรือคราวเคราะห์ที่ได้มาเป็นเข้าเมืองที่นี่"
- เดินอย่างระวัง: 3c Dex
Rolled 1d3 : 1, total 1
-
อาหว่อมองดูไม้ท่อนที่ผุมากขนาดที่อาจจะหักได้ถ้าเหยียบลงไป แล้วก็ก้าวข้ามมัน หันไปบอกสองคนที่ตามมาให้เหยียบเฉพาะแผ่นไม้ที่เขาเหยียบเท่านั้น
เขาเดินอย่างระวังนำสองสาวไปจนถึงอีกฝั่ง แต่ขนาดย้ำและบอกซ้ำแล้วซ้ำอีก Karal ก็ยังเหยียบผิดจนตกลงไป เคราะห์ดีที่ Alya คว้ามือทัน
มาถึงอีกฝั่งก็แทบลื่นล้ม เมื่อเหยียบลงไปบนพื้นที่แฉะและเจิ่งนองด้วยน้ำ ทั้งพื้นและเสา รวมไปถึงสิ่งต่างๆชื้นแฉะ มีตะไคร่เกาะเต็มไปหมด
Alya ถามว่าเราจะไปทางไหนกันดีเมื่ออาหว่อยืนชั่งใจคิดอยู่นานสองนานแล้ว
มีทางที่เป็นบันไดหินวนอ้อมไปด้านหลังผา ช่องที่คล้ายปรตูทางเข้าซึ่งถูกทุบทำลาย และบันไดลงไปเบื้องล่างที่ไม่รู้ว่าจะเจออะไร
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
"ไม่มีทางที่ประดับด้วยดอกไม้ ปูพรมให้เดินเข้าไปเลยหรือไง"
"ว่าแต่ใครเป็นคนทุบ? เจ้าเมืองคนก่อนเรอะ? แล้วทำไปทำไม?"
อาหว่อไปที่ช่องคล้ายประตูทางเข้าที่ถูกทุบทำลาย สำรวจดูร่องรอยว่าเกิดจากอะไร แล้วเขาพอจะรื้ออกได้ไหม
-
ทุบทำลายก็เพื่อจะเข้าไปข้างในไงล่ะ พอดีว่าคนทุบเขาไม่อยากทำเควสหากุญแจยืดยาวเท่านั้นเอง
มันเป็นช่องให้เข้าไปได้ เมื่อมีคนทุบย่อมแปลว่ามีคนเคยเข้าไปแล้ว จะเข้าไปดีไหมนะ
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
"อาจจะได้เจอเจ้าเมืองคนก่อนก็ได้นะ"
- เข้าไป
-
อาหว่อเข้าไปยังทางนั้นที่มีร่องรอยของผู้ที่เข้าไปก่อน ทั้งรอยเท้าที่เดินเตะตะไคร่เป็นทางยาวยังคงเหลือให้เห็นร่องรอยบ้าง
เขาแน่ใจได้ว่าถ้าเคยมีคนเข้ามา กลไกกับดักที่อาจจะมีดักเอาไว้จะต้องถูกเคลียร์ไปหมด
(http://i.imgur.com/vsiPEWG.jpg)
"อั๊ย~!" Σ(ノ°▽°)ノ
Karal ลื่นไปกอดอาหว่อ ส่วน Alya ระมัดระวังตัวได้ดีพอจะไม่ทำตัวอย่างนั้น
เข้าไปได้ไม่ไกลไปกว่าร้อยเมตรก็พบบันไดทางขึ้นและทางลง ทางขึ้นมีเศษตะไคร่จับน้อยกว่าทางลงที่ตะไคร่หนา
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
"เจ้าเมืองคนก่อนน่าจะไปข้างบนสินะ"
- บน
-
ขึ้นไปเรื่อยๆ จนมาถึงสุดทางที่มีประตูสีทองปิดอยู่ มันสลักอย่างงดงามเป็นรูปมังกรสามหัว
เมื่อเข้าไปใกล้เจ้าหัวด้านขวามันก็เบิกตาขึ้นมองอาหว่อเขม็ง
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
"สวัสดี"
อาหว่อทักทายอย่างเป็นมิตร
-
มันจ้องเขม็งแต่ไม่เกิดอะไรขึ้น
Alya เพ่งมอง ส่วน Karal ยืนลุ้น
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
"ไม่มีมารยาทเลย"
อาหว่อมองดูรอบๆว่ามีอะไรนอกจากประตู ถ้าไม่มีก็จูงมือสามคนเดินเข้าไปหาประตู
-
รอบๆก็ไม่มีอะไรนะ แต่พอเดินเข้าไป Karal เลยซุกซนเปิดปิดตาของมันเล่น
อาหว่อพบว่าสามารถเปิดและปิดตาของมันได้ เมื่อเปิดตาของหัวฝั่งขวา ตาของหัวฝั่งซ้ายก็เปิดออกแทน แต่เปิดตาของหัวตรงกลางไม่ได้
Alya ยืนมองเขม็งอยู่พักหนึ่งแล้ว เธอคิดว่า...
ถ้าอาหว่อหาทางไม่ได้ Alya จะทำแทน (ไม่ได้ Exp +1 และ Ally +1)
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
อาหว่อจิ้มตามังกร
- ให้อัลยาจัดการ
-
เปิดตาฝั่งซ้าย ตาฝั่งขวาปิด เปิดตาฝั่งขวา ตาฝั่งซ้ายก็ปิด ส่วนหัวตรงกลางไม่ลืมตาเลย
Alya จึงลองเปิดทั้งหัวซ้ายและขวาพร้อมกัน มันเปิดค่อนข้างยาก แต่พอเปิดขึ้นมาได้ก็มีเสียง ครึ่ก...
แล้วเจ้าหัวตรงกลางก็ลืมตาขึ้น ทีนี้เลยกลายเป็นทั้งสามหัวลืมตามอง Alya แต่ Alya ก็ปิดตาเจ้าหัวตรงกลางทันที ส่งผลให้ตาอีกสองฝั่งปิดลงพร้อมกัน
เมื่อตาทั้งสามหัวปิดแล้วประตูก็ปลดสลัก แกร่ก.... ได้ยินเสียงเอียดอาดดังแสบหูเมื่อกลอนสะบั้นและประตูกำลังเลื่อนขึ้นเพื่อเปิดทาง
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
"ข้าต้องให้ตำแหน่งใหม่กับเจ้า หัวหน้านักบุกเบิก?" อาหว่อกล่าวแก้เก้อเมื่อเห็น Alya ทำมันได้ แต่ Karal เป็นคนแรกที่มุดเข้าไป
ทั้งหมดเดินไปตามทางเดินแคบๆ จนมันกว้างออก แล้วไปโผล่ยังโถงกว้างๆ มีประตู 12 ช่อง
เหนือประตูมีสัญลักษณ์ซึ่ง Karal อ่านออกว่ามันเป็นสัญลักษณ์ของดารา 12 ดวงที่เรียกว่า จักรราศี มีทั้ง 12 ราศี
มีประตูของราศีคนคู่เปิดอยู่เพียงบานเดียว
- เข้าไป
- ให้ Alya เข้าไป
- Karal เข้าไปแล้ว
- อื่นๆ
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
"ทำไมต้องคนคู่" เข้าไปต้องติดอยู่ใน Another Dimension แน่
- อาหว่อลองเดินไปเปิดประตูอื่นดูก่อน
-
ทุกบานปิดสนิท มีรอยฝุ่นรอบๆขอบประตูให้เห็นได้ชัดว่ามันไม่เคยถูกเปิดมานานแสนนาน
- เข้าไป
- ให้ Alya เข้าไป
- Karal เข้าไปแล้ว
- อื่นๆ
-
- เข้าไป
-
อาหว่อเดินเข้าไปก่อนใคร เป็นทางดินเข้าไปตรงๆ ผนังสี่ด้านเป็นวัสดุแบบเดียวกันคือหินแกรนิตที่เต็มไปด้วยฝุ่น
ซอกของอิฐแต่ละช่วงเป็นศิลาอาคมที่ส่องสว่างติดๆดับๆ (หลอดไฟของยุคนี้)
กระทั่งไปลึกพอที่แสงจะไม่มีส่องเข้ามาถึง อาหว่อรู้สึกได้ถึงใครบางคนในความมืดนั้น
เจ้าเป็นใคร
- ข้าคือ Castor
- ข้าคือ Pollux
- ถามกลับว่า...
- ตอบว่า...
- Talent Chr
-
- Talent Chr
ผ่านชัว
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
"ท่านอยากให้ข้าเป็นใคร ข้าจะเป็นคนผู้นั้น" อาหว่อตอบกลับไป
อีกฝ่ายที่เงียบไปนานถามตอบกลับมาว่า
ข้าคือแคสเตอร์
ผู้น้องของข้าคือพอลลักซ์
เจ้าเป็นพอลลักซ์ไม่ได้
- ถามกลับว่า...
- ตอบว่า...
- เดินเข้าไป
- เดินออก
- อื่นๆ
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
อินี่พูดเรื่องอะไรฟะ
"แล้วข้าสามารถเป็นใครได้"
-
เจ้าสามารถเป็นใครก็ได้ที่จะไปตามหาพอลลักซ์ ผู้น้องของข้า
- ตกลง ออกจากที่นี่
- เดินเข้าไปดูสิว่าใครมันอวดเบ่ง
- คุย ถาม
- อื่นๆ
-
- เดินเข้าไปดูสิว่าใครมันอวดเบ่ง
-
อาหว่อเดินเข้าไป และเขาก็พบกับ
(http://i.imgur.com/nOcSJLN.jpg)
เจ้าสามารถเป็นใครก็ได้ที่จะไปตามหาพอลลักซ์ ผู้น้องของข้า
หรือไม่ เจ้าก็เข้ามาให้ข้าสูบกินเลือดเนื้อเสียมันช้าเกินกว่าที่เขาจะถอย อีกฝ่ายยืดมือทั้งสองออกมา
กรงเล็บคมกริบ x2: 10c Status(2) M.Atk 3 (2 Turn)
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
"อะไรของหล่อนฟระ ใครเขาขอให้คนอื่นช่วยแบบนี้เนี่ย โตมายังไง ได้รับการศึกษามาเยี่ยงไร"
ใช้ Str
Rolled 2d10 : 1, 9, total 10
-
1 damage
Exp +1
อาหว่อเกือบโดนขย้ำคอหลุดถ้าเอี้ยวตัวหลบไม่ทัน แต่เนื้อที่ไหล่ก็โดนเล็บเกี่ยวกระชากหลุดเจ็บปวดนัก
เขาถอยออกมาชนกับ Alya และเมื่อเธอเห็นก็ชักดาบฟันกรงเล็บนั้นแล้วรีบล่าถอยออกจากที่นี่
ก็ดูเหมือนอมนุษย์นั่นจะเดินไม่ได้นะ...
(http://i.imgur.com/vsiPEWG.jpg)
"เราอยากช่วยเธอจัง พวกเราช่วยเธอกันเถอะ เธอน่าสงสารมาก" Karal ไม่ได้เข้าไปจึงไม่รู้ว่านังปิศาจนั่นน่ากลัวขนาดไหน
อย่างไรก็ตาม Alya สันนิษฐานให้อาหว่อพิจารณาว่านั่นอาจจะเป็นพวกโกเลมบางอย่าง หรือไม่ก็มายาอาคม ไม่ใช่ภูติหรือปิศาจหรอก
Karal จึงเล่าให้ฟังว่าในตำนานโบราณเคยมีคำบอกเล่าถึงฝาแฝดสองคนที่เป็นไข่คนละใบ
Castor ผู้พี่เป็นแค่คนธรรมดา ส่วน Pollux ผู้น้องมีอำนาจวิเศษและชีวิตนิรันดร์
"ถ้าท่านอยากรู้อีกท่านต้องกอดข้าในค่ำคืนนี้" Karal ดึงแขนอาหว่อให้ออกจากที่นี่ เธอหิวแล้ว
รางวัล บทที่ 4
- ได้รับ PP +1
- เลือก Ally +3 Exp +5 G +15 หรือ ตัวละครที่ใช้งานใน Event นี้ Level 20
เวลาจะเดินไปหนึ่งปี ผู้เล่นจะได้เลือกว่าจะรับสิ่งใดที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานี้
- Exp +5 และ Bonus ฝึกฝน +50% ลด Exp ที่ใช้ลง 50% ทั้งการเรียนรู้ Status และ Skill (1 ครั้ง)
- G +50
- Ally +1 (1 ตัวละคร) และรักษา Ally เอาไว้ (คนที่ไม่เลือกข้อนี้ ตัวละครทั้งหมดที่มี Ally จะมีโอกาส 50% Ally -1)
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
"ดูยังไงตัวเมื่อกี้ก็ไม่ใช่คนธรรมดานะ มั่วหรือเปล่า?"
รางวัลบทที่ 4
- เลือก Ally +3 Exp +5 G +15 ให้ นันฮะ
- Exp +5 และ Bonus ฝึกฝน +50% ลด Exp ที่ใช้ลง 50% ทั้งการเรียนรู้ Status และ Skill (1 ครั้ง)
- Hp
Rolled 1d10 : 6, total 6
Training
Luk
Rolled 3d10 : 10, 1, 9, total 20
-
อาหว่อใช้เวลาอยู่ที่นี่ 1 ปีเพื่อศึกษาเรื่องราวต่างๆ เขาได้รู้เกี่ยวกับตำนานเก่าว่าฝาแฝดนามว่า Pollux นั้นมีอายุขัยที่ยืนยาว ส่วน Castor ได้ตายไปก่อน
Pollux จึงออกเดินทางตามหายาวิเศษเพื่อนำมันมาใช้ชุบชีวิตให้กับ Castor กระทั่งเขาเองต้องไปเผชิญหน้ากับยักษ์ และถูกยักษ์ฆ่าตาย จบ
Roleplay สิ่งที่เกิดขึ้นหรือต้องการให้เกิดขึ้นใน 1 ปี มีผลด้าน Bonus ต่างๆ
มี Max อยู่ ถ้าทำหลายอย่างก็กระจายกันไป ถ้าทำอย่างเดียวก็เน้นเพิ่มอย่างเดียว
Ally จะได้ไม่เกิน +1 ไม่ว่าจะพยายามตีสนิทกับคนมากแค่ไหน บางคนเข้าหา/ปฏิสัมพันธ์ไม่ถูกทางก็อด
ถ้าไม่เขียนเรื่องราวเกี่ยวกับตัวละครใหม่ที่ได้รับ GM จะเขียนให้ตามเหมาะสม เฉพาะตัวละครนี้จะได้ Ally 1 (ไม่มีผลต่อ Bonus Max) และใช้การ Role ข้างต้นเพิ่มไม่ได้
หรือ ปล่อยให้ทุกอย่างเดินไปตามที่มันควรจะเป็น ก็ได้ Bonus เท่ากัน
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
อาหว่อใช้เวลาตลอดเวลา 1 ปีในการให้ Ruk พาลงไปสำรวจโบราณสถานใต้ดินนั้น เขาจำได้ว่ามีทางแยกที่เขาไม่เคยไปอยู่ แต่ละครั้งอาหว่อเตรียมอุปกรณ์ไปอย่างพรักพร้อม บางวันก็ไปนั่งคุยกับแคสเตอร์ ไหนๆก็เดินไม่ได้นี่นะ เว้นระยะปลอดภัยก็ไม่น่ามีปํญหา ไปนั่งคุยเผื่อได้ข้อมูลอะไรเพิ่มเติมเกี่ยวกับที่นี่ และอาหว่อก็ไม่ลืมที่จะมองหาร่องรอยของเจ้าเมืองคนก่อนด้วยว่าหายไปอย่างไร แคสเตอร์กินไปแล้วหรือเปล่า?
อาหว่อไม่ได้ลืมเรื่องการบริหารเมืองเขาให้ Karal กับ Alya เป็นคนจัดการระหว่างที่เขาลงไปสำรวจ บางทีก็พาทั้งสองลงไปด้วย
-
อาหว่อไม่ได้ลืมเรื่องบริหารดูแลเมือง แต่เขาไม่ได้ใส่ใจกับมันเลย ทั้ง Alya และ Karal ไม่มีศักยภาพทางด้านนี้ ทุกอย่างเละเทะ
เคราะห์ดีที่นี่เป็นเมืองชายแดนที่ยากจน ระบบเศรษฐกิจและกิจการงานเมืองไม่ซับซ้อน มันจึงไม่ถึงกับวินาศสันตะโรจนเมืองล่มจม
อาหว่อใช้เวลามากมายในการพยายามเข้าไปสำรวจให้ลึกยิ่งขึ้น แต่ด้วยกำลังของเขาและความสามารถที่ไม่ได้มาทางด้านนี้มันเป็นเรื่องยาก
เขารู้จาก Castor ว่าน้องสาวของเธอหายไป และยัยผีดิบนี่ก็พูดวนไปวนมาอยู่แค่นั้น คุยยังไงก็ไม่ได้อะไรมากมายไปกว่านั้นอีก
ส่วนสาเหตุที่เธอเดินไม่ได้ก็เพราะเธอต้องยืนวิปัสนา ไม่อย่างนั้นอายุขัยจะเดินไวขึ้น และจะแก่ตายไปตามวัย ก็เหมือนผู้เฒ่าโดโกอาจารย์ของชิริวที่นั่งสะกดลมหายใจเฝ้าน้ำตกเพื่อชะลออายุขัย
อย่างไรก็ตาม การที่อาหว่อมีมานะพยายามมาตลอด 1 ปีก็ทำให้เขาได้พบกับ Pollux เข้าจนได้โดยไม่ต้องมาเสียเวลาทำเควสตามหาแล้ว
เธอไปเดินเล่นปะปนในสังคมมนุษย์ ในตัวเมืองนั่นแหละ และดูเหมือนเธอจะลืมไปแล้วด้วยว่าตัวเองออกมาจากวิหารโบราณทำไม
(http://i.imgur.com/CJH1o3e.jpg)
เธอคือ Pollux ฝาแฝดของ Castor
ข้อมูลปกปิด
-
ข้อมูลปกปิด
-
ผ่านมา 1 อาหว่อต้องมาเวียนหัวกับยัย Pollux ที่วิ่งซนไปทั่วปราสาทอย่างกับลูกลิง
- บริหารบ้านเมือง
- ลงดันต่อ
- อื่นๆ
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
สมองก็ไม่มีไปบริหารเมืองลูกน้องก็พึ่งไม่ได้ แถมก็ไม่เหมาะเป็นนักสำรวจอีก จะเหลืออะไรให้ทำล่ะเนี่ย ว่าแต่ Pollux นอกจากซนแล้วทำอะไรได้บ้าง
- ไปคุยกับ Pollux
-
Pollux บอกว่าเธออยากได้ยาวิเศษ เพื่อที่พี่ของเธอจะได้มีอายุขัยยาวนานเป็นอมตะเหมือนกับเธอ ไม่ต้องเอาแต่ยืนอยู่ที่เดิมอย่างนั้น
พวกเธอพี่น้องเป็นฝาแฝด พวกเธอเกิดพร้อมกัน แต่พวกเธอจะไม่มีวันตาย นั่นแหละสิ่งที่เธอปรารถนา
อาหว่อคิดว่าน่าจะพาเธอกลับไปหา Castor มากกว่าจะไปช่วยเธอหายาวิเศษที่ไม่รู้ว่ามันมีอยู่จริงไหม
- บริหารบ้านเมือง
- ลงดันต่อ (พากลับไปหา Castor นั่นแหละ)
- อื่นๆ
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
"หวังว่าพี่เธอคงไม่จะกินฉันอีกนะ"
- ลงดันต่อ (พากลับไปหา Castor นั่นแหละ)
-
เธอบอกว่าไม่ ไม่ และไม่ท่าเดียว แต่อาหว่อมีเสน่ห์เร้าใจ เขาพยายามอธิบายและโน้มน้าวจน Pollux ยอมกลับไป
Exp +1
แต่เมื่อไปถึงแล้วก็พบว่า Castor หายไป บ้าน่ะ หรือว่าเธอจะออกไปตามหา Pollux
Karal ที่มาด้วยบอกว่าถ้าอย่างนั้นเราต้องไปตามหา Castor ตรงทางที่เรายังไม่เคยไป เธอต้องไปทางนั้นแน่ๆ (Alya จะอยู่ในสายบริหารเมือง ไม่ลงมาด้วย)
อาหว่อมองดูไม้ท่อนที่ผุมากขนาดที่อาจจะหักได้ถ้าเหยียบลงไป แล้วก็ก้าวข้ามมัน หันไปบอกสองคนที่ตามมาให้เหยียบเฉพาะแผ่นไม้ที่เขาเหยียบเท่านั้น
เขาเดินอย่างระวังนำสองสาวไปจนถึงอีกฝั่ง แต่ขนาดย้ำและบอกซ้ำแล้วซ้ำอีก Karal ก็ยังเหยียบผิดจนตกลงไป เคราะห์ดีที่ Alya คว้ามือทัน
มาถึงอีกฝั่งก็แทบลื่นล้ม เมื่อเหยียบลงไปบนพื้นที่แฉะและเจิ่งนองด้วยน้ำ ทั้งพื้นและเสา รวมไปถึงสิ่งต่างๆชื้นแฉะ มีตะไคร่เกาะเต็มไปหมด
Alya ถามว่าเราจะไปทางไหนกันดีเมื่ออาหว่อยืนชั่งใจคิดอยู่นานสองนานแล้ว
มีทางที่เป็นบันไดหินวนอ้อมไปด้านหลังผา ช่องที่คล้ายประตูทางเข้าซึ่งถูกทุบทำลาย และบันไดลงไปเบื้องล่างที่ไม่รู้ว่าจะเจออะไร
มี 2 ทางนี้ ซึ่งอาหว่อเคยไปสำรวจทั้งสองทางแล้วแต่ไปต่อไม่ได้
- บันไดหินวนอ้อมไปหลังผาพบว่ามันไปยังที่สูงที่ต้องปีนป่าย และเขาอุ้ยอ้ายเกินกว่าจะปีนป่ายได้ เส้นทางนี้จึงหยุดการสำรวจเอาไว้
- บันไดลงไปเบื้องล่างเป็นทางเดินลึกเข้าไปจนพบว่ามันเป็นวิหารใต้ดินที่ทิ้งร้าง มีกลไกกับดักอันตรายที่ยังเคลียร์ได้ไม่ถึง 1/10
-
- บันไดลงไปเบื้องล่างเป็นทางเดินลึกเข้าไปจนพบว่ามันเป็นวิหารใต้ดินที่ทิ้งร้าง มีกลไกกับดักอันตรายที่ยังเคลียร์ได้ไม่ถึง 1/10
-
(http://wudthipan.com/fucko/_images/32630d8963c7bf7cf8dd26663356f892/4028%20-%20Background.jpg)
มันเป็นวิหารโบราณชั้นใต้ดินที่เหมือนกับสร้างเอาไว้บวงสรวงอะไรสักอย่าง อาหว่อไม่คิดว่าเขาจะเข้าใจเรื่องยากๆพวกนี้
มองไปในความเวิ้งว้างนั่นมันไม่ได้เดินผ่านไปได้ง่ายๆ เขาสำรวจจนรู้ว่ามีกับดักกลไกมากมายอยู่ที่นี่ มีเพียงไม่กี่ชิ้นที่ถูกเก็บกู้ไปแล้ว
ยังไม่ทันจะได้ทบทวนความจำ Pollux ก็วิ่งตื๋อเข้าไป
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
"ก็ดี มีคนเคลียร์ให้"
วิ่งตามพอลลักเข้าไป
-
เพราะ Castor ได้ผ่านไปก่อนแล้วทำให้กับดักและกลไกตลอดทางถูกเคลียร์ไปเกือบหมด อาหว่อรีบวิ่งตามไปโดยมี Karal วิ่งตาม แต่สักพักเธอก็วิ่งแซงเขา
กระทั่งทั้งสามไปถึงโถงหนึ่งที่กว้างเป็นทรงกลม เพดานยกสูงลิบ ผนังทรงโค้งโดยรอบมีช่องคล้ายประตู ดูแล้วคล้ายกับห้องที่ไปเจอประตูจักรราศี
แต่ที่ไม่เหมือนกันก็คือช่องรอบๆมันมีมากกว่าร้อยช่อง และแต่ช่องไม่มีบานประตูแต่มีบางอย่างกำลังคืบคลานออกมา
Pollux แหงนมองเห็นกรงที่กักขังพี่สาวของเธอห้อยโตงเตงอยู่เหนือพื้นเกือบติดเพดานแกว่งไกวไปมาโดยมี Castor คำรามลั่นและพยายามจะแหกกรงออกมา
ส่วน pollux ก็แหกปากลั่นไม่ยอมแพ้กัน คล้ายกับสุนัขหอนตอบรับกันอะไรอย่างนั้น เห็นอย่างนั้น Karal ก็แหกปากตาม
- ถอยออกจากที่นี่
- Talent Dex
- อื่นๆ
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
พวกหล่อนทำบ้าอะไรกัน
"ท่าไม่ดีซะแล้ว"
อาหว่อมองหากลไกหรือสวิชที่ใช้ปล่อยแคสเตอร์ หรือโซ่ที่ใช้แขวนว่ามันโยงกับอะไรจะได้ทำลายโซ่ปล่อยแคสเตอร์ลงมา
-
อาหว่อไม่มีเวลามากพอจะมองหากลไกอะไร แต่เขามองไล่ตามโซ่ไปแล้วพบว่ามันเป็นกลไกรอกที่ไปยึดอยู่ตรงมุมด้านหนึ่งที่เป็นช่องประตู ปลายโซ่มันเข้าไปข้างในนั้นแหละ
Karal บอกว่าเราต้องไปปลดโซ่นะ นี่เป็นปริศนากลไกโบราณ เธอเคยอ่านเจอในตำราที่วางแผงขายใน Fatimah เราต้องช่วยเธอให้ได้นะ
ส่วน Pollux ยังคงแหกปากอยู่
และในเวลาเดียวกันนั้นที่บางสิ่งบางอย่างออกมาพ้นช่องประตู
(http://i.imgur.com/YR5XGcx.jpg)(http://i.imgur.com/YR5XGcx.jpg)(http://i.imgur.com/YR5XGcx.jpg)(http://i.imgur.com/YR5XGcx.jpg)
เลือกทั้งสองข้อ
- ใครจะไปที่ปลายโซ่ อาหว่อ/Karal
- ใครจะบอกให้ Pollux เลิกแหกปากแล้วมาช่วยกัน อาหว่อ/Karal
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
ให้ karal ทำนี่ดูไม่น่าได้เรื่องซักอย่าง
- ใครจะไปที่ปลายโซ่ อาหว่อ
- ใครจะบอกให้ Pollux เลิกแหกปากแล้วมาช่วยกัน อาหว่อ
-
ดูถูกกันเกินไปแล้ว Karal ชื่นชอบการไปซื้อตำราเก่าๆมาอ่านศึกษา ถึงเธอจะดูสติไม่ค่อยดีแต่เธอก็รู้เยอะนะ (อ่านบทแรกๆที่กระทู้เก่า Ziavarisha)
อาหว่อไม่มี Lds อีกฝ่ายไม่ฟังเขา พอเขาเข้าไปจับเธอเขย่าเลยโดนชกหน้ายุบ 1 damage
Karal มาคุยแทน ส่วนอาหว่อรีบวิ่งไปทางปลายโซ่
(http://i.imgur.com/vsiPEWG.jpg)
"เราต้องอัญเชิญเหล่าผู้กล้าแห่งจักรราศีมาช่วย!" Karal บอก Pollux และดึงสติเธอกลับมาได้
แต่อาหว่อไม่มีเวลามาสนเรื่องนี้ เขาวิ่งไปทางช่องประตูนั้นแล้วเจอโกเลมโบราณสองตัวเดินออกมาพอดี
ตัวหนึ่งถือค้อนโบราณ และอีกตัวถือโล่โบราณ
- วิ่งเข้าหาตัวถือค้อน
- วิ่งเข้าใส่ตัวถือโล่
- อื่นๆ
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
"มันอะไรกันนักหนา"
- วิ่งเข้าใส่ตัวถือโล่
-
อาหว่อวิ่งเข้าหาตัวถือโล่แล้วพุ่งโจนหลบไปใต้โล่ในเวลาเดียวกับที่ตัวถือค้อนเหวี่ยงค้อนฟาดใส่ ค้อนไปกระแทกโล่หินจนแตกหักกระจาย เจ้าโกเลมที่ถือโล่ตัวหักครึ่งลงไปกองที่พื้น
เบื้องหน้าของอาหว่อที่หนีเข้าไปในช่องประตูคือสลักอาคมที่แผ่ออร่าสีดำอมม่วงออกมา โซ่ถูกตรึงเอาไว้โดยพลังงานที่คล้ายกับอาคมสีดำนี้
และดูเหมือนเจ้าตัวถือค้อนจะวิ่งเข้ามาแล้ว ตัวมันใหญ่พอดีช่องเลย
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
".....สงสัยจะเลี่ยงการเจ็บตัวไม่ได้"
อาหว่อไปยืนตรงสลักอาคม ล่อให้เจ้าค้อนโจมตีเข้ามาแล้วหลบ
-
เจ้าตัวยักษ์วิ่งเข้ามาเอาค้อนกระทุ้งเข้าใส่ อาหว่อสไลด์ลอดขาของมันปล่อยให้มันกระแทกผนึกแตกหัก ได้ยินเสียงลั่นกลอนหรืออะไรสักอย่างที่แตกหัก
อาหว่อสะบัดหัวไปมาขับไล่ความมึนงงแล้ววิ่งออกมาราวคนเมา เห็นกรงตกลงมาจากความสูงที่กำลังแขนของเขาไม่มีทางรับได้แน่
ก็พอดีกับที่ Pollux อัญเชิญโกเลมรับใช้ของตนออกมา
เลือก 1 ราศีที่จะช่วยรับกรงที่ตกให้ได้
- แกะ
- วัว
- ปู
- ราชสีห์
- หญิงสาว
- คันชั่ง
- แมงป่อง
- คนยิงธนู
- แพะทะเล
- คนแบกหิน
- ปลา
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
ทำได้ขนาดนี้ทำไมไม่ทำแต่แรก โกเลมมันก็น่าจะรับได้หมดละมั้ง
- คนแบกหิน
-
โกเลมคนแบกหินปรากฎตัวขึ้นแล้วขว้างหินกระแทกกวาดฝูงโกเลมด้านหนึ่งแหวกเป็นทาง ก่อนจะรับกรงนั้นเอาไว้
แต่แรงกระแทกของกรงขนาดใหญ่ที่หนักเกือบสิบตันก็ทำให้เจ้าคนแบกหินแขนหักสิ้นสภาพกองอยู่ใต้กรง
Pollux วิ่งเข้าไปเปิดกรงแล้วกอด Castor ต่างคนต่างแหกปาก Karal เห็นก็อยากแหกปากด้วยแต่อาหว่อรีบลากทุกคนออกไปจากที่นี่เสียก่อน
เราได้รู้แล้วว่าทางลงไปที่นั่นเป็นโถงสังหาร ไม่มีอะไรเลย คนที่คิดออกแบบสร้างที่นี่ขึ้นมาต้องการอะไรกันนะ
ส่วนอีกเรื่องหนึ่งก็เห็นจะเป็นฝาแฝดสองคนนี้ Castor มีความสามารถในการต่อสู้สูง เกิดมาเพื่อปกป้องคุ้มครอง ส่วน Pollux สามารถอัญเชิญโกเลมโบราณทั้ง 11 ได้
Karal เอาตำราที่เคยซื้อเอาไว้มาให้อาหว่ออ่าน เป็นเรื่องราวบันทึกสั้นๆที่เขียนถึงประตูสู่สวรรค์ ดินแดนซึ่งผู้ถูกเลือกจะไปถึงสวรรค์
(http://i.imgur.com/vsiPEWG.jpg)
"เราเป็นผู้ถูกเลือก เราจึงรอดมาได้" :(
Karal ว่าอย่างนั้น นี่เธอทึกทักโมเมเอาเองหรือเปล่าเนี่ย มันหมายความอย่างนั้นจริงเหรอ
Exp +3 Ally Karal +1
Rolled 1d10 : 7, total 7
สรุปเหตุการณ์
- ทางลงไม่มีอะไรแล้ว
- โถงจักรราศีไม่มีอะไรแล้ว
- Castor จะติดตาม Pollux
- Pollux บอกว่าจะรับใช้อาหว่อที่ช่วย Castor เธออัยเชิญโกเลมได้อีก 10 ตัว
- โกเลมทุกตัวเก่าเก็บและอยู่มานาน เรียกใช้ครั้งเดียวพัง และ คนแบกหินก็พังไปแล้ว
- Karal บอกว่าเราน่าจะไปสำรวจตรงทางที่ต้องปีนป่ายที่อาหว่อยังไม่มีสติปัญญาจะผ่านไป
- Alya บ่นเรื่องบริหารเมือง
ทำอะไรต่อดี
- บริหารเมือง
- ลงดัน
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
"ห้ามแหกปาก" อาหว่อบอกพอลลักซ์และแคสเตอร์ที่จะตามเขาไป
- บริหารเมือง
-
พอลับหลัง Castor ก็แยกเขี้ยวใส่อาหว่อ แต่พอเขาหันมาเธอก็กลับมายืนหน้านิ่ง
Alya เปิดห้องทำงานให้อาหว่อมาดูงานที่กองอยู่ ไหนจะอัศวินที่ลาออกไปจนเหลือแค่ 4 คน
ยังไม่ทันจะได้ลงมือทำงานทำการก็มีทูตของ Faris มาขอพบ
Faris ต้องการส่งทหารเข้ามารักษาการในเมืองนี้เพื่อความมั่นคงของชายแดนตะวันตก เนื่องจากไม่มีป้อมปราการ
เอาไงดีล่ะ จะตอบไปว่าอย่างไร
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
"ข้าขอขอบคุญในความหวังดี แต่ข้าไม่เห็นความจำเป็นในเรื่องนี้ เนื่องจากเมือง Salem ของเรา ไม่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ ไม่ใช่ชัยภูมิสำคัญอันใด ทั้งไม่ใช่เส้นทางผ่าน การเสริมกำลังที่นี่ไม่ก่อประโยชน์ด้านความมั่นคงใดๆแก่อาณาจักร"
"อีกทั้งเมืองของเราไม่มีอาหารมากพอไปเลี้ยงทหารที่จะมาประจำการที่นี่หรอก แค่มีกินยังลำบากเลย ท่านก็น่าจะรู้"
-
"โปรดตรองให้ถี่ถ้วน ข้าเชื่อว่าท่านเข้าใจดีถึงสถานการณ์บ้านเมืองในเวลานี้"
"บางที.... กำลังพลของ Faris ที่มีมากเกินไปอาจจะไม่ได้มาหยุดพักที่ Salem แต่จะเคลื่อนพลเข้าสู่เมืองหลวงของ Fatimah แทน"
Alya กระซิบบอกอาหว่อว่า Faris กำลังจะรุกรานเรา ไม่ว่าเราจะตอบกลับไปอย่างไรก็ตาม แต่คำตอบของอาหว่อจะเป็นขวัญกำลังใจให้อัศวินและทหารที่เหลืออยู่
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
เขาพูดมาขนาดนี้แล้วไม่ต้องให้หล่อนมาบอกหรอก ส่วนเรื่องขวัญกำลังใจ . . . เอาน่ะ
"หน้าข้าดูเหมือนคนเข้าใจสถานการณ์เหรอ ลงดันมา 1 ปีเต็มงานการไม่ได้ทำ นี่เพิ่งเคยได้เข้าห้องทำงานเนี่ย"
"ขอให้สนุกกับการเดินทาง เอ้อ แต่ระวังไว้ กำลังพลที่มากเกินไปของท่าน ขากลับอาจจะเหลือน้อยเกินไป"
-
ทูตผงกหน้าแล้วกลับไป
บางทีสงครามที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในช่วงหลายพันปีที่ผ่านมาอาจจะเปิดฉากขึ้นที่เมือง Salem แห่งนี้
หรือบางทีตำนานอาจจะบันทึกเอาไว้ว่าอาหว่อคือผู้จุดไฟสงคราม
Alya บอกเขาว่าเขาทำเรื่องร้ายแรงขึ้นมาแบบนี้อีกไม่นาน Salem จะลุกเป็นไฟ เขามีทางออกแล้วหรือยังถึงได้ทำอย่างนี้
- มีสิ จัดเตรียมกำลังพล
- ราชินีพญาสิงห์จะช่วยเราเองน่า
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
"หึหึหึหึ เจ้าคิดว่าข้าจะทำอะไรไม่คิดหน้าคิดหลังแบบนั้นเหรอ"
"เจ้าคิดถูก" ประโยคนี้อาหว่อเหมือนพูดกับตัวเอง เบาจนไม่มีใครได้ยิน
- มีสิ จัดเตรียมกำลังพล
-
อาหว่อได้ใจ Alya และ Karal รวมถึงอัศวินและทหารของ Salem
Ally Alya +1 Karal +1
Rolled 1d10 : 2, total 2
อันดับแรกสุดเลยก็คือ ประชุม อาหว่อได้เปิดโถงปราสาทประชุมหารือในการนี้ ซึ่งเพียงไม่ถึงชม.บุคลากรส่วนใหญ่ก็มากันเกือบหมด
มีคนมากมายที่อาหว่อคิดว่าเขาต้องจัดการ ทั้งการโยกย้ายตำแหน่ง และการแต่งตั้ง
Karal อาหว่อรู้จักเธอดีที่สุด เธอมีฐานันดรศักดิ์เป็นองค์หญิงและผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์
ตรงข้ามกับอาหว่อที่เป็นแค่อัศวินตกถังข้าวสารที่บังเอิญได้มาครองเมือง หรือสามล้อถูกหวย แต่กลับมีสัมพันธ์ลับๆกับองค์หญิง
นั่นทำให้ Karal ถูกนำไปกล่าวอย่างเสียๆหายๆ และอาหว่อเองก็มีภาพลักษณ์ที่ไม่ค่อยดีนัก ทั้งในทางบวกและทางลบ
Alya องครักษ์เอกที่มาช่วยงานอย่างไม่มีกำหนด เธอมีไหวพริบ ฉลาดรอบคอบ และมีฝีมือ แต่ไม่มีอะไรเด่นเป็นพิเศษ
ถ้าอาหว่อต้องการเป็ด เธอคือคำตอบที่ใช่ แต่ถ้าเขาต้องการผึ้ง เหยี่ยว ราชสีห์ หรือมังกร เธอเป็นไม่ได้
อัศวิน A เป็นหญิงผิวสีแทน แข็งแกร่ง แต่โง่ โชคดีที่เธอมักไม่แสดงความโง่ออกมา
เธอมีความรักในอิสระพอตัว แต่ที่มาเป็นอัศวินเพราะครอบครัวเป็นอัศวินมาแต่เดิมที
อัศวิน B เป็นหญิงมาดขรึม ฉลาดเฉลียว แต่ความภักดีต่ำ เธอทำงานเพื่อเจ้าเมืองคนก่อน และเธอเกลียดขี้หน้าอาหว่อ
อัศวิน C เป็นหญิงมีฝีมือ และค่อนข้างกว้างขวางในหมู่ทหาร เสียแค่เธอเกลียดขี้หน้า Karal และพวกราชนิกูล
เธอเกือบๆจะไม่ชอบอาหว่อด้วย
อัศวิน D ไม่ได้เก่งอะไรสักอย่าง แต่มีอุดมการณ์สูง ภักดีต่อราชวงศ์สุไลมาน และซื่อสัตย์ต่ออาหว่อผู้เป็นนาย
หัวหน้ากองกำลังแห่งเมือง Salem เป็นหญิง เลื่อนตำแหน่งขึ้นมาหลังหัวหน้าคนก่อนเสียชีวิต มีฝีมือและสติปัญญา แต่วันๆไม่ได้สนใจจะทำงานอะไร วินัยหย่อนยาน
เนื่องจากที่นี่ยังไม่มีแม่ทัพ ตำแหน่งนี้จึงคล้ายแม่ทัพกองทัพเล็กๆ
รองหัวหน้ากองกำลังแห่งเมือง Salem เป็นหญิง มีฝีมือในการใช้ปืนสูง แต่มีข่าวว่ากำลังจะแต่งงานและออกจากราชการ
ที่ปรึกษาอาวุโส ป่วย ขี้โรค วันๆแทบจะไม่ได้ทำอะไรแล้วเพราะอาการป่วย ได้แต่รอเกษียร
นี่คือเหล่าบุคลากรที่อาหว่อคิดว่ามีหน้ามีตา และเหมาะที่จะใช้งานได้ (นอกนั้นไม่มีหน้า)
เขาต้องจัดการกับบุคลากรเหล่านี้ให้ลงตัวกับตำแหน่งต่างๆที่ยังว่าง หรือขาดหายไป เพื่อรับมือศึกสงคราม
สามารถพิจารณารายคนได้ การคุย ถาม และอื่นๆ มีผลต่อรีแอคชั่นที่จะตอบสนองกลับมามากขึ้น แต่ทำได้โพสละ 1 คน ไม่มีข้อเสียอะไรนอกจากเสียเวลา
หากไม่พิจารณาเพิ่มเติมแล้วจะเข้าสู่การโยกย้าย/ปรับเปลี่ยน/แต่งตั้ง ฯลฯ
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
อาหว่อไปพบที่ปรึกษาอาวุโสเป็นอันดับแรก ขอคำแนะนำ และถามถึงความเหมาะสมในตำแหน่งของคนอื่นแต่ละคน
-
ที่ปรึกษาอาวุโส ป่วย ขี้โรค วันๆแทบจะไม่ได้ทำอะไรแล้วเพราะอาการป่วย ได้แต่รอเกษียร
นางเป็นสาวรุ่นป้า ทั้งที่อายุก็ปาเข้าไปเกือบ 120 ปีแล้ว นั่นเพราะพลังของพรายที่คงสภาพอายุของนางเอาไว้
"นายท่านให้เกียรติข้าแล้ว" นางกล่าวแล้วผงกศีรษะให้ จากนั้นก็ไอโขลกๆน้ำหูน้ำตาไหลอยู่นานสองนาน
ผ่านไปเกือบสิบนาทีหลังจากพยายามฝืนพุดแล้วก้ไอไม่หยุดอยู่นาน แต่อย่างไรนางก็เป็นที่ปรึกษาอาวุโสนะ
Karal ควรอยู่เคียงกายอาหว่อ ดาวประจำราศีของนางเป็นดาวที่มีพลังกล้าแข็งต่อเมื่อมีดาวน้อยใหญ่รายล้อม เมื่อนั้นนางจะส่องสว่างได้มากที่สุดยิ่งกว่าดาวดวงใดๆ
Alya มีคุณสมบัติที่จะเป็นได้ทุกอย่าง และนางมีความซื่อสัตย์สูง จึงเหมาะจะเป็นองครักษ์ หรือเจ้าหน้าที่ตำแหน่งสำคัญ
อัศวิน A เหมาะที่จะเป็นองครักษ์ นางมีธรรมชาติคือการทำงานตามคำสั่ง
อัศวิน B มีความสามารถมากถ้าควบคุมนางได้ อาหว่อคงต้องชั่งใจเอาเองว่าเขาจะให้คนเก่งทำงานโดยแลกกับความเสี่ยงไหม
อัศวิน C ไม่ควรทำงานใกล้ชิดกับอาหว่อ เว้นแต่อาหว่อจะหาทางละลายอคติพื้นฐานของเธอ
อัศวิน D เหมือนกับ Alya ดาวน์เกรด
หัวหน้ากองกำลังแห่งเมือง Salem เหมือนกับอัศวิน C แต่นางกุมอำนาจอยู่มาก จะขยับขยายนางนั้นยากลำบากและมีความเสี่ยง
หรือไม่อาหว่อก็ต้องปรับทัศนคติของนางให้ได้ ซึ่งมันยาก
รองหัวหน้ากองกำลังแห่งเมือง Salem เธอคนนี้คือหลานสาวของท่าน Israel อดีตเจ้าเมือง แต่เป็นลูกนอกสมรสจึงต้องมาเป็นได้แค่ทหาร ซ้ำตำแหน่งของเธอยังถูกกันเอาไว้โดยหัวหน้าของเธอเอง
ที่ปรึกษาชราแนะนำว่าอาหว่ออาจจะเกลี้ยกล่อมเธอได้ เกี่ยวกับเรื่องแต่งงาน หรือไม่ก็หาทางทำให้การแต่งงานไม่เกิดขึ้น...
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
อาหว่อกุมขมับ ถามต่อว่า รองหัวหน้ากองกำลัง จะแต่งงานกับใคร และตำแหน่งที่ต้องปรับเปลี่ยนนี่มีตำแหน่งใดบ้าง
-
เธอจะแต่งงานกับพ่อค้าจาก Faris ที่เดินทางมาค้าขายที่นี่ ครอบครัวของเธอจะได้สบาย
ตำแหน่งที่สำคัญตามลำดับได้แก่
1. กุนซือ หรือนักยุทธศาสตร์ (ที่ปรึกษาชราไม่มีแรงทำงานต่อไหวแล้ว)
2. แม่ทัพ (ไม่มีตำแหน่ง ต้องหาคนมา หรือเลื่อนขั้นใครขึ้นมา)
3. ขุนพลอย่างน้อย 3 คน
4. องครักษ์อย่างน้อย 1 คน
5. อื่นๆ
หัวหน้าองครักษ์คือ Ruk เปลี่ยนไม่ได้
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
อาหว่อขอบคุณที่ปรึกษาอาวุโสสำหรับคำแนะนำ ก่อนออกมา
ไปทำงานยากก่อน
- อัศวิน B
-
อัศวิน B เป็นหญิงมาดขรึม ฉลาดเฉลียว แต่ความภักดีต่ำ เธอทำงานเพื่อเจ้าเมืองคนก่อน และเธอเกลียดขี้หน้าอาหว่อ
มีความสามารถมากถ้าควบคุมนางได้ อาหว่อคงต้องชั่งใจเอาเองว่าเขาจะให้คนเก่งทำงานโดยแลกกับความเสี่ยงไหม
เธอมองเขาด้วยสีหน้าแววตาที่ไม่ได้ปิดบังอะไรว่าเธอเกลียดขี้หน้าของเขามากๆ
- เลือกตำแหน่งให้เธอเป็น...
- ข้าไล่เจ้าออก
- อื่นๆ ระบุ
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
อาหว่อปวดหัวอีกแล้ว
"ไง ข้าเอาขนมมาฝากด้วยนะ"
อาหว่อมาทักทายพร้อมขนม
"เอาล่ะ ข้าอยากจะถามว่า ทำไมเจ้าถึงไม่ชอบข้า"
-
"ท่านเข้าใจผิด ใช่ว่าข้าไม่ชอบท่าน" เธอบอกแล้วปัดขนมที่ยื่นให้ออก
- เลือกตำแหน่งให้เธอเป็น...
- ข้าไล่เจ้าออก
- รักษาโรคนี้
- อื่นๆ ระบุ
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
"เหรอ แสดงออกซะะชัดขนาดนี้ ยังจะปฏิเสธอีก"
"แต่ถึงอย่างไรข้าก็ต้องการเจ้า มีอะไรที่ข้าจะทำให้เจ้าพอใจได้บ้าง?"
รักษาโรคอะไร?
-
"ท่านทำให้ข้าพอใจไม่ได้" เธอว่าอย่างนั้น แล้วบอกว่า
"ใช่ว่าข้าไม่ชอบหรือเกลียดท่าน ข้าแค่รังเกียจท่าน"
อ้อ ไม่ใช่ว่าไม่ชอบ แค่รังเกียจเอง
- เลือกตำแหน่งให้เธอเป็น...
- ข้าไล่เจ้าออก
- ใช้กำลังข่มเหง
- อื่นๆ ระบุ
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
"เหตุผลล่ะ?"
- ใช้กำลังข่มเหง
-
(http://i.imgur.com/FzzQC7I.jpg)
"นี่คือข้อที่หนึ่งและเป็นข้อแรก" เธอชื่อ Rasha เธอบอกในสภาพที่ถูกอาหว่อกดแขนทั้งสองและหลังแนบพื้น แต่สีหน้านิ่งเฉย
ข้อมูลปกปิด
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
"เจ้าาา"
"พูดไม่ผิด ข้าอยากรู้ข้อต่อไปด้วย"
ข้อมูลปกปิด
-
ข้อมูลปกปิด
-
ข้อมูลปกปิด
-
อัศวิน C เป็นหญิงมีฝีมือ และค่อนข้างกว้างขวางในหมู่ทหาร เสียแค่เธอเกลียดขี้หน้า Karal และพวกราชนิกูล
เธอเกือบๆจะไม่ชอบอาหว่อด้วย ไม่ควรทำงานใกล้ชิดกับอาหว่อ เว้นแต่อาหว่อจะหาทางละลายอคติพื้นฐานของเธอ
อาหว่อเห็นเธอยืนสั่งทหารรักษาการให้ฝึกฝนอยู่กลางแดดอาบเหงื่อต่างน้ำ เธอยังไม่เห็นอาหว่อ
- เข้าไปปิดตา ครายเอ่ย
- เข้าไปหล่อๆ ทำอะไร พูดอะไรยังไงระบุ
- อื่นๆ
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
ละลายอคติพื้นฐาน ละลายอคติพื้นฐาน
- เข้าไปปิดตา ครายเอ่ย
-
อาหว่อโดนพลิกตัวบิดคว้าแขน เขากำลังจะโดนทุ่มข้ามตัว
แก้ทางท่าทุ่ม: 3c Agi/Dex M.Atk 1
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
"ไม่รับมุกเลยแฮะ"
ใช้ Dex
Rolled 1d3 : 2, total 2
-
อาหว่อโดนเหวี่ยงกระแทกพื้นดังตั้บ แต่เขาก็ไวพอจะดึงเธอล้มลงมาจนประกบปากกันเลยโดนชกเข้าให้อีกหมัดจนหน้ายุบ 1 damage
แต่พอเธอเห็นว่าเป็นอาหว่อก็ตกใจ ผละออกแล้วเอาผ้าคลุมเช็ดมือพลางถามห้วนว่า "ท่านมีธุระอันใด"
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
อาหว่อลุกขึ้นตามแล้วยิ้มให้ ;)
"ข้าได้ยินมาว่าเจ้าไม่ชอบเหล่าราชนิกูล รวมถึง Karal ด้วย"
"เป็นเพราะเหตุใดกัน?"
-
"ข้าขออนุญาตไม่ตอบคำถามไร้สาระ" เธอว่าแล้วเดินไปล้างมือ
อาหว่อเชื่อแน่ว่ายัยนี่ฤทธิ์มาก เขาจะทำยังไงกับเธอดี
- เลือกตำแหน่งให้เธอเป็น...
- ข้าไล่เจ้าออก
- อื่นๆ ระบุ
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
อาหว่อเดินตาม
"ข้าไม่คิดว่ามันไร้สาระ"
"เจ้าต้องทำงานร่วมกับ Karal ต่อไปอีกนาน และข้าอยากให้เจ้าทำงานให้ข้าอย่างสบายใจ"
"หากเจ้ามีเหตุผลอะไรไม่พอใจก็บอกข้ามา ข้าจะจัดการให้"
-
เธอหยุดกึกจนอาหว่อเดินชนเธอล้มหน้าทิ่มทราย ทำเอาเธอโกรธหน้าแดงหน้าดำชกอาหว่ออีก แต่คราวนี้อาหว่อเอี้ยวหลบแล้วจับข้อมือไว้พลางยื่นหน้าเข้ามา
ที่สุดแล้วเธอก็บอกเขาว่า "ข้าเกลียดพวกศักดินาที่ถือตนว่ายื่งใหญ่สูงศักดิ์และเรียกพวกตนด้วยนามที่สวยหรู แต่กับพวกเรากลับใช้คำว่าสามัญชนมาแบ่งแยก"
"ท่านทำได้ ท่านทำให้องค์หญิงของท่านเป็นสามัญชนเหมือนกับข้าสิ ข้าจะฟังท่านทุกอย่างเลย" พูดจบก็ผลักเขา
อาหว่อจะแก้ปัญหาเยี่ยงไรดี
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
ข้าจะฟังท่านทุกอย่างเลย ข้าจะฟังท่านทุกอย่างเลย ข้าจะฟังท่านทุกอย่างเลย . . .
อาหว่อยืนเคลิ้มไปพักนึง
"นั่นเพราะท่านไม่รู้จัก Karal แม้นางจะมีฐานะเป็นองค์หญิง แต่นางเป็นเพียงเด็กที่องค์ราชาเก็บมาเลี้ยงชาติกำเนิดของนาง ไม่ได้สูงส่ง นางก็เคยเป็นสามัญชนเช่นเดียวกับเจ้า"
"ดังนั้นนางจึงไม่แบ่งแบกอย่างที่เจ้าพูด ดูอย่างข้าสิ ข้าก็เป็นเพียงองค์รักษ์ แต่นางก็ยังไม่เคยดูถูกข้า"
"และข้าจะไม่ทำเหมือนนางพิเศษกว่าคนอื่น เพราะสำหรับข้าทุกคนเท่าเทียมกัน"
"ดังนั้นถ้าอยากมานอนด้วยก็มาได้เลย"
-
(http://i.imgur.com/PcY4aRa.jpg)
"ท่านก็เข้าข้างนางเพราะท่านได้เสียและสมสู่กันแล้ว" เธอไม่รับฟังในทีแรก แต่ก็เก็บเอาไปนอนคิด
จนวันรุ่งขึ้นเห็น Karal มาเจ้ากี้เจ้าการช่วยช่างก่อกำแพงเมือง เธอนึกถึงที่อาหว่อบอกว่า Karal เดิมก็เป็นสามัญชน ว่าแล้วก็มองอยู่เงียบๆสักพักก่อนจะเดินไป
อาหว่อที่มองดูอยู่ไกลๆได้เพียงครุ่นคิด
- รอดูไปเรื่อยๆ
- จัดฉากให้ Karal ทำอะไรดี...
- คุยกับเธออีก ว่า...
- อื่นๆ
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
"ยัยนี่น่าจะคิดได้เองแหละนะ"
- รอดูไปเรื่อยๆ
-
วันที่สอง Karal ก็ยังคงจุ้นจ้านทำโน่นนี่ เธอช่วยงานได้มากกว่าที่คิด อาจเพราะเธอไม่ได้มีพื้นเพมาจากราชนิกูล เอ... แต่ก็ไม่มีใครรู้ชาติกำเนิดของเธอเลยเหมือนกัน
จนวันที่สามที่ที่อุบัติเหตุเกิดขึ้นและ Karal รีบรุดไปยังที่เกิดเหตุ เธอพยายามปฐมพยายามโดยไม่ได้สนใจเลยว่าชุดที่อาหว่อซื้อให้ใหม่จะเลอะเลือดและปูน
สีหน้าที่ดูร้อนรนเป็นกังวลกับชีวิตของคนงานเคราะห์ร้ายนั้นสะกิดใจของ Shirin
(http://i.imgur.com/PcY4aRa.jpg)
"หลีกไป ข้าทำเอง" Shirin เข้ามาปฐมพยายามอย่างเชี่ยวชาญแทน
ส่วน Karal ทำหน้าคล้ายกับตนเองไม่มีประโยชน์เลย แต่อึดใจต่อมาเธอก็มีสีหน้าโล่งอกมาแทนที่ ซึ่ง Shirin ที่ชำเลืองมองก็เหมือนจะคิดอะไรอยู่ตลอด
อาหว่อที่มองดูอยู่ไกลๆได้เพียงครุ่นคิด
- รอดูไปเรื่อยๆ
- จัดฉากให้ Karal ทำอะไรดี...
- คุยกับเธออีก ว่า...
- อื่นๆ
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
อย่าไปยุ่งเรื่องของสาวๆเลย
- รอดูไปเรื่อยๆ
-
วันที่สาม Karal ไม่ได้มาที่นี่ เห็นเธอบอกว่าจะไปขี่เจ้าละมุดบินสำรวจรอบๆเมือง
อาหว่อเห็น Shirin ยืนอยู่บนหอรบที่เพิ่งสร้างเสร็จเพียงลำพัง นานทีจะมีทหารมารายงานแล้วก็ลงไป
อาหว่อที่มองดูอยู่ไกลๆได้เพียงครุ่นคิด
- รอดูไปเรื่อยๆ
- คุยกับเธออีก ว่า...
- อื่นๆ
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
"เธอเข้าใจ Karal มากขึ้นหรือยัง?"
-
เหลียวหยวนหว่อพกไอเทมจากงานประมูลกลับเมืองของตน
ผู้เข้าประมูลคนที่ 10 : อาหว่อ - ราชกกุธภัณฑ์แห่ง Fatimah, ธนูยักษ์โบราณ, ระเบิดโบราณ
Regalia of Fatimah : ราชกกุธภัณฑ์แห่ง Fatimah, มีค่า = 1 PP
Greatbow : ธนูยักษ์ R.Atk +4 Vit -3 Ⓦ [Nature]
Hand-held Bombs : ระเบิดโบราณ R.Atk +4 Ⓦ [Nature] [3/3]
-
โยนหอกเข้าคลัง แล้วเอาระเบิดโบราณมาถือ ของชิ้นอื่นๆที่ประมูลได้เอาเข้าคลัง
-
Alya บอกว่าสมบัตินี้ควรเป็นของ Fatimah เธอจึงยึดและเอากลับไปคืนให้กับราชินี
เสียราชกกุฎภัณฑ์แห่ง Fatimah และ PP +1
([url]http://i.imgur.com/gpZztrw.jpg[/url])
"เจ้าทำมันถลอก เจ้าเห็นไหม ข้าจะลงโทษเจ้า" ราชินี Roxana ให้ Alya ไปล้างบ่อปลา
จบบทที่ 5
เลือก 2 ข้อ
- Exp +5 *ซ้ำได้
- G +30 *ซ้ำได้
- Ally +1 (1 ตัวละคร) และรักษา Ally เอาไว้ (คนที่ไม่เลือกข้อนี้ ตัวละครทั้งหมดที่มี Ally จะมีโอกาส 50% Ally -1) *ซ้ำได้
- ใช้ 25Exp หรือ 120G แลกตัวละคร Summons ลูกหาบได้ 1 คน (Cost 1) *ซ้ำได้
-
- Ally +1 (1 ตัวละคร) และรักษา Ally เอาไว้ (คนที่ไม่เลือกข้อนี้ ตัวละครทั้งหมดที่มี Ally จะมีโอกาส 50% Ally -1) *ซ้ำได้
- Karal
- G +30 *ซ้ำได้
-
Karal Ally +1
Rolled 1d10 : 4, total 4
(http://i.imgur.com/PcY4aRa.jpg)
"ไม่เห็นจะเข้าใจเลย" เธอว่างั้น แล้วเชิดไปอีกด้าน
อาหว่อรู้สึกได้ว่ายัยนี่ช่างดื้อดึงและไม่ยอมรับอะไรง่ายๆ เขาจึงบอกกับเธอว่า ไม่ใช่ที่ชาติพันธุ์ ไม่ใช่ที่สถานะ แต่เป็นการกระทำต่างหาก
นั่นต่างหากคือเหตุผล มันไม่เกี่ยวหรอกว่า Karal จะเป็นใครมาจากไหน Shirin นั้นเกลียดชังพวกที่เย่อหยิ่งถือตัวว่าตนเองสูงส่ง กดและจิกหัวผู้ที่อยู่ต่ำกว่า ซึ่งพฤติกรรมนี้มักอยู่คู่กับชนชั้นสูง
Shirin เคยอยู่ในสถานะที่โดนอะไรมามากเมื่อสมัยก่อนจะมาเป็นทหารทำให้เธอฝังใจและเกลียดชังชนชั้นสูงที่รังแกครอบครัวของเธอ
ก็ไม่ใช่ทุกคนจะเหมือนกัน
แต่เธอก็ไม่ยอมบอกออกมาตรงๆว่ายอมรับอาหว่อ คงต้องค่อยๆให้เวลาพิสูจน์
เลือกตำแหน่งให้เธอ แล้วเลือกต่อเลยว่าจะไปหาหรือแต่งตั้งใคร
-
Karal Ally 10 ปลดล็อคเรื่องราวสุดท้ายของเธอ สามารถเลือกว่าจะเข้าเรื่องราวของ Karal ได้
- ตอนนี้
- จบเรื่องราวจัดการตำแหน่ง
-
- จบเรื่องราวจัดการตำแหน่ง
ให้ Shirin เป็นแม่ทัพ
ไปหา รองหัวหน้ากองกำลังแห่งเมือง Salem
-
Rasha : กุนซือ
Shirin : แม่ทัพ
Karal อาหว่อรู้จักเธอดีที่สุด เธอมีฐานันดรศักดิ์เป็นองค์หญิงและผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์
ตรงข้ามกับอาหว่อที่เป็นแค่อัศวินตกถังข้าวสารที่บังเอิญได้มาครองเมือง หรือสามล้อถูกหวย แต่กลับมีสัมพันธ์ลับๆกับองค์หญิง
นั่นทำให้ Karal ถูกนำไปกล่าวอย่างเสียๆหายๆ และอาหว่อเองก็มีภาพลักษณ์ที่ไม่ค่อยดีนัก ทั้งในทางบวกและทางลบ
Alya องครักษ์เอกที่มาช่วยงานอย่างไม่มีกำหนด เธอมีไหวพริบ ฉลาดรอบคอบ และมีฝีมือ แต่ไม่มีอะไรเด่นเป็นพิเศษ
ถ้าอาหว่อต้องการเป็ด เธอคือคำตอบที่ใช่ แต่ถ้าเขาต้องการผึ้ง เหยี่ยว ราชสีห์ หรือมังกร เธอเป็นไม่ได้
อัศวิน A เป็นหญิงผิวสีแทน แข็งแกร่ง แต่โง่ โชคดีที่เธอมักไม่แสดงความโง่ออกมา
เธอมีความรักในอิสระพอตัว แต่ที่มาเป็นอัศวินเพราะครอบครัวเป็นอัศวินมาแต่เดิมที
อัศวิน B เป็นหญิงมาดขรึม ฉลาดเฉลียว แต่ความภักดีต่ำ เธอทำงานเพื่อเจ้าเมืองคนก่อน และเธอเกลียดขี้หน้าอาหว่อ
อัศวิน C เป็นหญิงมีฝีมือ และค่อนข้างกว้างขวางในหมู่ทหาร เสียแค่เธอเกลียดขี้หน้า Karal และพวกราชนิกูล
เธอเกือบๆจะไม่ชอบอาหว่อด้วย
อัศวิน D ไม่ได้เก่งอะไรสักอย่าง แต่มีอุดมการณ์สูง ภักดีต่อราชวงศ์สุไลมาน และซื่อสัตย์ต่ออาหว่อผู้เป็นนาย
หัวหน้ากองกำลังแห่งเมือง Salem เป็นหญิง เลื่อนตำแหน่งขึ้นมาหลังหัวหน้าคนก่อนเสียชีวิต มีฝีมือและสติปัญญา แต่วันๆไม่ได้สนใจจะทำงานอะไร วินัยหย่อนยาน
เนื่องจากที่นี่ยังไม่มีแม่ทัพ ตำแหน่งนี้จึงคล้ายแม่ทัพกองทัพเล็กๆ
รองหัวหน้ากองกำลังแห่งเมือง Salem เป็นหญิง มีฝีมือในการใช้ปืนสูง แต่มีข่าวว่ากำลังจะแต่งงานและออกจากราชการ
ที่ปรึกษาอาวุโส ป่วย ขี้โรค วันๆแทบจะไม่ได้ทำอะไรแล้วเพราะอาการป่วย ได้แต่รอเกษียร
การแต่งตั้ง Shirin เป็นแม่ทัพสร้างความไม่พอใจให้กับ หัวหน้ากองกำลังแห่งเมือง Salem
รองหัวหน้ากองกำลังแห่งเมือง Salem อย่าง Yasmin ซึ่งเกือบจะออกจากราชการอยู่แล้วยังรู้เรื่องทุกอย่างที่คนเล่าลือว่าอาหว่อกินตับ Shirin แลกกับการแต่งตั้งเธอให้เป็นใหญ่
"แต่ข้าไม่ตำหนิท่าน ท่านทำได้ทุกอย่างเพราะท่านมีอำนาจอยู่ในมือ" เธอว่างั้น
เมื่ออาหว่อถามถึงคู่สมรสเธอก็เล่าให้ฟังว่าเขาเป็นสหายในวัยเด็กที่โตมาด้วยกัน ความจริงแล้วเธอก็ไม่ได้รังเกียจเขาหรอก
- เลือกตำแหน่งให้เธอเป็น...
- ข้าอนุญาต
- อื่นๆ ระบุ
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
ไว้ค่อยจัดการยัยหัวหน้าอะไรนั่นแล้วกัน
"ข้าอยากให้เจ้ารับราชการต่อ ทำไมเจ้าถึงอยากลาออกล่ะ?"
-
Yasmin บอกว่ามันเป็นเหตุและความจำเป็นด้วยส่วนหนึ่งที่เธอต้องแต่งงานเพราะปัญหาหนี้สินของครอบครัวที่ทางบิดามารดาตกลงกันเอาไว้
แต่อีกเหตุผลก็คงเป็นเพราะตัวเธอเองกระมังที่อยากมีใครสักคนที่จะอยู่ร่วมกัน
- เลือกตำแหน่งให้เธอเป็น...
- ข้าอนุญาต
- เก็บว่าที่สามีของเธอซะ
- อื่นๆ ระบุ
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
"ถ้าข้าให้เจ้าเป็นขุนพล ความเป็นอยู่ก็น่าจะดีขึ้นพออกระมัง"
"เจ้าแต่งงานแล้วทำงานต่อก็ได้นี่"
- กล่อมต่อ โอกาสสุดท้ายที่จะรักษาชีวิตว่าที่สามีแล้วนา
-
ความเป็นอยู่คงไม่ได้ดีขึ้นเพียงเพราะเลื่อนขั้น ขุนพลไม่ได้ร่ำรวยไปกว่าเดิม เว้นเสียแต่อาหว่อจะแอบเอาเงินคงคลังมาใช้หนี้ให้ซึ่งเธอคงไม่ต้องการ
คู่หมั้นของเธอเป็นชายหนุ่มพ่อค้าอนาคตไกล เขาต้องการให้เธอเป็นแม่ศรีเรือนและไปใช้ชีวิตในเมือง Rohaan ที่มั่งคั่งดีกว่าจะจะมาอยู่บ้านนอกอย่างนี้
- เลือกตำแหน่งให้เธอเป็น...
- ข้าอนุญาต
- เก็บว่าที่สามีของเธอซะ
- อื่นๆ ระบุ
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
"แล้วแต่เจ้าเถอะ ข้าขออวยพรให้เจ้ามีความสุข" ;)
ถ้าเป็นปกติก็คงปล่อยไปล่ะนะ น่าเสียดายตอนนี้กำลังเบื่อๆ
- เก็บว่าที่สามีของเธอซะ ป้ายความผิดให้พวก Faris ด้วยก็ดี
-
อาหว่อกลับไปนั่งและ...
จะให้ใครไปทำงานนี้ดี เลือก ระบุจากคนที่มี ทั้งบนหัวกระทู้และ Rasha กับ Shirin
มีโอกาสที่ Ally จะลดและเพิ่ม
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
เรื่องสนุกแบบนี้ต้องไปเองสิ
-
อาหว่อลงมือด้วยตัวเองโดยไม่พึ่งพาใคร จากข้อมูลที่เขารู้คือจาฮัดว่าที่คู่หมั้นของเธอพักอยู่ที่บ้านพักส่วนตัวซึ่งซื้อเอาไว้ที่ริมตลาด
ปกติแล้วเขาจะอยู่ที่บ้าน และออกมาไม่เป็นเวลา ส่วนครอบครัวของเขานั้นย้ายไปที่ Rohaan ก่อนแล้ว
เอายังไงดี ถ้าทำอะไรพลาดจะเจออุปสรรคทอยเต๋าทันที
-
อย่าวแรกเลยคือเขาต้องให้แน่ใจว่าไม่มีใครเห็นเขามาที่นี่ จากนั้นก็ไปเคาะประตู บอกว่าจะมาคุยเกี่ยวกับ Yasmin ด้วยฐานะของเขาจาฮัดย่อมต้องเชิญให้เข้าบ้าน อาศัยจังหวะเผลอ เข้าไปลอคคอ แล้วบิดหักคอซะ จากนั้นจัดฉากเป็นว่ามีโจรย่องเข้ามาปล้นทรัพย์ จัดแจงงัดหน้าต่างให้เหมือนมีคนงัดเข้ามา มีร่องรอยต่อสู้ซักหน่อย นำทรัพย์สินมีค่าไปด้วยซักหลายชิ้น เอาไปทิ้งในที่ๆไม่มีใครจะมาพบ กลบร่องรอย
-
อาหว่อคิดว่าคงยากมากที่เขาจะมาที่นี่โดยไม่มีใครเห็น เพราะบ้านติดตลาด ถ้าไม่ดึกดื่นค่อนคืนคงมีคนเห็นแน่
หรือไม่เขาก็ต้อง...
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
Level : 29 | เหลี่ยวหยวนหว่อ
HP SP M.Atk/R.Atk Magic Atk Def | ▉▉▉▉ ▉ ▉
::::::::::::::::: | Int Str Vit Agi Dex | ▉ ▉▉▉▉ ▉▉ ▉ ▉▉ ::::::::::::::: | Lds Fth Eft Chr Luk | ▉ ▉▉ ▉▉▉▉▉ ▉▉ ::::::::::::::: |
|
Aggressor : M.Atk +1 Ⓟ [Nature] Charisma : Chr +2 Ⓟ [Nature] Safeguard : รับอุปสรรคแทนเป้าหมายได้ [Nature] Hand-held Bombs : ระเบิดโบราณ R.Atk +4 Ⓦ [Nature] [3/3] Ice Ring : แหวนอาคม Magic Atk +2 (Freeze) Def +1 Ⓦ [Magic]
|
ได้รับ Level +1 จาก Status M.Atk/R.Atk
Status ถูกปรับแก้เป็น Gen 2 ส่งผลให้ไม่มี Skl และ Inv อีก
ทั้งสองค่าถูกถอนออกมา = 5 แต้ม เอาไปลงค่าใดก็ได้โดนยึดจากกติกา Gen 2 ซึ่งจะเติมให้ค่าใดก็ได้ตาม Max ที่กำหนด
เฉพาะ Dragone จึงจะมี Magic Atk ได้
-
5 แต้ม
+ 2 Dex
+ 1 SP
+ 1 Def
+ 1 Atk
-
อาหว่อคิดว่าคงยากมากที่เขาจะมาที่นี่โดยไม่มีใครเห็น เพราะบ้านติดตลาด ถ้าไม่ดึกดื่นค่อนคืนคงมีคนเห็นแน่
หรือไม่เขาก็ต้อง...
-
- งั้นก็มาตอนดึกไม่มีใครเห็น
-
อาหว่อมาตอนดึก แต่เขาพบยาม 2 คนยืนเฝ้าหน้าบ้าน ทั้งสองเหน็บดาบโค้ง
การจะมาขอพบยามวิกาลคงยาก ทางเดียวที่เขาคิดออกก็คือเขาต้องอุกอาจลุยไปดื้อๆเลย
หรือคิดหาวิธีอื่น ระบุ
-
อ้อมไปหาหน้าต่างห้องนอน แล้วโยนระเบิดใส่
-
เป็นการกระทำที่อุกอาจและหน้าด้านมาก วันรุ่งขึ้นมีข่าวการวางระเบิดในเมือง ซึ่งอาหว่อก็พยักหน้าแล้วมองตา Ruk ที่เหมือนจะรู้ทันเขา
เช่นกัน Alya ก็น่าจะรู้ว่าฝีมือของเขานี่แหละ แต่คนที่ไม่รู้อย่างภรรยาของเจ้าพ่อค้านั่นน่ะสิ เธอต้องกำลังเสียใจอยู่แน่ๆที่ว่าที่สามีต้องมาตายจากไป
อาหว่อคิดว่าเขาน่าจะ
- ส่งคนเอาดอกไม้ไปเยี่ยม
- ไปเยี่ยมเอง
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
สงสัยหิวตื่นมาทำอาหารแล้วแกสระเบิด ช่างน่าสงสารจริงๆ
- ไปเยี่ยมเอง
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
"ข้าเสียใจ แต่ความแค้นนี้จะถูกชำระในสงครามที่กำลังจะมาถึง" อาหว่อถือดอกไม้มาเคารพศพหน้าตาย
เขาบอกว่าจากที่สืบทราบมา คู่หมั้นของ Yasmin น่ะเป็นไส้ศึก และทาง Faris ต้องการเก็บหมอนั่นเมื่อหมดประโยชน์
เราพบคนร้ายหนีออกไปจากเมืองมุ่งไปยังตะวันออก ซึ่งก็คือ Faris นอกจากนี้การสอบถามคนในบ้านก็พบพิรุธที่โยงไปในทิศทาเงดียวกัน
ด้วยความที่อาหว่อหล่อและพูดเก่ง เขาโน้มน้าวอีกฝ่ายที่กำลังเศร้าโศกและงุนงงได้ไม่ยาก
(http://i.imgur.com/sf9V0Yt.jpg)
"ข ข้า... หากข้าจะทำประโยชน์ให้กับบ้านเมืองนี้" Yasmin พยายามเก็บความโกรธแค้นเอาไว้และมองไปยังอนาคตมากกว่า
อาหว่อมองไว้ไม่ผิด เธอดูมีวิสัยทัศน์และแข็งแกร่งอย่างที่เขาคิด
(ช่วงนี้ยาวเกินจึงถูกตัดตรงนี้ หลังจากนี้จะเข้าสู่สงคราม)
จะให้ Yasmin เป็นอะไรดี
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
"ข้ายินดีที่มีเจ้ามาช่วยงาน"
สรุปตำแหน่งก่อนจำไม่ได้ละ
Rasha : กุนซือ
Shirin : แม่ทัพ
Yasmin : ขุนพล
Alya : องครักษ์
Karal : ที่ปรึกษาส่วนตัว
อัศวิน A : องครักษ์
อัศวิน D : ขุนพล
หัวหน้ากองกำลังแห่งเมือง Salem :ขุนพล
เอาตามนี้ละกัน
-
(http://i.imgur.com/3HrnHX0.jpg) (http://i.imgur.com/vsiPEWG.jpg) (http://i.imgur.com/z6JeRos.jpg) (http://i.imgur.com/FzzQC7I.jpg) (http://i.imgur.com/PcY4aRa.jpg) (http://i.imgur.com/sf9V0Yt.jpg)
อาหว่อและเจ้าหน้าที่นายทหารทั้งหลายยืนมองสภาพของเมืองที่แม้จะเร่งต่อเติมและขยับขยายในหลายๆส่วนแล้วก็ยังไม่เพียงพอ
เขาไม่คิดว่าเมืองเล็กๆแบบนี้จะต้านทานกองทัพของ Faris ที่แข็งแกร่งได้ ราวกับปราสาททรายที่จะถูกคลื่นซัดยวบหายได้ทุกเวลา
Ruk แทบจะไม่เคยแนะนำสิ่งใดกับเขา เธอบอกแค่ว่าเขาต้องผ่านบททดสอบนี้ให้ได้ แต่ถ้าเขาทำไม่ได้เราก็ตายไปพร้อมกัน
Karal บอกว่าเธอจะตายไปพร้อมอาหว่อ เราจะตายไปด้วยกันนะ
Alya กุลีกุจอทำทุกๆอย่างที่ทำได้จนไม่ได้ออกความเห็นอะไร ว่างเว้นจากงานเธอก็จะไปขัดกำแพงและคูน้ำ
Rasha แนะนำให้จ้างมือสังหาร ทหารรับจ้าง และส่งคนไปขอหยิบยืมกำลังจาก Rohaan และ ส่งทูตไปยัง Azar ที่แข็งแกร่งขึ้นมาให้ยื่นมือเข้าช่วยเหลืออีกแรง
Shirin บอกว่าเธอคุมกองทัพที่ใหญ่กว่านี้ได้ แต่ถ้ากองทัพของเรากระจิริดก็คงหวังพึ่งพาอะไรไม่ได้หรอกนะ
และสุดท้าย Yasmin ที่เสนอให้จัดตั้งกองปืนอาคม Janissary
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
อาหว่อเจ้าเมืองไร้สมองนั่งมึน คิดว่าอยากกลับไปเป็นองค์รักษ์ที่ไม่ต้องคิดอะไรจังเลย
"ทำตามที่พวกเจ้าแนะนำก็แล้วกัน"
"ส่วนพวกเธอ 2 คนน่ะ เลิกบอกว่าจะตายได้แล้ว" บอก Ruk Karal
- ดำเนินการตามที่ Rasha Shirin Yasmin แนะนำ
-
- จ้างมือสังหาร: ระบุว่าใครจะทำงานนี้ หรือทำเอง
- จ้างทหารรับจ้าง: ใช้เงินส่วนตัว 200G (เงินติดลบได้)
- ส่งคนไปขอหยิบยืมกำลังจาก Rohaan: ระบุว่าใครจะทำงานนี้ หรือทำเอง
- ส่งทูตไปยัง Azar: ระบุว่าใครจะทำงานนี้ หรือทำเอง
- จัดตั้งกองปืนอาคม Janissary: Yasmin ทำได้คนเดียว และใช้เงิน 50G (เงินติดลบได้)
1 ตัวละครทำได้ 1 อย่าง แต่ละคนมีความเหมาะสมต่างกันไป
Rasha : กุนซือ
Shirin : แม่ทัพ
Yasmin : ขุนพล
Alya : องครักษ์
Karal : ที่ปรึกษาส่วนตัว
อัศวิน A : องครักษ์
อัศวิน D : ขุนพล
หัวหน้ากองกำลังแห่งเมือง Salem :ขุนพล
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
"ข้าจะไป Rohaan เอง ข้าเคยได้รับการดูแลจากที่นั่น น่าจะพอมีสายสัมพันธ์กันบ้าง"
- จ้างมือสังหาร: ระบุว่าใครจะทำงานนี้ หรือทำเอง
- Alya
- จ้างทหารรับจ้าง: ใช้เงินส่วนตัว 200G (เงินติดลบได้)
- Shirin
- ส่งคนไปขอหยิบยืมกำลังจาก Rohaan: ระบุว่าใครจะทำงานนี้ หรือทำเอง
- ไปเอง
- ส่งทูตไปยัง Azar: ระบุว่าใครจะทำงานนี้ หรือทำเอง
- Rasha
- จัดตั้งกองปืนอาคม Janissary: Yasmin ทำได้คนเดียว และใช้เงิน 50G (เงินติดลบได้)
- Yasmin
-
- จ้างมือสังหาร: ระบุว่าใครจะทำงานนี้ หรือทำเอง
Alya กลับไปที่วังหลวงและขอหยิบยืมตัวรัตติกาลมาจากราชินีชั่วคราว ปัญหานี้จึงจบลงอย่างง่ายดายโดย Alya โดนดึงตัวไว้แทน
เสีย Alya ได้รับ รัตติกาล
- จ้างทหารรับจ้าง: ใช้เงินส่วนตัว 200G (เงินติดลบได้)
Shirin กว้างขวางในหมู่ทหาร เธอมีข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับกองทหารรับจ้างที่พร้อมจะช่วยเหลือเรา
- ส่งทูตไปยัง Azar: ระบุว่าใครจะทำงานนี้ หรือทำเอง
Rasha ไปทำงานนี้ได้อย่างหมดจด มันไม่ยากเลย และเธอก็ไม่ถูกซื้อไปเพราะอาหว่อไปนั่งในใจของเธอแล้ว
อย่างไรก็ตาม ทาง Azar ยังคงติดพันศึกสงคราม และไม่มีเหตุอันสมควรจะต้องยื่นมือเข้ามาแทรกแซง
สิ่งที่ Azar จะมีให้ได้ก็คือการเสริมกำลังที่ชายแดนเพื่อดึงเอากองทหารของ Faris ส่วนใหญ่ไปที่นั่น ลดจำนวนไพร่พลที่จะยกมาโจมตี Zalem ลงได้จำนวนหนึ่ง
- จัดตั้งกองปืนอาคม Janissary: Yasmin ทำได้คนเดียว และใช้เงิน 50G (เงินติดลบได้)
Yasmin มีความชำนาญด้านนี้ และมันไม่ยากเช่นกันที่เธอจะฝึกฝนกองอัศวิน Janissary ขึ้นมาได้แม้เวลากระชั้นชิด
กองอัศวิน Janissary เป้นอัศวินชั้นเอลีทที่ชำนายการต่อสู้และการใช้ปืนยาวอาคม ซึ่งกองอัศวินนี้เคยมีอยู่ในรัชสมัยของกษัตริย์ Etihad และถูกยุบไป
ถึงเกณฑ์แล้ว อาหว่อไม่จำเป็นต้องไป Rohaan อีก รอโพสต่อไป
-
เป็นไปตามคาด Faris ประกาศสงครามกับ Fatimah โดยอ้างว่าเมือง Salem เป็นดินแดนของ Faris
ซึ่งไม่ว่าจะตะแคงมองมุมใดก็เห็นกันชัดๆว่า Faris ฉวยโอกาสโจมตี Fatimah ที่กำลังอ่อนแอแล้วใส่เหตุผลเข้าไปทีหลัง
(http://wudthipan.com/fucko/_images/a56ba7eebc47d20f8c2a02ea57e50c46/4013%20-%20Event.jpg)
กำลังพลแปดหมื่นของ Faris ไม่ใช่ทั้งหมดของแคว้นที่เข้มแข็งและฝึกทหารไว้เป็นจำนวนมาก
แต่เมื่อมาเทียบกับ Salem ที่มีกองทหารทั้งหมดเพียงห้าพันแล้วช่างแตกต่างกันมากมายนัก
ผู้นำทัพของ Faris คือ Faran แม่ทัพที่เก่งกล้าที่สุด และเมื่ออดีตยังถูกขนานนามให้ว่าแม่ทัพไร้พ่าย
Salem มีระบบป้องกันเมืองและกองทหารที่มากที่สุดเท่าที่จะจัดหารมาได้ดังนี้
- กองอัศวิน Janissary จำนวน 50 นาย ทั้งหมดใช้ปืนอาคมแบบประทับบ่า ระยะหวังผล 900 เมตร ยิงได้ต่อเนื่องเร็วเท่ากับพลธนู
- กองอัศวินมังกร Faras จำนวน 50 นาย ใช้มังกร Faras
- กองอัศวินมังกร Nero จำนวน 500 นาย
- กองอัศวินมังกร Terra จำนวน 1000 นาย
- กองพลธนู จำนวน 2000 นาย
- พลทหาร (ทหารเลว) จำนวน 1500 นาย
- ปืนใหญ่อาคม 5 กระบอก ติดตั้งบนแนวกำแพง
- เครื่องเหวี่ยงหิน 10 ตัว
- คูน้ำรอบเมือง
- หลุมขวากรอบเมือง
จะเห็นว่ามีกองธนูเยอะมาก เพราะยุทธศาสตร์ตั้งรับในที่โล่งกว้างกับกำลังพลที่น้อยนิดทำได้เพียงการตั้งรับในตัวเมืองและใต้กำแพง
อาหว่อยืนอยู่บนแนวกำแพงมองดูฝุ่นตลบไกลลิบที่เส้นขอบฟ้าเป็นแนวยาว โดยมีอัศวินและทหารคนสนิทกระหนาบเรียงออกไปทั้งซ้ายและขวา
(http://i.imgur.com/FzzQC7I.jpg)
"หน่วยสอดแนมยืนยันแล้วว่าข้อมูลถูกต้อง" Rasha อ่านข้อความในสารแล้วส่งให้
ข้าศึกประกอบไปด้วยทหารเกณฑ์และทาสจำนวนมาก มีอัศวินและทหารอาชีพเพียง 9000 นาย
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
"กองทัพต้องเดินทางมาไกล แถมอยู่กลางทะเลทราย คิดว่าน่าจะมีปํญหาเรื่องเสบียงอาหาร เจ้าคิดว่าอย่างไร?" เขาถามกุนซือคู่ใจ
-
(http://i.imgur.com/FzzQC7I.jpg)
"ฟาริสอยู่ประชิดติดชายแดนของเรา ระยะทางจึงไม่สำคัญ แต่ชัยภูมิโล่งแจ้งกลางทะเลทรายทำให้พวกเขาไม่อาจทำศึกระยะยาว"
ความจริงแล้วศึกนี้ไม่มีทางที่ยอดกุนซือที่ไหนจะพลิกให้ชนะได้ มันต่างกันมากเกินไป
แต่อาหว่อและทุกคนรู้ดีว่าไพ่ตายของพวกตนคืออะไร พวกเขาจึงมีกำลังใจที่จะต่อสู้
อาหว่อและทุกคนรู้ แต่คนเล่นอาจจะไม่รู้ ถ้าบอกได้ว่าคีย์สำคัญของศึกนี้คืออะไรสงครามจะจบด้วยชัยชนะในทันที
-
Event Chapter 6
http://baron.wudthipan.com/forum/index.php?topic=1808.msg182795#msg182795 (http://baron.wudthipan.com/forum/index.php?topic=1808.msg182795#msg182795)
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
"ทหาร 8หมื่น แต่มีอัศวินและทหารอาชีพที่ได้รับการฝึกฝนเพียง 9000 เท่านั้น"
"อีก 70000 เป็นเพียงทหารเกณฑ์และทาส เราจะใช้ประโยชน์จากตรงนี้ได้บ้างไหม? มีวิธีทำให้พวกทาสเลิกต่อสู้ไหม?"
-
(http://wudthipan.com/fucko/_images/38ea56531ec3edb289f7681421fa76e0/3927%20-%20Background.jpg)
Fatimah
เดิมทีอาณาจักร Fatimah มีศูนย์กลางอยู่ที่แคว้น Faris จนกระทั่ง 2100 ปีก่อนมีการย้ายเมืองหลวงไปยังแคว้น Fatih และเปลี่ยนชื่อแคว้นเป็น Fatimah ซึ่งก็คือที่นี่
Fatimah เป็นแคว้นที่ตั้งของเมืองหลวงแห่งอาณาจักร Fatimah ด้วยความที่เป็นส่วนกลางที่ได้รับบรรณาการมากมายจากทุกแคว้นยังผลให้ Fatimah เป็นแคว้นร่ำรวยที่สุด
ซึ่งมันคือภาพลวงตา เพราะสิ่งที่ได้มาไม่ใช่สิ่งที่ตนเองสร้างมันมาได้
หากจะกล่าวว่า Fatimah เป็นแคว้นที่อ่อนแอที่สุดในบรรดาแคว้นต่างๆของอาณาจักรก็ไม่ผิดเลย
หลายปีต่อมา Fatimah ได้คืนชีพจากการถูกขนานนามว่ามังกรป่วย การหายตัวไปของ Mihad ส่งผลให้ราชินี Roxana กุมอำนาจได้ทั้งหมดอย่างเบ็ดเสร็จ
ความอ่อนแอของ Faimah กลายเป็นเพียงอดีต แต่ความแข็งแกร่งที่มีก็ต้องใช้งัดคานกับขั้วอำนาจอีกหลายฝ่ายทั้ง Neelam Faris Azar หรือกระทั่งภาคีมือสังหาร
เป้าหมายหลักของ Azar คือ Fatimah ศูนย์รวมทุกสิ่งทุกอย่างของอาณาจักร Fatimah ที่ครอบครองโดยราชินี Roxana ผู้มีศักดิ์เป็นเจ้าน้าของ Persia
แม้จะสายเลือดเดียวกัน เป็นชาว Al เหมือนกัน แต่ราชินี Roxana ก็ได้ประกาศออกมาว่าจะไม่ยกดินแดนใดๆของอาณาจักร Fatimah ให้กับจักรพรรดิกำมะลออย่าง Persia
"ข้าจะให้เจ้าไปขัดส้วมเป็นเพื่อนอัลยา"
ข้อมูลปกปิด
-
ข้อมูลปกปิด
-
ในห้องนอนแคบๆของอาหว่อวันนี้ไม่ได้มีเพียงเขากับ Karal แต่กลับเป็นราชินีพญาสิงห์ที่มาประทับอยู่ที่นี่อีกพระองค์
ดาราส่องสว่าง แสงสีเงินยวงอาบร่างของทั้งสาม นอกจาก Karal ที่ตาโตตื่นตะลึงอย่างไม่อยากจะเชื่อแล้วยังมีอาหว่ออีกคน
บานประตูที่ถูกฟาดจนกลอนหักยังเปิดพังพาบอยู่ สายพระเนตรที่ดูเกรี้ยวกราดดุร้ายของราชินี Roxana จับจ้องอาหว่อและ Karal ในร่างเปลือย
มันเป็นจริงดังที่เขาลือกันจนหนาหูว่าทั้งสองนั้นได้ร่วมรักหลับนอนกันทั้งที่อาหว่อเป็นเพียงเจ้าเมืองต่ำต้อยกลับกระทำการล่วงเกินองค์หญิง
อาหว่อเข้าใจได้ดี เขารู้ดีว่าราชินี Roxana สามารถฆ่ามังกรได้ด้วยมือเปล่า ประสาอะไรกับการฆ่าเขาในเสี้ยววินาที
(http://i.imgur.com/gpZztrw.jpg)
"ข้ารู้มาจากอัลยา พวกเจ้าจะให้คำตอบกับข้าว่าอย่างไร"
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
ยัยอัลยาอย่าให้เจออีกนะ
"ไหนๆก็มาแล้วมาช่วยกันรบก็ดีนะ"
"ไม่มีอะไรต้องปิดบัง ข้ากับนางรักกัน"
"ใช่ไหม?"
-
(http://i.imgur.com/gpZztrw.jpg)
"จริงหรือ" ราชินี Roxana หันไปถาม Karal
(http://i.imgur.com/vsiPEWG.jpg)
"ท่านพี่ให้ข้าเป็นภรรยาหลวง นอกนั้นจะเป็นภรรยาน้อย มีชิริน ราชา จัสมิน..." เธอนับนิ้วตาม
ได้ฟังดังนั้น Roxana ก็หันมาทางอาหว่อ เขาสีทองของเธอเรืองแสงสว่างวูบวาบและส่องสว่างขึ้นพร้อมกับดวงตาสีทองคำ
ผมที่กำลังชี้ฟูออกเป็นเม่นบอกให้อาหว่อรู้ว่าเขากำลังจะตาย
"เจ้าลองบอกมาสิว่าเจ้าจะดูแลคาราลได้อย่างไร"
ถ้าเขาตอบคำถามนี้ไม่ได้
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
Karal พูดให้น้อยลงซักคำก็คงไม่มีใครตายหรอกนะ
"ว่าจะเปิดร้านพิซซ่า ขี่มังกรเดลิเวอรี่ รักษาความร้อนด้วยลมหายใจมังกร"
"ข้าจะพัฒนาเมืองนี้ ให้รุ่งเรือง และข้าจะดูแลนางอย่างดี ไม่ทำให้นางต้องลำบากแน่นอน" :o
-
(http://i.imgur.com/gpZztrw.jpg)
"แค่เมืองนี้เท่านั้นหรือ" Roxana เน้นเสียงถามคล้ายจะอยากได้คำตอบที่ขยายความถึงเหตุผลข้อนี้
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
:(
"พูดให้ถูกคืออาณาจักรนี้ เพราะแค่เมืองๆเดียวคงรอดได้ไม่นานในยุคสมัยนี้"
"ข้าจะทำให้อาณาจักรนี้รุ่งเรือง"
-
(http://i.imgur.com/gpZztrw.jpg)
"หวังว่าข้าจะเดิมพันได้ถูกต้อง" ผมของ Roxana ตกลงมาเหยียดยาวสลวยดังเดิม
ราชินีพญาสิงห์เยื้องย่างเข้ามาหาอาหว่อที่ยืนแก้ผ้าอยู่โดยมี Karal ที่อยู่ในสภาพไม่ต่างกันยืนคุมเข้มข้างๆอย่างเป็นห่วงกลัวเสด็จแม่หักคอเขาจะได้ช่วยทัน
"ในอดีตจอมราชันย์เอติฮาดมีชายาถึง 700 คน แต่พระองค์ชาญศึก มากความสามารถ ไม่ได้หลงไหลเพียงกามารมณ์"
"ชายาของพระองค์ทั้งสิบสองคนคือยอดนักรบแห่งจักรราศี และพระองค์ยังมีชายาอีกกว่าร้อยที่เก่งกาจเทียมกัน"
"ชายาที่เหลือแม้ไม่ชาญศึกและเก่งกาจในการรบแต่ก็มีสติปัญญาและความสามารถแตกต่างกันไป มากพอจะดูแลอาณาจักรนี้"
Roxana ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ "ข้าหวังว่าเจ้าจะได้เสี้ยวหนึ่งของพระองค์ก็ยังดี"
แล้วนางก็สะบัดบั้นท้ายงามเดินออกไปหลังตบอาหว่อกระเด็นไปฝังในผนัง
อาหว่อได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งมหาอุปราชแห่ง Fatimah
และโดนบังคับให้แต่งงานกับ Karal
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
:o
รางวัล บทที่ 6
เลือก 2 อย่าง
- Exp +30
- แปรสภาพ Ally ของตัวละครที่ต้องการเป็น G *20 แต่จะได้ไม่เกิน 300G (กี่ตัวละครก็ได้)
- เสีย Ally ของตัวละครที่ต้องการ 10 เพื่อรับ PP +1 (นำมารวมกันกี่ตัวละครก็ได้)
- Ally +1 (3 ตัวละคร)
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
"เสี้ยวนึงที่ว่านี่เสี้ยวไหน? จำนวนหรือคุณภาพ" อาหว่อตะโกนไล่หลังราชินีไป
"จะไปหาจากไหนฟระ ว่างขนาดมาถึงนี่ก็หามาให้ด้วยสิ"
"เฮ้อ Karal ตามคนมาแงะข้าออกไปที ซี่โครงน่าจะร้าว" <o>
- Exp +30
- Ally +1 (3 ตัวละคร)
นันฮะ Alya Roxana
-
Main Quest
หรือ Event Quest เป็น Quest ที่จะทำได้ในช่วงเวลาของ Story ส่วนตัว มีรางวัลเป็น PP ถ้าพลาดจะ Fail และเสีย Quest ไป บทสรุปของเรื่องราวนั้นจะเป็น Bad End
เมื่อเลือก Quest แล้วเรื่องราวจะถูกดึงโยงเข้าสู่เรื่องราวของ Quest นั้น สามารถเข้าร่วมพร้อมกันได้ตามเงื่อนไข
บาง Quest ที่ไปซ้ำกับฝ่ายอื่นถ้ามีคนทำไปแล้วเราจะทำไม่ได้อีก และบาง Quest จะมี Quest ต่อไปปรากฎขึ้นมาหลังจากจบ Quest นั้นไปแล้ว
หากฝ่ายใดสำเร็จ Quest ครบทั้งหมด เรื่องราวจะดำเนินไปถึง Last Event ทันที (แต่มันก็ไม่ได้ครบกันง่ายๆหรอกนะ)
- แสนยานุภาพของราชอาณาจักร Neelam: ต้องการ 1-6 ตัวละคร
- พิชิต Faris: ต้องการ 1-4 ตัวละคร
- Afzal ราชันย์แห่งราชอาณาจักร Fatimah: : ต้องการ 1-3 ตัวละคร
- พันธมิตรภาคีมือสังหาร: ต้องการ 1 ตัวละคร
- ความวุ่นวายในราชสำนัก: ต้องการ 1 ตัวละคร
เลือกว่าจะทำ Quest ทันที หรือเข้าเรื่องราวของ Story ส่วนตัวก่อนก็ได้
-
ทำ Quest ของ Karal ก่อน
-
นั่นคือเหตุการณ์ที่ผ่านมาแล้วเมื่อราวหนึ่งเดือนก่อน
([url]http://i.imgur.com/FzzQC7I.jpg[/url])
"ฟาริสอยู่ประชิดติดชายแดนของเรา ระยะทางจึงไม่สำคัญ แต่ชัยภูมิโล่งแจ้งกลางทะเลทรายทำให้พวกเขาไม่อาจทำศึกระยะยาว"
ความจริงแล้วศึกนี้ไม่มีทางที่ยอดกุนซือที่ไหนจะพลิกให้ชนะได้ มันต่างกันมากเกินไป
แต่อาหว่อและทุกคนรู้ดีว่าไพ่ตายของพวกตนคืออะไร พวกเขาจึงมีกำลังใจที่จะต่อสู้
อาหว่อและทุกคนรู้ แต่คนเล่นอาจจะไม่รู้ ถ้าบอกได้ว่าคีย์สำคัญของศึกนี้คืออะไรสงครามจะจบด้วยชัยชนะในทันที
([url]http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg[/url])
"ทหาร 8หมื่น แต่มีอัศวินและทหารอาชีพที่ได้รับการฝึกฝนเพียง 9000 เท่านั้น"
"อีก 70000 เป็นเพียงทหารเกณฑ์และทาส เราจะใช้ประโยชน์จากตรงนี้ได้บ้างไหม? มีวิธีทำให้พวกทาสเลิกต่อสู้ไหม?"
การเกณฑ์ทาสมาฝึกก็เป็นทหารได้แต่ทาสที่เพิ่งเกณฑ์มาฝึกแค่ไม่กี่เดือนจะไม่มีวินัยเช่นทหารที่ฝึกฝนมาแรมปี
จุดอ่อนของทาสก็คือวินัย หากเสียกระบวนรบจนแตกแล้วจะรวมตัวและจัดกระบวนยากมาก อาจจะหนีจากสมรภูมิไปเลย
ข้าศึกตั้งแถวหน้าดานยาวเหยียดออกไปสองฝั่งซ้ายขวาแล้ว
อาหว่อและทุกคนรู้ แต่คนเล่นอาจจะไม่รู้ ถ้าบอกได้ว่าคีย์สำคัญของศึกนี้คืออะไรสงครามจะจบด้วยชัยชนะในทันที
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
"ปลุกปั่น ทำให้กลัวหรือตกใจ เอาผีหรือเทพมาหลอกดีไหม?"
-
ผีหรือเทพ แล้วจะเอามาจากไหนกันนะ
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
"เอาเทพมาหลอกจะเข้าถึงกว่าละมั้ง"
อาหว่อนึกได้ว่ามี แคสเตอร์ กับ พอลล่า (ชื่อนี้ป่าว) ใช้ทำอะไรทำนองนี้ได้หรือเปล่า?
-
โกเลมคนแบกหินปรากฎตัวขึ้นแล้วขว้างหินกระแทกกวาดฝูงโกเลมด้านหนึ่งแหวกเป็นทาง ก่อนจะรับกรงนั้นเอาไว้
แต่แรงกระแทกของกรงขนาดใหญ่ที่หนักเกือบสิบตันก็ทำให้เจ้าคนแบกหินแขนหักสิ้นสภาพกองอยู่ใต้กรง
Pollux วิ่งเข้าไปเปิดกรงแล้วกอด Castor ต่างคนต่างแหกปาก Karal เห็นก็อยากแหกปากด้วยแต่อาหว่อรีบลากทุกคนออกไปจากที่นี่เสียก่อน
เราได้รู้แล้วว่าทางลงไปที่นั่นเป็นโถงสังหาร ไม่มีอะไรเลย คนที่คิดออกแบบสร้างที่นี่ขึ้นมาต้องการอะไรกันนะ
ส่วนอีกเรื่องหนึ่งก็เห็นจะเป็นฝาแฝดสองคนนี้ Castor มีความสามารถในการต่อสู้สูง เกิดมาเพื่อปกป้องคุ้มครอง ส่วน Pollux สามารถอัญเชิญโกเลมโบราณทั้ง 11 ได้
Karal เอาตำราที่เคยซื้อเอาไว้มาให้อาหว่ออ่าน เป็นเรื่องราวบันทึกสั้นๆที่เขียนถึงประตูสู่สวรรค์ ดินแดนซึ่งผู้ถูกเลือกจะไปถึงสวรรค์
([url]http://i.imgur.com/vsiPEWG.jpg[/url])
"เราเป็นผู้ถูกเลือก เราจึงรอดมาได้" :(
Karal ว่าอย่างนั้น นี่เธอทึกทักโมเมเอาเองหรือเปล่าเนี่ย มันหมายความอย่างนั้นจริงเหรอ
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
"เอาโกเล็มของพอลล่า มาบอกว่าเป็นเมืองที่เทพคุ้มครองอะไรทำนองนี้จะใช้ได้ไหม?" ปรึกษากุนซือต่อไป
-
อาหว่อมองไปยังฝาแฝดสองคน Castor มีความสามารถในการต่อสู้สูง เกิดมาเพื่อปกป้องคุ้มครอง ส่วน Pollux สามารถอัญเชิญโกเลมโบราณทั้ง 11 ได้
ทุกอย่างดำเนินไปตามแผนที่วางเอาไว้ โกเลมโบราณทั้ง 11 เมื่อสำแดงพลังเต็มที่แล้วตัวหนึ่งมีหลังมากมหาศาลพอจะกวาดทำลายกองทหารได้ทั้งกองพัน
แพะโกเลมและวัวโกเลมวิ่งเข้าใส่กองทหารที่เป็นทัพหน้าจนแตกกระเจิง คลื่นน้ำมายาอาคมถูกเสกขึ้นด้วยปลาโกเลมและพัดถาโถมเข้าใส่เป็นบริเวณกว้าง
ศรอาคมถูกยิงขึ้นฟ้าโดยซาจิทาเรียสแล้วตกลงมาเป็นห่าฝนคร่าทหารทาสล้มตายไปมากมาย ตามด้วยคันชั่งที่ส่งเสียงกังวานจนแก้วหูแทบฉ๊กขาด
และปิดฉากการโจมตีระลอกแรกด้วยพิษแมงป่องที่กระจายไปทั่วสนามรบ
อาหว่อมองดูทุกอย่างดำเนินไปตามแผนแล้วสั่งการให้ทหารในเมืองโปรยธนูซ้ำเข้าใส่พวกทหารทาสที่เริ่มแตกทัพ แต่ Rasha ได้เสนอว่าอาหว่อควรจะทำได้มากกว่านี้
เลือก
- ข้าส่งรัตติกาลไปลอบสังหารแม่ทัพคนเก่งนั่นแล้ว เจ้าอย่าห่วง
- ข้าจะออกไป ขอมังกร
- ส่ง Shirin ไปเด็ดหัวแม่ทัพข้าศึก: มีโอกาสตาย 50% แต่ถ้ารอดมาได้จะมี status
- ข้าทำได้แค่นี้แหละ เจ้าคาดหวังอะไรจากข้ากัน
-
เทรดแลกกับอัลยามาต้องใช้ให้คุ้ม
- ข้าส่งรัตติกาลไปลอบสังหารแม่ทัพคนเก่งนั่นแล้ว เจ้าอย่าห่วง
-
แม่ทัพสาวผู้กล้าแห่ง Faris VS รัตติกาล มือสังหารแดนเหนือ
รัตติกาลลงมือสำเร็จแน่นอน แต่จะมีโอกาส 50% ที่จะพลาดท่าบาดเจ็บ และเธอจะไม่กลับมาอีก
Rolled 1d10 : 9, total 9
-
รัตติกาลไม่ทำให้ผิดหวัง แม่ทัพสาวแม้จะเก่งกล้าและมีของวิเศษในมือถึงสองชิ้นแต่ก็ต้องจบชีวิตลงภายใต้คมมีดของรัตติกาล
เหล่าข้าศึกที่เชื่อว่านี่คืออภินิหารที่เกิดขึ้นจากประตูสวรรค์ต่างก็เสียขวัญมากเป็นเท่าทวี ยิ่งเมื่อไร้แม่ทัพแล้วกองทัพส่วนใหญ่ก็แตกยับ ศึกนี้จึงง่ายดายกว่าที่อาหว่อคาดคิด
กองกำลังของ Salem ไม่ได้สูญเสียเลยแม้สักคน ซ้ำยังกำชัยได้อย่างเหลือเชื่อเป็นที่น่าอัศจรรย์ ไฉนเลยอาหว่อจะไม่ถูกยกย่องและกล่าวขาน
เลือกรางวัล 1 อย่าง
- ตัวละคร 1 คนในเมืองนี้พร้อม Status (ใช้งานได้ใน Story)
- Exp +5 G +10
- Ally +1 ให้กับเป้าหมาย
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
"เป็นไปตามที่ข้าคาดการณ์ไว้" B)
อาหว่อนั่งกระดิกเท้าจิบไวน์ ฟังผลงาน
- ตัวละคร 1 คนในเมืองนี้พร้อม Status (ใช้งานได้ใน Story)
- Rasha
-
หลังจบศึกอาหว่อจะเปลี่ยนสถานะหรือแต่งตั้งเหล่าผู้ที่มีใบหน้าให้รับตำแหน่งอื่นๆไหม ใครบ้าง
และจะทำอะไรที่ยังค้างคาให้ระบุก่อนจะไม่มีเวลาไปทำอีก
- ให้ Rasha เป็นชายา
- ไปหานันฮะ
- ไปหา...
- อื่นๆ
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
นันฮะเอ๋ย โชคชะตาจะพาเรามาพบกันซักวัน
- ทำเควสของ Karal
ถ้าไม่ได้ก็
- ให้ Rasha เป็นชายา
-
(http://i.imgur.com/FzzQC7I.jpg)
Level : 27 | Rasha
HP SP M.Atk/R.Atk Magic Atk Def | ▉▉▉ ▉▉▉▉▉▉ ▉
::::::::::::::::: | Int Str Vit Agi Dex | ▉▉▉ ▉ ▉ ▉ ▉▉ ::::::::::::::: | Lds Fth Eft Chr Luk | ▉ ▉ ▉▉▉ ▉▉▉ ▉ ::::::::::::::: |
|
Advice : เป้าหมาย Def +1 Int +2 Ⓠ [Nature] [1 SP] Call : เรียกใช้ Human Summons ได้ Ⓟ [Nature] Mandate : เป้าหมาย Def +1 และทำสิ่งต่าง ๆ ที่ใช้ SP ≤ 1 ได้โดยไม่ใช้ SP Ⓠ [Nature] [1 SP] Sabre : ดาบโค้งมือเดียว M.Atk +1 Ⓦ [Nature]
|
Rasha หรือรัชชา หรือราช่า เป็นอัศวินที่มีฝีมือและมีไหวพริบสูงซึ่งถูกเลือกและฝึกฝนโดย Israel เจ้าเมืองคนก่อนซึ่งเขาเองมีความคิดที่จะสร้าง 12 นักรบที่เก่งกาจแต่โครงการก็ล่มลงไป
เธอเป็นคนเก่งที่ควบคุมยาก เพราะเธอมีความหวาดระแวง วิตกจริต และอคติในตัวเองสูง ซ้ำยังไม่มีอุดมการณ์ใดเลย จนกระทั่งมาพบกับอาหว่อและอาหว่อได้จู่โจมหัวใจของเธอที่ว่างเปล่ามานาน
หลังจากนั้นเธอได้เปลี่ยนไป เธอตัดสินใจจะต่อสู้และอยู่เคียงข้างอาหว่อ ไม่ใช่เพื่อเกียรติยศศักดิ์ศรีหรือความเชื่อ ...แต่เป็นความรัก
Rasha ถึงแม้จะเงียบขรึม พูดน้อย ปากคอเลาะร้าย ไม่ค่อยแสดงอารมณ์ใดๆ แต่ถ้ามีคนมาหาว่าเธอหลงอาหว่อหัวปักหัวปำเธอจะโกรธมาก ถึงแม้มันจะเป็นความจริงก็ตาม
Ally +3
-
หลังสงครามจบลงอาหว่อได้รับบรรดาศักดิ์เป็นขุนนาง และการแต่งงานกับ Karal ก็ส่งให้เขามีบรรดาศักดิ์เป็นขุนนางชั้นสูงหรือข้าหลวงใหญ่ *ตัวแทนกษัตริย์ที่สูงกว่าข้าหลวง
การตบแต่งเอา Rasha มาเป็นภริยาเพิ่มอีกหนึ่งคนอาจจะมองดูว่าเป็นเรื่องปกติ และ Rasha ที่ดูจะมีความสุขก็ทำให้อาหว่อมีความสุข แต่ทว่า...
Karal หายไปจากปราสาท
อาหว่อออกตามหาด้วยตนเอง ล่วงเข้าไปยังพรมแดน Faris จนกระทั่งเขาไปเจอกับ Karal กำลังถูกทหาร Faris รุมล้อมอยู่เกือบสิบคน
ภาพที่ไม่น่าเชื่อก็คือ Karal ใช้มือเปล่าซัดผั่วะเดียวทหารถึงกับปลิวไปไกลอย่างผิดธรรมชาติ คล้ายกับโดนค้อนยักษ์ฟาดอย่างไงอย่างงั้น
เมื่อทหารหลายคนปลิวไปคนละทาง พลธนูอีกชุดหนึ่งก็ตั้งแถวทันทีจากระยะที่ไกลออกไปเกือบ 20 เมตร สายธนูถูกดึงเมื่อพลธนูพร้อมเพรียงขึ้นสาย
อาหว่ออยู่บนมังกรฟาราส
- พุ่งผ่าน Karal ไปพ่นไฟโจมตีกองธนู
- บินโฉบลงมาคว้า Karal แล้วบินกลับ
-
- พุ่งผ่าน Karal ไปพ่นไฟโจมตีกองธนู
-
(http://i.imgur.com/5Pvqhn1.jpg) (http://i.imgur.com/5Pvqhn1.jpg) (http://i.imgur.com/5Pvqhn1.jpg) (http://i.imgur.com/5Pvqhn1.jpg) (http://i.imgur.com/5Pvqhn1.jpg)
พลธนูเรียงหน้ากระดานเห็นมังกรบินตรงมาก็เปลี่ยนเป้าหมายมายิงใส่มังกรแทน
ธนูมีพิสัยไกลกว่าเพลิงมังกรฟาราส มังกรฟาราสแพ้ทางธนูอย่างรุนแรง
พลธนู: 7c Agi/Dex R.Atk 2 (3 Turn)
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
"พวกเจ้ากล้าดียังไง ถึงคิดทำร้ายภรรยาข้า"
พลธนู: 7c Dex R.Atk 2 (3 Turn)
Rolled 3d7 : 2, 5, 6, total 13
-
อาหว่อพ่นไฟเผาทหารเกรียมเป็นถ่าน ทหารที่เหลือจึงแตกหนีไป เขาลงมาจากมังกรแล้วเดินเข้าไปหา Karal แต่เธอก็วิ่งหนีเขา
ผ่านไปครึ่งชั่วโมงที่อาหว่อขี่มังกรไล่ตามงอนง้อเธอ เขาเดาได้ว่ามันต้องเกี่ยวกับการตบแต่งภริยาใหม่แน่ๆ
ที่สำคัญและน่าสงสัยกว่าก็คือแม่นี่เป็นตัวอะไรกันน่ะ ทำไมเธอถึงอึดทรหดได้ขนาดนั้น
จนกระทั่งไปถึงโบราณสถานในเขตของ Salem เห็น Karal วิ่งตื๋อหนีลงไป อาหว่อลงมังกรแล้วรีบไล่ตามไปติดๆ
เคราะห์ดีที่กับดักต่างๆถูกเคลียร์ไปหมดก่อนแล้วโดยนักล่าสมบัติที่แวะเวียนมาปล้นสมบัติจนมันกลายเป็นดันเจี้ยนร้าง
ที่สุดทางเห็น Karal ยืนอยู่ เธอไม่หันมา พอเขาเข้าไปใกล้เธอก็พูดขึ้นมา
"ข้าเข้าใจดีว่าบุรุษเพศจำต้องมีภรรยามากหลาย"
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
"เช่นนั้นเหตุใดเจ้าจึงหนีข้า"
-
"ข้าเข้าใจดีว่าท่านจำต้องมีภรรยามากหลาย" เธอพูดใหม่ แล้วก็นิ่งไปนานสองนาน
"แค่ข้าคงไม่พอ เพราะข้า... เพราะข้า" พูดแล้วก็เงียบไปอีก
อาหว่อเชื่อแน่ว่าเธอไม่รู้ตัวว่าตัวเองกำลังอึดอัด หึงหวง คล้ายกับสิ่งที่เคยเกิดในวังเมื่อครั้งราชินี Roxana กับพระนาง Isis
เขารู้และเข้าใจดีถึงความรู้สึกของ Karal อยู่ที่ว่าเขาจะตอบเธออย่างไร แต่แล้ว Karal ก็พูดขึ้นมาก่อน
"เสด็จพ่อบอกกับข้าว่าข้าควรมองและเลือกคู่ครองให้ดีที่สุด เพราะยากนักที่ใครก็ตามจะแบ่งความรักให้กับข้า"
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
". . . . . . ."
ท่าทางน่าจะมีต่อ ยืนฟังละกัน
-
"แม้วันนี้ท่านพี่จะบอกว่ารักข้าเท่าเทียมกันกับใครอื่น แต่นั่นก็เพราะท่านพี่มองเห็นข้าเหมือนกับใครอื่น"
"จนกระทั่งวันหนึ่งที่ท่านพี่ได้รู้ว่าแท้จริงแล้วข้าไม่เหมือนดังเช่นใครอื่นที่น่าเชยชม"
เธอหันมา
(http://i.imgur.com/vsiPEWG.jpg)
"ท่านพี่ยังคงจะรักข้าอยู่อีกหรือ ท่านพี่จะยังคงรักข้าได้เท่าใครอื่นอีกหรือ"
อาหว่อจะตอบว่าอย่างไรดีล่ะ
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
.....
"ไม่"
"เพราะข้าไม่ได้รักเจ้าเท่าคนอื่น แต่ข้ารักเจ้ายิ่งกว่าใคร และจะเป็นเช่นนี้ตลอดไป"
-
(http://i.imgur.com/vsiPEWG.jpg)
"ถึงแม้ว่าข้าจะไม่ใช่มนุษย์ ดังเช่นใครอื่น" เธอบอก มันทำเอาอาหว่อนึกไปถึงอมนุษย์ฝาแฝด แคสเตอร์ และพอลลักซ์
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
"ไม่เห็นเป็นไรนี่ ข้าก็เป็นยอดมนุษย์เหมือนกัน" ;)
-
(http://i.imgur.com/vsiPEWG.jpg)
"เจ้าละมุดเป็นมังกรของข้าเอง มันชื่อละมุด ข้าเรียกมันว่าเจ้าละมุด แต่มันไม่เคยฟังข้าเลย" :(
"มันเชื่องกับข้า ต่อเมื่อข้าไม่เรียกมันในชื่อนั้น"
องค์หญิงเริ่มเล่าให้ฟัง เธอเจอมันขณะออกไปหาซื้อคัมภร์ทานตะวันกับคัมภีร์พู่ระหง เพื่อเอามาฝึกวิชา วันนั้นเธอได้เจอมันที่ข้างทาง
แน่ล่ะว่ามันมีราคาแพงผิดปกติ แต่องค์หญิงน้อยก็ไม่เสียดายที่จะเอาไข่มุกทองคำที่เป็นของรักของหวงของตนเองไปแลกมันมา มันก็แค่มังกรขี้โรคที่ผสมหลายพันธุ์จนกลายพันธุ์มาเป็นเจ้านี่
Karal บอกว่าหน้ามันละห้อย และมันแสนรู้ ซื่อสัตย์ คุยสนุก
"ข้าขอยาวิเศษของเสด็จพ่อมาให้มันเมื่อครั้งที่มันป่วย และหลังจากนั้นมันก็มีเรี่ยวแรงมหาศาล"
"แต่มันก็เป็นมังกรขี้เกียจไปเลย มันไม่ขยับตัวไปไหน และถ้ามันหิวมันจะร้องเรียกผู้ดูแล"
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
". . . . . ."
D{
-
"ดูสิว่าข้าเจออะไร" จอมกษัตริย์มองมังกรตนหนึ่งที่นอนนิ่งหายใจรวยรินและสิ้นใจลงในวินาทีต่อมา
พระองค์เปิดถุงสัมภาระแล้วหยิบยาวิเศษออกมา เปิดจุกออก โรยผงยาลงบนผิวกายของเจ้ามังกรที่มีเกล็ดสีมรกต
เจ้ามังกรฟื้นคืนชีวิตและสำแดงอภินิหาร มันฟาดหางใส่อัศวินรักษาพระองค์และทหารกระเด็นกระดอน
มันมีเรี่ยวแรงมหาศาลนัก การฟาดหางของมันก่อให้เกิดแผ่นดินแยก คนสนิทของจอมกษัตริย์กล่าวทูลว่ามันเป็นถึงราชามังกร มันอันตรายเกินกว่าที่เราจะสยบมัน
เมื่อจอมกษัตริย์ได้ฟังก็ร้องออกไปและบอกกับมันว่า "เจ้าเขียว เจ้าอยากให้ข้าเรียกเจ้าว่าอย่างนั้นใช่หรือไม่"
เจ้ามังกรหยุดแล้วมองดูบุรุษผู้นั้น
(http://i.imgur.com/vsiPEWG.jpg)
"มังกรนั่นชื่อคาราล"
"และหลังจากนั้นมันก็เป็นมังกรขี้เกียจไปเลย" :(
"มันไม่ขยับตัวไปไหน และอยู่กับเขาผู้นั้นตลอดเวลา"
เธอบอกแล้วเดินเข้ามาหาอาหว่อ ใช่ อย่างที่เข้าใจ Karal ไม่ใช่มนุษย์ เธอเป็นมังกรชั้นราชันย์ที่พลังมหาศาลและแข็งแกร่ง
อ้างอิง [url]http://baron.wudthipan.com/forum/index.php?topic=1793.msg182288#msg182288[/url] ([url]http://baron.wudthipan.com/forum/index.php?topic=1793.msg182288#msg182288[/url])
มังกรที่เคยอาละวาดที่ Fatimah จนโดนนักพรตสยบมีนามว่า Kara (ระดับ 7) แม้แต่ Red และ Blue ก็ไม่รู้รายละเอียด ซึ่ง Blue บอกว่าเขาอยากตามหาเบาะแสของมัน
จะพูดอะไรกับเธอดี หนึ่งประโยค
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
"ดีกว่าเป็นผีไม่ซอมบี้ล่ะนะ"
"ข้ารักเจ้า เรื่องนี้ไม่ได้เปลี่ยนอะไร"
-
(http://i.imgur.com/vsiPEWG.jpg)
"จริงหรือ ท่านพูดจริงใช่หรือไม่ นั่นไม่ใช่คำกล่าวที่โป้ปดข้าเข้าใจถูกหรือไม่" เธอยิ้มออกมา และเมื่อได้รับคำยืนยันอีกครั้งก็โผเข้ามาสวมกอดอาหว่อ
แต่ทันใดนั้นอาหว่อก็ต้องกดเธอลงกับพื้นเพื่อหลบศรหน้าไม้อาคมที่ยิงออกมาจากเบื้องหลัง
เลือก
- ให้ Karal เป็นตัวละครปกติ
- ให้ Karal มีสถานะของมังกรอัญเชิญ (ในสภาพปกติจะไม่มี status แต่เดินไปเดินมาทำโน่นทำนี่ได้)
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
"ข้าเคยหลอกเจ้าหรือ?"
- ให้ Karal เป็นตัวละครปกติ
-
อาหว่อหันกลับไป
(http://i.imgur.com/dplULvQ.jpg)
"......." เขาเป็นชายหรือหญิงไม่อาจทราบได้ ชุดของเขาปิดบังซ่อนเร้นรูปกายทั้งหมดเอาไว้ ที่มือมีหน้าไม้กล ที่หลังสะพายดาบยาวเกือบสองเมตร
และไม่ได้ว่ากล่าวสิ่งใดมากไปกว่านั้น บอลอาคมลูกหนึ่งได้ถูกโยนขึ้น มันส่องสว่างและอัญเชิญมังกรตนหนึ่งออกมา
(http://i.imgur.com/9ARwkPS.jpg)
Twilight Dragon
มังกรชั้นเทวา ระดับ 6 ที่หายสาบสูญไปเมื่อหลายพันปีก่อน
เป็นมังกรประเภทลำตัวยาว คะเนแล้วน่าจะยาวกว่า 50 เมตร ใช้ความร้อนสูงในการโจมตี
Roleplay ถ้าพลาดจะเจอเต๋าอุปสรรค
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
.....ขอพรได้ไหมเนี่ย
"ไปเลย Karal ใช้ท่าลำแสงแช่แข็ง"
"จะว่าไป ฉันยังไม่เคยเห็นร่างมังกรของเธอเลยนี่Karal"
-
(http://i.imgur.com/vsiPEWG.jpg)
Level : 32 | Karal
HP SP M.Atk/R.Atk Magic Atk Def | ▉▉▉▉▉ ▉▉▉▉▉ ▉▉▉ ▉▉ ▉ ::::::::::::::::: | Int Str Vit Agi Dex | ▉▉ ▉▉▉▉▉▉ ▉ ▉ ▉ ::::::::::::::: | Lds Fth Eft Chr Luk | ▉▉▉▉ ▉▉ ▉
::::::::::::::: |
|
Kara Form : แปลงร่างเป็นมังกรมรกต Magic Atk +6 Def +5 Vit +1 (3 Turn) [Magic] [5 SP] Strength : Str +2 Ⓟ [Nature] Riding : ทักษะขับขี่ Def +2 เมื่อใช้ ⇄Item Ⓟ [Nature] Dragon Summoner : เรียกใช้ Dragon Summons ได้ Ⓟ [Magic]
|
Role-play ด้วย Karal
-
แปลงร่างกะลาฟอร์ม แล้วออกไปสู้ ถ้าทำได้จัดการไอคนอัญเชิญก่อน ให้อาหว่อไปจัดการก็ได้
-
(http://i.imgur.com/6qjSe8h.jpg)
มังกรมรกตคือร่างที่แท้จริงของ Karal ซึ่งเธอก็ไม่รู้ว่าเหตุใดตนเองจึงมาอยู่ในสภาพของมนุษย์ที่ต้องแปลงร่างเป็นมังกร
นั่นทำให้เธอสูญเสียพลังอำนาจของมังกรชั้นราชันย์ไปกว่า 3 ใน 5 ส่วน เพราะเธอจะอยู่ในร่างมังกรได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น
มังกรมรกตมีชื่อว่า Kara ที่แปลว่า หินแวววาวจากสวรรค์ที่ส่องสว่างเจิดจรัส
ความร้อนของ Twilight ไม่อาจระคายผิวที่เป็นเกล็ดมรกต และแรงกระพือปีกของ Kara ก็กระแทกมันจนหมุนคว้างหลายตลบ
มังกรชั้นเทวาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมังกรชั้นราชันย์ แต่นั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่เกินคาดเดาเมื่อฝ่ายที่ลงมือเข้าจู่โจมย่อมรู้ดีถึงเรื่องนี้
(http://i.imgur.com/dplULvQ.jpg)
คนปริศนายกหน้าไม้ขึ้นมาเมื่ออาหว่อพุ่งเข้าหา
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
"มาเจอกันหน่อย"
ปาระเบิดใส่
-
ระเบิดจะไวกว่าหน้าไม้เป็นไปได้อย่างไร มันถูกศรอาคมเสียบตัดขั้วระเบิด เช่นกันกับที่อาหว่อก็ตกเป็นเป้าของมัน
- ศรอาคม: 7c Magic Atk 3 (3 Turn)
Karal กำลังโจมตี Twilight ถ้าดึงกลับมาเจออุปสรรคของ Twilight เพิ่มอีก
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
"ศรอาคมนี่มัน . . . . เจ้าคือคนที่สังหารเจ้าละมุดใช่หรือไม่?" ::)
ใช้ Chr ไม่ได้สินะ
str
Rolled 3d7 : 3, 3, 1, total 7
-
พุ่งเข้าประชิดตัวด้วย
-
อาหว่อมุดและเบี่ยงตัวหลบก่อนจะพุ่งเข้าประชิดแล้วฟาดด้วยท่อนแขน หลังมือ ศอก หมัด จนอีกฝ่ายเซถอยออกไป
(http://i.imgur.com/dplULvQ.jpg)
"ข้าต้องการมัน จงมาเป็นสาวกของข้า!" ไม่ผิดจริงๆ เจ้านี่ไล่ล่า Karal มานานแล้ว หรือบางทีมันอาจจะเป็นพรตคนที่ว่า?
Twilight ถูกเล่นงานจนหางขาดออกจากลำตัว มันแผดเสียงและอ่อนแรงลง อีกอึดใจ Karal คงสยบมันได้ แต่ว่าเจ้าคนประหลาดก็...
เลือก 1 อย่างว่าจะโดนอะไร ถ้าทอยเต๋าสุ่มเลือกจะลดหน้าเต๋าลงเหลือ 5c
- ดาบอาคม: 7c Magic Atk 5 (2 Turn)
- ปืนอาคม: 7c Magic Atk 7
- บอลอัญเชิญ
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
นักพรตอะไร?
"ถึงเวลาชดใช้กรรมแล้ว"
ทอยเต๋าสุ่มเลือก
Rolled 1d3 : 2, total 2
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
"นี่สำหรับเจ้าละมุด"
ใช้ str
Rolled 1d5 : 2, total 2
-
ปืนอาคมถูกชักออกมา แต่อาหว่อก็เตะมันหลุดจากมือลอยขึ้นไป เขาหมุนตัวถีบเข้าใส่พุงของคนลึกลับจนลอยออกไปไกลหลายเมตร
เป็นเวลาเดียวกับที่ Karal สยบเจ้า Twilight ได้และถลาลงมาขย้ำทับร่างของคนลึกลับด้วยอุ้งเท้า
- สั่ง Karal ขย้ำมันซะ
- อื่นๆ
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
"........แล้วแต่เจ้าเถอะ Karal"
- เข้าไปอัดให้หมดพิษสงแล้วลูทของ แล้วให้ Karal จัดการ
-
พออาหว่อเข้าไปใกล้เจ้าหมอนี่ก็อ้าปากพ่นกลุ่มควันสีเขียวคลุ้งออกมา มันฉวยโอกาสนั้นบิดกายถอดข้อต่อแล้วหลุดออกไปในสภาพเกือยเปลือยกาย
ซึ่งอาหว่อก็ดูไม่ทันว่าเป็นหญิงหรือชายเพราะเขากำลังทรมานกับพิษประหลาด
อาหว่อโดนพิษ HP ลดลง 1-5
Rolled 1d5 : 4, total 4
Ally Karal +1 และได้รับของ 2 อย่างที่ถูกทิ้งไว้
- ดาบอาคมปลุกเสก: อาหว่อจะใช้ได้ต่อเมื่อมีเงื่อนไขบางอย่าง
- บอลผนึกมังกร Twilight: ต้องเรียนวิชา Summon ถึงใช้ได้
- หน้าไม้กลลงอาคม
- ชุดคลุมป้องกันอาคม
- ถุงเงิน 100G
-
อาหว่อถูกพิษสลบคาที่
Exp -5
-
- ดาบอาคมปลุกเสก: อาหว่อจะใช้ได้ต่อเมื่อมีเงื่อนไขบางอย่าง
- บอลผนึกมังกร Twilight: ต้องเรียนวิชา Summon ถึงใช้ได้
-
Al-Sahara : ดาบอาคมปลุกเสก Magic Atk +6 Ⓦ [Magic]
*ใช้ได้ต่อเมื่อมี Karal อยู่ด้วย (ให้สูบมานาไปใช้)
(http://i.imgur.com/vsiPEWG.jpg)
"ต่อไปนี้เจ้าจะมาเป็นเพื่อนของข้า" Karal หยิบลูกบอลทรงกลมทึบแสงขนาดเท่ากำปั้นขึ้นมาแล้วพูดด้วย
เธอนิ่งคิดเหมือนกับยังมีเรื่องจะพูดต่อ
"ทวาย ต่อไปนี้เจ้าชื่อว่าทวาย"
(http://i.imgur.com/NT3ayqQ.jpg)
Level : 40 | Twilight Dragon
HP SP M.Atk/R.Atk Magic Atk Def | ▉▉▉▉▉▉ ▉▉▉▉▉▉▉ ▉▉ ▉▉▉▉▉ ▉▉▉ ::::::::::::::::: | Int Str Vit Agi Dex | ▉▉▉ ▉▉▉ ▉▉▉▉ ▉▉ ▉▉▉▉▉ ::::::::::::::: | Lds Fth Eft Chr Luk |
::::::::::::::: |
|
Cost : 4 Twilight : ม่านแสง Magic Atk +4 Dex +1 ✚✚ [Magic] [1 SP] Magic Wall : ป้องกัน Atk ≤ 10 100% [Magic] [1 SP] Fly : บินได้, ✪ Dragon [Nature]
|
อาหว่อจบเรื่องราวนี้พร้อมความจริงที่น้อยคนจะได้รู้ ที่แท้ Karal เป็นมังกรชั้นราชันย์ที่มีฤทธานุภาพสูงส่งไม่แพ้ Al-Faris แต่เธอคล้ายจะถูกมนตราอะไรบางอย่างจนมามีร่างกายเช่นมนุษย์ปกติ
เขาทุ่มเทเวลาส่วนหนึ่งไปสืบค้นเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นจนได้รู้ว่า Karal นั้นมีความปราถนาอยู่ในหัวใจว่าจะตอบแทนคุณกษัตริย์ Otto เธอจึงกลายมาเป็นมนุษย์โดยการสะกดตนเองอย่างไม่รู้ตัว
แต่เรื่องที่สำคัญยิ่งกว่าก็คงไม่พ้นเจ้าคนประหลาดนั่นที่แก้ผ้าวิ่งหนีเขาไปอย่างหน้าด้านๆ มันมีฝีมือและอาคมสูงมากกว่าคนทั่วไปจะพึงมี
Shaka คือชื่อของมัน มันเป็นนักล่า Dragone หรือนักล่าที่ตามล่าสายเลือดโบราณ คงเข้าใจว่า Karal เป็น Dragone เพราะเธอมีลักษณะที่คล้ายคลึงกัน
มันทำงานเพียงลำพัง โดดเดี่ยว และเต็มไปด้วยความลับ ถ้าไม่เค้นถามจากปากของมันคงไม่รู้ความจริงอื่นใดอีก
เลือกเควส
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
"นึกว่าจะตั้งว่าทุเรียนหรือลำไยซะอีก"
มีเควสอะไรให้เลือกบ้าง?
-
Main Quest
หรือ Event Quest เป็น Quest ที่จะทำได้ในช่วงเวลาของ Story ส่วนตัว มีรางวัลเป็น PP ถ้าพลาดจะ Fail และเสีย Quest ไป บทสรุปของเรื่องราวนั้นจะเป็น Bad End
เมื่อเลือก Quest แล้วเรื่องราวจะถูกดึงโยงเข้าสู่เรื่องราวของ Quest นั้น สามารถเข้าร่วมพร้อมกันได้ตามเงื่อนไข
บาง Quest ที่ไปซ้ำกับฝ่ายอื่นถ้ามีคนทำไปแล้วเราจะทำไม่ได้อีก และบาง Quest จะมี Quest ต่อไปปรากฎขึ้นมาหลังจากจบ Quest นั้นไปแล้ว
หากฝ่ายใดสำเร็จ Quest ครบทั้งหมด เรื่องราวจะดำเนินไปถึง Last Event ทันที (แต่มันก็ไม่ได้ครบกันง่ายๆหรอกนะ)
- แสนยานุภาพของราชอาณาจักร Neelam: ต้องการ 1-6 ตัวละคร
- พิชิต Faris: ต้องการ 1-4 ตัวละคร
- Afzal ราชันย์แห่งราชอาณาจักร Fatimah: : ต้องการ 1-3 ตัวละคร
- พันธมิตรภาคีมือสังหาร: ต้องการ 1 ตัวละคร
- ความวุ่นวายในราชสำนัก: ต้องการ 1 ตัวละคร
เลือกว่าจะทำ Quest ทันที หรือเข้าเรื่องราวของ Story ส่วนตัวก่อนก็ได้
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
- Afzal ราชันย์แห่งราชอาณาจักร Fatimah: : ต้องการ 1-3 ตัวละคร
ไปกันหมดนี่แหละ(ที่มี stat)
-
(http://wudthipan.com/fucko/_images/38ea56531ec3edb289f7681421fa76e0/3927%20-%20Background.jpg)
Fatimah
เดิมทีอาณาจักร Fatimah มีศูนย์กลางอยู่ที่แคว้น Faris ก่อนจะมีการย้ายเมืองหลวงไปยังแคว้น Fatih และเปลี่ยนชื่อแคว้นเป็น Fatimah ซึ่งก็คือที่นี่
Fatimah เป็นแคว้นที่ตั้งของเมืองหลวงแห่งอาณาจักร Fatimah ด้วยความที่เป็นส่วนกลางที่ได้รับบรรณาการมากมายจากทุกแคว้นยังผลให้ Fatimah เป็นแคว้นร่ำรวยที่สุด
ซึ่งมันคือภาพลวงตา เพราะสิ่งที่ได้มาไม่ใช่สิ่งที่ตนเองสร้างมันมาได้
ภายหลังสงคราม องค์ชาย Persia สถาปนาตนเองเป็นจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิ Azar มีนโยบายการเมืองที่แข็งกร้าวแต่เป้าหมายหลักคือการรวบรวมแผ่นดิน
เป้าหมายหลักของ Azar คือ Faris ที่เคยเป็นอริร้ายกันมานาน และแน่ชัดว่ามหาอำนาจอย่าง Faris จะไม่ยอมสยบให้กับ Azar ไม่ว่าในเงื่อนไขใดๆ สงครามระหว่างสองดินแดนจะอุบัติขึ้นอย่างแน่นอน
เมื่อพิชิต Faris ได้ เป้าหมายต่อไปก็คือ Fatimah ศูนย์รวมทุกสิ่งทุกอย่างของอาณาจักร Fatimah ที่ครอบครองโดยราชินี Roxana ผู้มีศักดิ์เป็นเจ้าน้าของ Persia
แม้จะสายเลือดเดียวกัน เป็นชาว Al เหมือนกัน แต่ราชินี Roxana ก็ได้ประกาศออกมาว่าจะไม่ยกดินแดนใดๆของอาณาจักร Fatimah ให้กับจักรพรรดิกำมะลออย่าง Persia
Afzal ราชันย์แห่งราชอาณาจักร Fatimah
Afzal ตัดสินใจได้แล้วว่าเขาจะกลับไปยัง Fatimah และให้ใครสักคนมาดูแล Aziz แทน ซึ่งเป้าหมายของเขาคือการต่อสู้ในฐานะกษัตริย์แห่ง Fatimah
การสนับสนุนที่ได้รับจากราชินี Roxana ส่งให้เขาเข้าสู่พิธีราชาภิเษก และได้เป็นกษัตริย์พระองค์ใหม่แทนกษัตริย์ Otto ที่สวรรคตไปในเวลาที่รวดเร็ว
ไม่มีงานเลี้ยงเฉลิมฉลองใด ทุกอย่างถูกจัดขึ้นและจบลงในเวลาเพียงวันเดียวก่อนที่กษัตริย์ Afzal จะใช้ราชโองการแห่ง Fatimah ดึงเอาดินแดนใดๆเข้าร่วมกับอาณาจักรเพื่อต่อต้านสงคราม
สงครามจะต้องไม่เกิดขึ้น และหากมันเกิดขึ้นแล้วมันก็ควรจะจบลงเดี๋ยวนี้ กษัตริย์ Afzal ได้แสดงความจริงใจเพื่อเอาชนะใจผู้คนด้วยการประกาศยกเลิกระบบชนชั้นให้กับชนชั้นกลางลงไปได้มีสิทธิและสถานะเท่าเทียมกัน
นอกจากนี้ยังมีการแก้กฎหมายหลายอย่างเพื่อประชาชน มอบบรรดาศักดิ์และตำแหน่งต่างๆให้กับขุนนางและเจ้าหน้าที่ ทุกอย่างถูกจัดการโดยกษัตริย์ Afzal อย่างเร่งด่วนเพื่อเตรียมรับมือกับสงครามที่เลี่ยงไม่ได้
ใช่ว่า Afzal จะโง่งมไม่เข้าใจถึงความเป็นจริง เขาไม่มีทางหยุดสงครามได้ด้วยประชาชนหากชนชั้นปกครองยังมีอำนาจที่เข้มแข็งในมือ
การเตรียมการต่อต้าน Neelam ที่สถาปนาอาณาจักร Neelam ขึ้นมาในช่วงเวลาเดียวกับการก่อตั้งจักรวรรดิ Azar คืองานที่ยากเย็นที่สุด
([url]http://i.imgur.com/RB2gPBP.jpg[/url])
ศัตรูของเราที่ไม่มีวันแปรเปลี่ยนเป็นมิตรก็คือสุลต่าน Shahbaz และจักรพรรดิ Persia
พวกเขาเรียกตนเองเป็นกษัตริย์เช่นเดียวกับเรา
หากแต่แผ่นดินเดียวกันจะมีกษัตริย์ได้เพียงพระองค์เดียว
กำหนดทิศทางให้กับ Afzal
- ยึดครองน่านน้ำและถ่วงดุลอำนาจทางทะเล
- ป้องกันตนเองและเร่งจัดตั้งกองกำลังแห่ง Fatimah
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
- ป้องกันตนเองและเร่งจัดตั้งกองกำลังแห่ง Fatimah
-
(http://wudthipan.com/fucko/_images/f73b56dc567a6b2ea882a8f7165246ef/4090%20-%20Background.jpg)
พระราชวัง Al-Fati (อัลฟาติ) ถูกสร้างขึ้นด้วยการระดมทุนทรัพย์จำนวนมหาศาล มันทั้งโอ่โถง หรูหรา และฟุ้งเฟ้ออย่างที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
บางทีมูลค่าของมันอาจสูงยิ่งกว่าปราสาททุกหลังในอาณาจักรรวมกันเสียอีก
(http://i.imgur.com/RB2gPBP.jpg)
"ท่านอัครมหาอุปราช เชิญ" Afzal ผายมือให้อาหว่อซึ่งใหญ่รองจากเขาในท้องพระโรงนี้ เหนือกว่าราชินี Roxana ที่นั่งอยู่เยื้องไปทางซ้ายของบัลลังก์เสียอีก
เมื่อมองไปรอบๆก็รู้สึกคุ้นเคยและสัมผัสได้ถึงวันคืนเก่าๆที่เคยมาร่วมประชุม เมื่อหลายปีก่อนเขาเองยังเป็นแค่ทหารคนหนึ่ง มีหน้าที่เพียงยืนเงียบๆ
แต่วันนี้เขามีตำแหน่งและบรรดาศักดิ์เป็นถึงรองพระมหากษัตริย์ เขามีอำนาจเฉกเช่นเดียวกับที่ Mihad เคยมี
- เสนอออกไปอย่างชาญฉลาด: 7c Chr
- เสนอโดยใช้นโยบายแนวคิดเดียวกับ Mihad
- เสนอว่า...
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
ช่างเป็นความรู้สึกที่ไม่ไม่คุ้นเคยเอาเสียเลย อาหว่อพิจารณาดูกษัตริย์ที่เขาจะต้องรับใช้ว่าเป็นคนอย่างไร
- เสนอออกไปอย่างชาญฉลาด: 7c Chr
Rolled 1d7 : 1, total 1
-
ถ้าไม่นับนิสัยใจคอที่ใจเย็นจนคล้ายจะเอื่อยเฉื่อยไม่ต่างจากอาหว่อซึ่งอาจจะพากันล่มจมได้ Afzal ก็เป็นบุรุษที่มีความสุขุม รอบคอบ และมีสติปัญญา พร้อมสรรพทุกด้าน
สิ่งที่อาหว่อมีนั้น Afzal มีทุกอย่าง แต่สิ่งที่ Afzal มีบางอย่างนั้นอาหว่อยังไม่อาจจะมีได้
([url]http://i.imgur.com/dk97rvI.jpg[/url])
Hamas น้อมรับตำแหน่งจอมทัพอันมีเกียรติ เขาเป็นคนหัวอ่อน นอบน้อม แต่มีฝีมือ และมีอุดมการณ์ไม่แพ้ Afzal
การก้าวเข้ามาเป็นจอมทัพแห่ง Fatimah ทำให้เขาได้รับฉายาว่า 'มังกรดำแห่งฟาติมาห์' ด้วยการสวมชุดเกราะสีดำและต่อสู้บนหลังของมังกรฟาราสที่สวมเกราะสีดำ
และองค์ชายสำอางค์ก็ไม่ทำให้ผิดหวังเมื่อเขาขอราชโองการจัดตั้งกองทหารอาสา ในนามกองทัพศักดิ์สิทธิ์ต่อต้านสงคราม เขาต้องการนักรบผู้กล้าที่พร้อมต่อสู้เพื่อดินแดนนี้
อาหว่อเสนอออกไปว่าเราควรจัดตั้งกองอัศวินตามที่ Hamas ต้องการ และเสริมกำลังให้มากขึ้นไปอีก
กองอัศวินของ Hamas นั้นมีชื่อว่า The Order of the Paladin โดยจะมี 12 Paladin ที่เป็นนักรบซึ่งเก่งกาจที่สุด แต่ละคนจะมีสัญลักษณ์ตามจักรราศี ควบคุมกองทัพย่อยทั้ง 12
อาหว่อที่สนับสนุนเรื่องนี้สามารถเสนอคนของเขาเข้าร่วมเป็น 12 Paladin ได้ จะเสนอใครบ้าง คนนั้นจะหายไปจากข้างกายอาหว่อ และได้รับ PP +1 Ally +3/คน (ได้ไม่เกิน 2 PP)
*ตัวละครนั้นไม่ได้หายไปเลย ยังถือว่าไปมาหาสู่และยังเป็นคนของอาหว่อ แค่ว่าจะเอามาใช้งานอีกไม่ได้
หรือไม่เสนอก็ได้
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
"ข้าขอเสนอ Yasmin นางมีฝีมือ เข้มแข็งและมีวิสัยทัศน์"
"และนันฮะ นางมีดีกว่าที่เห็น"
ส่งเสริมนางถือซะว่าชดใช้ที่ทำให้อดแต่งงาน ส่วนนันฮะ . . . น่าสนุกดี อาหว่อคิดในใจ
-
(http://i.imgur.com/sf9V0Yt.jpg)
Yasmin ถูกเสนอให้เข้าร่วม เธอมีคุณสมบัติที่ดีพอจะเข้ารับตำแหน่ง
ส่วนอีกคนหนึ่งอาหว่อบอกว่าเขาจะพาไปพบในภายหลัง แต่เขารับรองว่าเธอเหมาะสม
เธอพยักหน้าแล้วขานชื่อตอบ
([url]http://i.imgur.com/hyAYWm8.jpg[/url])
"ชื่อนันฮะ สะกดด้วยภาษาอัลว่า นันฮา หรือนานฮา"
"ข้าเป็นชาวฟาริส ชื่อของข้าจึงสะกดและอ่านได้ว่า นานฮะห์"
"แต่ผู้ที่ตั้งชื่อนี้ให้กับข้าบอกว่าข้าชื่อนันฮะ เป็นการออกเสียงเหมือนภาษาบ้านเกิดของเขา"
"ท่านจะเรียกข้าได้ทั้งนานฮะห์ นันฮา หรือนานฮา แต่ไม่ว่าจะเรียกด้วยชื่อใดข้าก็คือ นันฮะ" ;)
เธอถามเขาว่าเธอต้องทำอย่างไรในการเป็นเพื่อนคุย เพราะไม่เคยทำหน้าที่นี้
(http://i.imgur.com/9UOeYRa.png)
"ท่านจะเรียกข้าได้ทั้งนานฮะห์ นันฮา หรือนานฮา แต่ไม่ว่าจะเรียกด้วยชื่อใดข้าก็คือ นันฮะ ♡" ;)
เธอโตแล้ว และไม่ได้อยู่ที่สถานบริการแต่ไปเข้าสมัครเป็นทหารมาได้หลายปีภายใต้การสนับสนุนของอาหว่อ
กระทั่งเธอไต่เต้าขึ้นเป็นหัวหน้าอัศวินของเมืองเล็กๆเมืองหนึ่ง และบัดนี้อาหว่อคิดว่ามันถึงเวลาที่เธอจะได้แสดงความสามารถของเธอเสียที
นันฮะ แห่ง Sagittarius
-
การประชุมดำเนินต่อไปจนกระทั่งจบลง อาหว่อได้รู้ว่า Neelam จะโจมตี Fatimah เพื่อให้ Fatimah ยอมจำนน และสร้างอำนาจต่อรองไปยังแคว้นอื่นให้สวามิภักดิ์ต่อ Neelam
แต่ Karal บอกกับเขาว่าแท้ที่จริงแล้วชีค เอ้อ... เป็นสุลต่านแล้วสินะ สุลต่าน Shahbaz ต้องการบุกเข้าพิชิตวังหลวงแห่งนี้ต่างหาก เพราะที่นี่มีสมบัติซ่อนอยู่
ข้อมูลปกปิด
(http://i.imgur.com/vsiPEWG.jpg)
"สมบัติแห่งฟาฟเนียร์ สหายแห่งข้า"
- สนใจเรื่อง Fafnir ซึ่งเกี่ยวโยงกับ Afzal และการลอบสังหาร
- สนใจสงครามที่เปิดฉากขึ้น ซึ่งเกี่ยวโยง 12 Paladin
-
- สนใจเรื่อง Fafnir ซึ่งเกี่ยวโยงกับ Afzal และการลอบสังหาร
นันฮะ คสพ 10 แล้วมีเควสไหม
-
ไม่มีแล้ว เควสโดนตัดออกไปต่อภาค 3
คืนนี้อาหว่อนอนไม่หลับ เขานอนอยู่เพียงลำพังเพราะ Karal ต้องรีบกลับไปดูแลเมือง Salem แทนเขาที่เดินทางกลับมาว่าราชการและพักอยู่ต่อเป็นเดือน
ที่จริงแล้วตำแหน่งระดับมหาอุปราชไม่น่าจะต้องไปนำทัพอยู่ชายแดน เขาอดคิดไม่ได้ว่าเขาคงเป็นอุปราชที่ทำงานจับกังที่สุดในแดนดิน
เขาตัดสินใจ
- ไปพบ Roxana ที่ห้องบรรทม
- ไปพบ Afzal ที่ห้องบรรทม
- เดินไปเรื่อยในวังใน
- ไปบนกำแพงพระราชวัง
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
สุดยอดอภิมหาอุปราชอย่างอาหว่อต้องทำได้ทุกอย่างอยู่แล้ว
"นี่ก็ดึกมากแล้ว"
- ไปบนกำแพงพระราชวัง
-
อัศวินราชองครักษ์มีนับร้อยที่ทำหน้าที่ในวัง และยังมีอีกนับพันที่รอสอบเลื่อนขั้นเป็นชั้นเอลีท หรืออัศวินระดับหัวกะทิที่เก่งกาจที่สุดซึ่งมีอยู่ไม่กี่สิบคน
การเป็นอัศวินอาจจะไม่ยาก แต่การจะเลื่อนขั้นเป็นชั้นเอลีทต่างหากที่ยากเย็น บางคนก็ท้อแท้เลิกที่จะพยายาม ซึ่งอาหว่อผ่านมันมาหมดแล้ว
ค่ำคืนที่หนาวเหน็บในฤดูหนาวเป็นปกติที่จะได้ยินเสียงฟืนในเตาไฟแตกเผาะตลอดเวลา ทุกที่ๆมีเวรยาม ซึ่งปกติแล้วบนกำแพงชั้นนอกของพระราชวังจะมีทหารยามหรือองครักษ์มาตรวจงาน
อาหว่อเห็นทหารหญิงนางหนึ่งนั่งอยู่ที่โต๊ะในช่วงรอผลัดเวร
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
"มีสิ่งใดผิดปกติหรือไม่"
อาหว่อเดินเข้าไปถามทหารหญิง
-
ทหารหญิงลุกขึ้นมาถวายความเคารพแล้วตอบว่า "ท่านอุปราชอย่าได้วิตก ทุกอย่างสงบเรียบร้อยเสียเหลือเกิน"
แต่อาหว่อก็ตาไวพอจะสังเกตเห็นความผิดปกติบางอย่างที่มุมปาก และลักษณะของการแต่งกาย รอยเหงื่อ และฝุ่นทรายที่จับตามชุด
เธอดูไม่เหมือนคนที่เพิ่งจะมานั่งรอผลัดเวร
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
"งั้นเหรอ เหนื่อยหน่อยนะ"
"ฝุ่นทรายเต็มชุดเลย ไปไหนมาเหรอ?" ;)
-
ทหารหญิงช้อนตามองอย่างเรียบเฉย
(http://wudthipan.com/fucko/index.php?q=/image/2900.jpg)
"ข้าเป็นทหารที่ทำงานอย่างขยันขันแข็งตลอดสิบสามปีมานี้" เธอเอื้อนเอ่ย
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
"13 ปี? เป็นทหารตั้งแต่กี่ขวบเนี่ย เจ้าดูยังเด็กอยู่เลย"
"แล้วเจ้าก็ตอบไม่ตรงคำถาม แต่เอาเถอะพาข้าไปเดินลาดตระเวนหน่อยสิ ข้าอยากรู้ว่าพวกเจ้าทำงานกันอย่างไร"
-
(http://wudthipan.com/fucko/index.php?q=/image/2900.jpg)
"ข้ากำลังรอที่จะผลัดเวร และข้าคงต้องละเลยหน้าที่หากข้าไปกับท่าน" เธอส่ายหน้า ช่างกล้าขัดคำสั่งเสียด้วย
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
"ข้าหาสนใจไม่ เจ้าจะละเลยหน้าที่หรือเจ้าจะไม่มีหน้าที่ให้ละเลย"
-
(http://wudthipan.com/fucko/index.php?q=/image/2900.jpg)
"ท่านมหาอุปราชกำลังใช้อำนาจกดขี่ข้าซึ่งเป็นผู้น้อย" อาหว่อรู้สึกได้ว่าเธอเริ่มจะยียวนเขาเล็กๆ เธอไม่เกรงกลัวมหาอุปราชเลยหรืออย่างไร
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
"ไม่งั้นจะมีอำนาจไว้ทำไม ถ้าไม่ใช้มัน"
"ไปได้แล้ว"
-
ทั้งสองเดินไปด้วยกันจนถึงกำแพงซุ้มประตู โดยที่นางไม่ได้พาเขาเดินไปยังจุดที่จะเปลี่ยนเวร
มาหยุดที่นี่แล้วนางก็เงียบ อาหว่อมองไปไม่พบเวรยามเช่นปกติ มันผิดปกติ
(http://wudthipan.com/fucko/index.php?q=/image/2900.jpg)
"ข้าเป็นทหารที่ทำงานอย่างขยันขันแข็งตลอดสิบสามปีมานี้"
เลือก
- ชักดาบออกมาในทันที
- สงบนิ่ง และพูดอย่างชาญฉลาด
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
"ย้ำจัง อยากให้เลื่อนขั้นหรือไง?"
อภิมหาอุปราชอย่างอาหว่อจะชักดาบง่ายๆได้อย่างไร
- สงบนิ่ง และพูดอย่างชาญฉลาด
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
"เจ้าต้องการอะไร" อาหว่อถามเธอ และบอกต่อก่อนที่เธอจะทันตอบ "ข้าจะให้เจ้าหากข้าทำได้"
คำถามของอาหว่อทำให้อีกฝ่ายเงียบไปพักหนึ่ง นางไม่ได้เปลี่ยนสีหน้าไปเลยหากไม่มองที่ประกายในดวงตา
(http://wudthipan.com/fucko/index.php?q=/image/2900.jpg)
"ท่านรู้แล้วว่าข้าทำงานมานาน และ ข้า... อยากจะไปจากที่นี่สักที"
"ข้าอยากมีชีวิต ข้าทำงานเพื่อแลกกับเงิน เมื่อข้าหิวข้าก็จะซื้ออาหาร เมื่อข้าหนาวข้าก็จะซื้อผ้าห่ม"
"ท่านรู้ใช่ไหมว่าเงินน่ะซื้อได้ทุกอย่างเลย"
นางสายลับสาวขอเงินปิดปากอย่างหน้าด้านหน้าทนที่สุด
- ฟาดหัวนาง: 100G
- ชักดาบออกมาในทันที
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
"......ซื้อตัวเจ้าได้ไหม?"
- ฟาดหัวนาง: 100G
-
(http://wudthipan.com/fucko/index.php?q=/image/2900.jpg)
"ท่านซื้อข้าได้หากท่านต้องการ" เธอรับเงินมาเปิดดูนอกระยะอาวุธของอาหว่อแล้วบอกเขา
-100G
"ท่านรู้ใช่ไหมว่าเงินน่ะซื้อได้ทุกอย่างเลย"
- ข้าอยากซื้อชีวิตของคนที่กำลังจะตายในค่ำคืนนี้
- อื่นๆ ระบุ
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
"เจ้ารับเงินแล้ว บอกมา เจ้ามาทำอะไร?"
-
(http://wudthipan.com/fucko/index.php?q=/image/2900.jpg)
"ข้ามาที่นี่เพื่อเป็นดวงตาที่มองเห็นได้ทุกแห่งหน ข้าอยู่ที่นี่ด้วยเหตุผลนั้น" เธอบอก
"แต่ตอนนี้ข้าตาบอดเสียแล้ว ข้ากำลังมองเงินในถุงนี้ที่มากมายเหลือเกิน ข้าไม่เบื่อที่จะมองมันจนไม่อาจละสายตาจากมัน"
"ข้าอาจจะทำอย่างอื่นได้อีกถ้ามี.... เอ่อ... ข้าหมายถึง ถ้ามันมากกว่านี้" $ _ $
- ข้าอยากซื้อชีวิตของคนที่กำลังจะตายในค่ำคืนนี้
- อื่นๆ ระบุ
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
"จะโลภก็ให้มันมีขอบเขตบ้าง"
- ข้าอยากซื้อชีวิตของคนที่กำลังจะตายในค่ำคืนนี้
-
(http://wudthipan.com/fucko/index.php?q=/image/2900.jpg)
"เงินของท่านเก็บเอาไว้ก็เน่าเปื่อยตายไปพร้อมกับท่าน ท่านเอามันมาให้ข้าจะทำประโยชน์ให้อาณาจักรนี้อีกมาก"
"ท่านรู้แล้วว่าข้าทำงานมานาน ท่านรู้ว่าข้ารู้มากกว่าใครที่ท่านจะรู้จัก"
([url]http://i.imgur.com/dk97rvI.jpg[/url])
จอมทัพ Hamas จะจบชีวิตในวันนี้ ภายในห้องนอนของเขาเอง
และนั่นคือสัญญาณของสงครามระหว่าง fatimah และ Neelam
- จ่ายเงินให้กับเธอ: 500G
- ขอบใจนะ ข้ารู้แล้ว: ฆ่าเธอซะ
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
"เจ้าจะเอาเงินไปทำอะไรตั้งมากมาย ตายไปก็เอาไปไม่ได้"
- ขอบใจนะ ข้ารู้แล้ว: ฆ่าเธอซะ
-
อาหว่อชักดาบฟันเธอหัวหลุดจากบ่า ร่างของเธอล้มลง ส่วนศีรษะตกลงไปจากกำแพงสู่ความมืด
เขาเดินไปหยิบถุงเงินที่เกือบจะกระจายแล้วเอามานับพลางครุ่นคิดว่าจะเคลื่อนไหวอย่างไร เพราะนั่นแสดงว่ามือสังหารเข้ามาถึงในปราสาทแล้ว
- สั่งการ
- ไปถึงที่เกิดเหตุแล้ว: จะตัดข้ามผลของการสั่งการไปเลย
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
"คนที่ควรจะมาก็มาแล้ว"
"รัตติกาล เจ้าอยู่หรือเปล่า?"
- สั่งการ
-
(http://i.imgur.com/mxDuqWt.jpg)
"........." รัตติกาลเดินออกมาจากเงามืด
"ข้าไม่ทำสิ่งที่ไม่มีคุณประโยชน์ อีกฝ่ายเป็นมือสังหารฝีมือพระกาฬจำนวนมาก" เธอบอกอาหว่อแล้วนับนิ้วให้ดู
มือสังหารระดับ 5 จำนวน 8 คน
มือสังหารระดับ 6 จำนวน 4 คน
มือสังหารระดับ 7 จำนวน 3 คน
อาหว่อคงต้องส่งสัญญาณฉุกเฉินและสั่งการกองอัศวินในปราสาทซึ่งในเวลานี้ยังมีหัวหน้าพาลาดินอยู่ 2 คน
จะส่งใครไปหยุดใครดี นักฆ่ามี 15 คน ระบุเรียงคน (ส่งไปคนเดียวเพื่อจัดการ 2-3 คนก็ได้ แต่ถ้าคนที่ส่งไปฝีมือไม่ถึงขั้นที่จะทำงานนั้นก็ตายเปล่า)
- Mikazuki
- Shakir
- Lazer
- นันฮะ
- Yasmin
- รัตติกาล
- อัศวินหน้าใหม่
- อาหว่อ
-
Quest ถูกตัดจบ แจก PP +1 ฟรี เสมือนสำเร็จ Quest
เนื่องจากสถานการณ์ที่เกมดำเนินมาเนิ่นนานและยืดยาวเกินไปจึงจำเป็นต้องรวบสรุปเรื่องราวลง
โดยทางเรามีความพยายามอย่างที่สุดที่จะไม่ตัดจบห้วนๆ และจะพยายามให้เรื่องราวดำเนินไปด้วยดี(ในฉบับย่อ)
จึงต้องขออภัยล่วงหน้ามา ณ โอกาสนี้ด้วย
(http://i.imgur.com/pfHcWfp.jpg)
สงครามเก้าทัพดำเนินไปเพียง 2 เดือนก็จบลงด้วยความพ่ายแพ้พินาศสิ้นของฝ่าย Faris โดยฝ่าย Fatimah ได้เป็นผู้กำชัย
ในขณะเดียวกันกองทัพ Azar ที่โจมตีกระหนาบยังตะวันออกของ Faris ก็บุกเข้าสู่เมืองหลวงของ Faris ได้สำเร็จ นับเป็นจุดสิ้นสุดราชวงศ์สุไลมานแห่ง Faris
จักรพรรดิ Persia บาดเจ็บสาหัสจากการต่อสู้ที่เมืองหลวงสภาพเป็นตายเท่ากัน และนั่นเองที่ทำให้กองทัพ Azar หยุดการเคลื่อนทัพบุกเข้าสู่ Fatimah เมื่อ Aisha ประกาศยุติสงคราม
แต่ในเดือนต่อมากองทัพ Neelam ก็กรีฑาทัพเข้าสู่ Fatimah จากทางเหนือ โดยมีกองทัพของ Daria และ Rohaan เข้าสนับสนุนช่วยเหลือฝ่าย Fatimah ที่บอบช้ำในการรบกับ Faris
กองอัศวินพาลาดินที่เหลืออยู่เพียงครึ่งหนึ่งหลังจบศึกกับ Faris ได้จบชีวิตลงแทบทั้งหมดที่เมืองหลวงของ Fatimah เพื่อต้านทานกองทัพของ Neelam ที่มีมากกว่าเกือบเท่าตัวซ้ำยังได้รับการสนับสนุนช่วยเหลือจากกลุ่ม Massia
ทหารจากทั้งสองฝ่ายเริ่มอ่อนล้าแต่เหล่าผู้นำยังคงมุ่งมั่น Afzal แม้บาดเจ็บจากเกาทัณฑ์ยังมิวางพระทัยแลออกรบอย่างกล้าหาญจนล่วงตกจากหลังมังกร
สุลต่านแห่ง Neelam ทรงมังกรบินทะยานผ่านเมืองหลวงที่เคยร่ำรวยฟุ้งเฟ้อมุ่งหน้าเข้าสู่พระราชวัง Al-Fati และเผชิญหน้ากับ Hamas ที่กลางหาว
อาหว่อถูก Karal ดึงให้วิ่งตามเข้าไปยังพระราชวังชั้นใน เธอบอกกับเขาว่าสหายของเธอจะช่วยเหลือเรา
-
ณ ดินแดนรกร้างอันไพศาลที่แสนจะทุรกันดาร ต้นไม้ไม่อาจยืนต้นได้นานเพราะดินไม่ดี แม่น้ำเหือดแห้งเพราะความร้อน
สิ่งมีชีวิตทุกชนิดต่างทุกข์ทรมานกับการขาดอาหาร แม้จะมีฝนตกลงมาบ้างประปรายแต่ก็ไม่อาจเติมเต็มความกระหายได้ ทุกสิ่งกำลังจะตายลงไม่เว้นแม้แต่ผืนดิน
(http://i.imgur.com/ZnEZBuK.jpg)
ปาฎิหาริย์บังเกิดขึ้น เมื่อบางสิ่งจากฟากฟ้าทิ้งตัวลงมาเหนือพสุธาของดินแดนแห่งนี้... มังกรยักษ์ขนาดมหึมาที่แผ่ปีกทั้งสองกางโอบได้ทั้งทวีป หรือนามนั้นคือ ราชินีมังกร
ราชินีมังกรเห็นสภาพความเป็นอยู่อันน่าอดสูนั้นแล้วก็ไม่อาจทนได้ ท่านจึงสะบัดปีกของท่าน
ครั้งแรก สายน้ำไหลทะลักเข้ามาเติมเต็มดินแดนอันแห้งแล้ง
ครั้งสอง ผืนดินกลับมาอุดมสมบูรณ์ ต้นไม้งอกเงยจนกลายเป็นป่าเขียวขจี
ครั้งสาม สิ่งมีชีวิตกลับฟื้นคืนกำลัง แม้ตายไปแล้วก็กลับมามีชีวิตอีกครั้ง
ราชินีมังกรคืนชีพให้กับผืนแผ่นดินของเรา ทำให้ดินแดนแห่งนี้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง ทว่านั่นยังไม่เพียงพอสำหรับดินแดนนี้
"แผ่นดินนี้ต้องการผู้ดูแล" ราชินีมังกรกล่าวก่อนจะเป่าลมหายใจใส่ผืนดิน พลันรูปปั้นดินก็ก่อตัวขึ้นเป็นจำนวนมาก ท่านเป่าลมอีกครั้ง รูปปั้นเหล่านั้นก็กลายมาเป็นมนุษย์
มนุษย์มีชีวิต มีระเบียบ และมีสติปัญญา แต่มนุษย์นั้นอ่อนแอเกินกว่าจะอยู่ในธรรมชาติได้ด้วยตัวพวกเขาเอง ราชินีมังกรจึงตัดสินใจนำเล็บและเขี้ยวของตนฝังลงในผืนดิน
ก่อนจะเป่าลมหายใจใส่อีกครั้ง พริบตานั้นผืนดินมหาศาลก็ก่อตัวขึ้นเป็นรูปปั้นอันหลากหลายก่อนจะผันเปลี่ยนเป็นสิ่งมีชีวิตอันงดงามและทรงพลัง... มังกรนั่นเอง
"พวกเจ้าทั้งสองเผ่าจงช่วยเหลือเกื้อกูลกัน คอยปกปักษ์รักษาดินแดนนี้ให้สงบสุขเรื่อยไป" ราชินีมังกรสั่งก่อนจะบินจากไป
.
.
.
ตำนานกล่าวไว้ว่า บุตรแห่งราชินีมังกรจะมีพลังอำนาจ ทรงความรู้ เปี่ยมไปด้วยสติปัญญา และอยู่สูงส่งกว่ามนุษย์ทุกผู้ทุกนาม
พวกเขาจะมีฤทธานุภาพดุจเทพเทวา มีร่างกายงดงามที่สุดเท่าที่พระเจ้าจะทรงปั้นแต่ง และมีอายุขัยที่ยืนยาว ...ตราบชั่วนิรันดร์
เพลิงอันศักดิ์สิทธิ์ซึ่งจะตีตราลงบนดวงเนตรของคนผู้นั้นในฐานะของผู้สืบเชื้อสายแห่งราชินีมังกร เผ่าพันธุ์ที่เปี่ยมไปด้วยแสนยานุภาพ
-
เราอยากเห็นดินแดนไพศาลที่ผู้คนต่างมีความสุข
นั่นเป็นคำกล่าวของสตรีนางหนึ่ง ก่อนที่นางจะสิ้นลมหายใจ
ที่ป้อมทางใต้ หรือป้อม Rilua เป็นป้อมปราการที่ไม่ได้ถูกใช้งานอะไรสักเท่าไรนัก
Badiyah คือชื่อของ Earth Dragon หรือมังกรแห่งปฐพี เป็นมังกรชั้นสูงสุด มีศักดิ์เทียบเคียงกับอัลฟาริส มีพลังและอำนาจมหาศาลไม่แพ้กัน
มันคือมังกรชั้นราชันย์เพียงหนึ่งเดียวที่อาศัยอยู่บนปฐพีนี้ หัวของมันอยู่กลางทะเลทราย สร้างพายุทราย หางของมันมาโผล่ที่ป้อมปราการ
ตัวของมันน่าจะยาวกว่า 3000 กิโลเมตร ฝังอยู่ใต้ผืนแผ่นดินนี้ หากมันขยับตัวแผ่นดินจะแยกออก เกิดดินไหว บ้านเมืองจะพังพินาศ
การมีอยู่ของป้อมปราการนี้คือการเฝ้าพิทักษ์หางของมัน ไม่ให้ใครมารบกวน
แต่ไม่นานมานี้กลับมีใครล่วงรู้ความลับของป้อมนี้และพยายามจะทำเรื่องร้ายแรง
พวกที่เรียกตนเองว่า Massia คิดจะทำลายแคว้นและอาณาจักร Fatimah ด้วยการปลุกให้ Badiyah ตื่นขึ้น
"ตำนานที่เคยกล่าวเอาไว้ เมื่อบาดิยาห์ตื่นขึ้น เมื่อนั้นฟาฟเนียร์จะถือกำเนิดขึ้น"
Fafnir คือมังกรแห่งปฐพีที่พิทักษ์สมบัติใต้พิภพ ถึงแม้จะเป็นมังกรชั้นราชันย์ที่สูงที่สุด แต่ไม่เคยมีมังกรตนใดเอาชนะ Fafnir และได้พบสมบัติที่มันเฝ้าปกป้องได้เลยแม้สักคน
การประชุมดำเนินต่อไปจนกระทั่งจบลง อาหว่อได้รู้ว่า Neelam จะโจมตี Fatimah เพื่อให้ Fatimah ยอมจำนน และสร้างอำนาจต่อรองไปยังแคว้นอื่นให้สวามิภักดิ์ต่อ Neelam
แต่ Karal บอกกับเขาว่าแท้ที่จริงแล้วชีค เอ้อ... เป็นสุลต่านแล้วสินะ สุลต่าน Shahbaz ต้องการบุกเข้าพิชิตวังหลวงแห่งนี้ต่างหาก เพราะที่นี่มีสมบัติซ่อนอยู่
"สมบัติแห่งฟาฟเนียร์ สหายแห่งข้า"
ราชินีมังกรไม่อาจสร้างสวนสวรรค์ได้ดังที่หมาย นางอ่อนล้า และอายุขัยที่มากเกินขีดจำกัดที่เวทมนตร์จะพยุงเอาไว้ยังผลให้นางได้จบชีวิตลงที่ Fatimah หลังจากสร้างดินแดนทางเหนือของทวีปแห่งนี้จนเขียวชอุ่ม
และนั่นเองสาเหตุที่อาณาจักร Fatimah ยังคงเป็นทะเลทราย เพราะราชินีมังกรได้จบชีวิตลงก่อนจะทันสร้างดินแดนแห่งนี้ หากแต่ใครบางคนที่ใกล้ชิดกับราชินีมังกรที่สุดได้สานต่อความหวังนั้น
(http://i.imgur.com/4n1cUBN.jpg)
"ข้าสัญญา เมื่อท่านลืมตาตื่นขึ้นอีกครั้งท่านจะได้พบยูโทเปียดังที่หวัง" เขาคือจอมเวทชั้นสูง Fadil ศิษย์เอกแห่งราชินีมังกรที่มีชีวิตอยู่เมื่อหลายหมื่นปีก่อน และเป็นคนรักของนาง
Fadil ได้สร้างแท่นปะรำพิธีสำหรับชุบชีวิตราชินีมังกรและประตูข้ามมิติไว้หลายแห่งที่ผู้คนเรียกว่าประตูสู่สรวงสวรรค์
เพื่อจะใช้มันเป็นทางผ่านให้กับสตรีอันเป็นที่รักของตนได้เข้าไปยังประตูนั้นเพื่อไปยังแดนสวรรค์ที่เขาสร้างขึ้นในอนาคต ซึ่งคงต้องใช้เวลานานแสนนาน
Fadil สร้างหลายสิ่งหลายอย่างขึ้นมา และหนึ่งในสิ่งเหล่านั้นคือ 'การปิดตายอดีตที่ไม่ควรจดจำ' เขาพยายามสร้างสิ่งต่างๆเพื่อให้ผู้คนลืมเรื่องราวของราชินีมังกร เพื่อไม่ให้ใครเข้าไปถึงความลับของราชินีมังกร
แต่เมื่อ Fadil ได้พบกับ Dragone เขาก็ต้องเปลี่ยนเป้าหมาย 'ทำลาย Dragone และกลบฝังพวกมัน' เหล่า Dragone อยู่เหนือกฎแห่งการตาย
ไม่ว่าจะตายไปสักกี่ครั้ง Dragone จะกำเนิดใหม่ขึ้นมาในรูปลักษณ์เดิมทุกประการ แม้ว่า Dragone จะจดจำเรื่องราวเดิมเมื่อครั้งยังมีชีวิตไม่ได้ แต่ Dragone เป็นสิ่งที่ไม่ควรมีอยู่บนโลกนี้
แม้ Fadil จะมีพลังยิ่งใหญ่มหาศาลแต่เขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเหล่า Dragone มันเป็นอุบัติเหตุในการต่อสู้ที่ทำให้เขาอยู่ในสภาพจำศีลยาวนานจนถึงปัจจุบัน
Fafnir คือมังกรแห่งปฐพีที่พิทักษ์สมบัติใต้พิภพ นั่นคือสิ่งที่ผู้คนกล่าวขาน เป็นหนึ่งในความเชื่อที่ Fadil สร้างขึ้น
แท้ที่จริง Fafnir นั้นเป็นพญามังกรสามเศียรนามว่า Zahhak ที่เฝ้าพิทักษ์มหาวิหารแห่งราชินีมังกร สถานที่ซึ่งใช้คืนชีพให้กับราชินีมังกร
สถานที่แห่งนั้นอยู่ลึกลงไปใต้ดิน มันอยู่ในทะเล และอยู่ใต้ดิน
ใต้เกาะ Syrus ลึกลงไปหลายพันเมตรด้วยลิฟท์อาคม
(http://i.imgur.com/x3vOu6U.jpg)
สมบัติแห่ง Fafnir หรือมหาวิหารแห่งราชินีมังกร
-
เลือกเส้นทาง อยากได้บทบาทแบบไหน
- หยุด Fatum ที่คิดจะคืนชีพให้กับราชินีมังกร (บังคับ Fadil)
- อยู่ที่ Fatimah ในช่วงสุดท้ายของสงคราม
- เปิดเผยความลับของยุคสมัย (บังคับ Milen, Chao)
จากนั้นทำข้อสอบ ได้คะแนนเท่าไหร่เอามาหาร 3 ปัดเศษลง = PP ที่ได้รับ
ทำถูกหมดได้รับ 8 PP (ไม่มีทาง ยาก)
1. Fadil คือใคร
ก. นักบวช
ข. ผู้มาจากโลกอื่น
ค. อัครมหาจอมเวท
ง. ชาวบ้านเร่ร่อน
2. Megan คือใคร
ก. แม่ค้าที่ทำมาค้าขายใน Faris
ข. ผู้สร้างป้อมปราการที่เมือง Aziz
ค. มีน้องชายชื่อ Theodore
ง. เป็นคนรักของ Fadil
3. Hanzel คือใคร
ก. ลูกชายของ Hanzo
ข. อัครทูตมากความสามารถผู้ปลดปล่อย Rafal
ค. ผู้อัญเชิญมังกรแห่งแดนใต้
ง. ผู้ชำนาญการขี่มังกร
4. อาหว่อ คือใคร
ก. อัครมหาอุปราชแห่ง Neelam
ข. ผู้เป็นสวามีขององค์หญิงแห่ง Fatimah
ค. เขาเชี่ยวชาญการอัญเชิญมังกร
ง. องครักษ์แห่ง Rohaan
5. Red คือใคร
ก. ผู้ชำนาญการขี่มังกร
ข. ผู้อัญเชิญมังกรแห่งแดนเหนือ
ค. เขาเป็นลูกศิษย์ของ Delka
ง. เขารู้ความลับของมังกรปฐพี
6. Ziavarisha คือใคร
ก. องค์หญิงแห่ง Neelam
ข. บุตรของพระนาง Isis
ค. เธอสูญเสียองครักษ์ในอาณัติไปสองคน
ง. เธอครอบครองมังกรชั้นอัครเทวา
7. Farah คือใคร
ก. บุตรแห่งราชินีมังกร
ข. บริวารของราชินีมังกร
ค. ผู้ใช้เวทมนตร์โบราณ
ง. ชีวิตของเขาไม่มีวันดับสูญ
8. Chao คือใคร
ก. เขารู้จักกับ Troy
ข. เขาพ่ายแพ้ให้กับ King
ค. เขาดวลปืนชนะราชินีโจรสลัด
ง. เขาชนะการประลองในงานเทศกาล
9. Milen คือใคร
ก. รัชทายาทแห่ง Fatimah
ข. นางโจรแห่ง Naseeka
ค. นักวิชาการ
ง. นักล่าสมบัติ
10. Aisha คือใคร
ก. รัชทายาทแห่ง Faris
ข. จักรพรรดินีแห่ง Azar
ค. จอมนางผู้สยบ Persia
ง. นางมีองครักษ์นามว่า Ashara
11. สุลต่าน Shabaz ต้องการอะไร
ก. รวบรวมอาณาจักรและดินแดนทั้งหมด
ข. ขอพรจากราชินีมังกร
ค. ทำลายความลับของประวัติศาสตร์
ง. เขาเพียงแค่คลั่งไคล้สงคราม
12. จักรพรรดิ Persia ต้องการอะไร
ก. รวบรวมอาณาจักรและดินแดนทั้งหมด
ข. ขอพรจากราชินีมังกร
ค. ทำลายความลับของประวัติศาสตร์
ง. เขาเพียงแค่คลั่งไคล้สงคราม
13. ราชินีโจรสลัดต้องการอะไร
ก. รวบรวมอาณาจักรและดินแดนทั้งหมด
ข. ขอพรจากราชินีมังกร
ค. ทำลายความลับของประวัติศาสตร์
ง. เธอเพียงแค่คลั่งไคล้สงคราม
14. Dragone คืออะไร ตอบได้ 3 ข้อ
15. Zuleika คือใคร ตอบได้ 3 ข้อ
Hide คำตอบไว้ และจะสรุปผล 12.00 น. พรุ่งนี้ ถ้าตอบครบไวจะสรุปเลยครับ
-
เป็นอภิมหาอุปราชจะทิ้งเมืองไปได้อย่างไร
- อยู่ที่ Fatimah ในช่วงสุดท้ายของสงคราม
ข้อมูลปกปิด
-
ข้อมูลปกปิด
-
ข้อมูลปกปิด
-
ที่ Fatimah ในช่วงสุดท้ายของสงคราม Aisha กลับมาเพื่อร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับ Afzal ซึ่งเป็นพี่ชายที่พลัดพรากจากกันมาตั้งแต่เริ่มเกม
เธอเป็นจักรพรรดินี ส่วน Afzal คือจอมกษัตริย์ มันช่างบังเอิญอย่างที่สุดที่ทั้งคู่ได้ขึ้นไปยืนอยู่บนจุดสูงสุดของระบบชนชั้นไม่ต่างกัน
อีกด้านหนึ่งมหาอุปราชซึ่งนำทัพแทนองค์ชาย Hamas ก็ต้องสูญเสียขุนพลในกองอัศวินพาลาดินไปอีกสองคน
นันฮะเอาตัวเข้ามาขวางธนูจนบาดเจ็บหนักล้มลงไป อาหว่อที่แทบจะเสพสุขจนลืมจับดาบยังต้องเหวี่ยงดาบต่อสู้สุดกำลังเพื่อต้านทานข้าศึกที่บุกเข้ามาดุจน้ำป่าไหลบ่า
รัตติกาลทำหน้าที่ได้ดีที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้ด้วยการลอบสังหารขุนพลกลางสนามรบก่อนจะหายไปในกลีบเปลวไฟของสงคราม
ดาบวิเศษในมือของอาหว่อสิ้นพลังลงเมื่อ Karal มาถึงขีดจำกัดที่จะให้พลังกับเขา
เขากับ Karal ได้ยินเสียงโห่ร้องจากหน้าพระราชวังเพียงอึดใจเดียว
(http://i.imgur.com/ZnEZBuK.jpg)
เมฆาสีดำที่ปกคลุมทั่วท้องฟ้าของ Fatimah มาตลอดนับแต่สงครามเปิดฉากก็เบิกเป็นช่อง แสงสว่างที่สาดลงมาเผยให้เห็นร่างของพญามังกรที่มีสามเศียร
Zahhak พญามังกรในตำนานที่ไม่เคยมีใครพบเห็น และไม่มีลำดับชั้นที่แน่นอน
-
(http://i.imgur.com/5NYvSLf.jpg)
นานแสนนานมาแล้ว เหนือปฐพีเคยมีมหาสงครามบังเกิดขึ้น
และเมื่อสงครามจบลง... หลายพันปีนับจากนั้นผู้คนจึงได้ขับขานนามของราชินีมังกร
(http://i.imgur.com/x3vOu6U.jpg)
มหาวิหารแห่ง Fafnir ถูกสร้างขึ้นโดยมีเป้าประสงค์ในการใช้มันเป็นจักรกลอาคมที่จะทำงานด้วยตัวเองเพื่อคืนชีพให้กับราชินีมังกร
Fadil สร้างมันขึ้นมาและเก็บซ่อนเอาไว้ ซ้ำยังให้ Fafnir คอยพิทักษ์มัน
เลือกเพียง 1 ข้อ จะตอบคำถามหรือจะบู๊ (Hide)
1. เลือกคำตอบ (ตอบถูก PP +1/ข้อ)
สงครามนั้นคือ
- สงครามระหว่างเผ่าพันธุ์มังกร
- สงครามของอัครสาวกแห่งพระเจ้า
- สงครามระหว่างมนุษย์ด้วยกันเอง
- สงครามระหว่างเหล่าอาวุธมีชีวิต
ราชินีมังกรคือ
- พระเจ้าผู้สร้างโลก
- มังกร
- มนุษย์
- ชีวอาวุธโบราณ
2. เผชิญหน้ากับ Zahhak (PP +1)
-
ข้อมูลปกปิด
-
อดีตกาลนานแสนนานมาแล้ว ย้อนกลับไปเมื่อหลายหมื่นปีก่อน
ผืนแผ่นดินเคยเขียวชอุ่มและเจริญรุ่งเรืองอย่างที่ผู้คนในยุคนี้คงไม่เคยเห็น
ผู้คนใช้ชีวิตอย่างสุขสบายเมื่อพวกเขาค้นพบวิทยาการของชนเผ่ารูนและต่อยอดมันขึ้นมาจนได้แหล่งพลังงานบริสุทธิ์
ทรัพยากรที่มีอยู่มากมายจนเรียกว่าอาจจะไม่มีวันหมดบนมหาทวีปแห่งนี้คอยหล่อเลี้ยงชีวิตทุกชีวิตบนผืนแผ่นดินและทั่วทั้งท้องน้ำมหาสมุทร
อีกฟากของทวีปน่ะเป็นทวีปที่กว้างใหญ่มากเลยนะ แล้วที่นั่นก็มีมังกรด้วย
มังกรแปลกๆ แล้วก็มังกรที่ทรงพลัง พวกมันอาศัยอยู่ที่นั่น
ถ้าเอามันมาใช้งานได้ก็คงดีนะ
ไม่มีอะไรที่มนุษย์ทำไม่ได้ ในยุคสมัยที่วิทยาการเวทมนตร์รุ่งเรืองถึงขีดสุด การเปิดประตูมิติไม่ใช่เรื่องที่ไกลเกินจริง
([url]http://i.imgur.com/D224gWL.jpg[/url])
LaFatum มหาเวทเปิดมิติ
PP +1
-
ที่โพ้นทวีปมีมังกรอยู่อาศัยเป็นจำนวนมาก ที่นั่นไม่มีมนุษย์ และมังกรก็ไม่ได้อาศัยอยู่บนผืนแผ่นดินนี้มาแต่เดิมที
ผู้บุกเบิกได้ค้นพบประตูมิติที่มังกรใช้มันเดินทางมายังโลกนี้ "พวกมันมาจากโลกอื่น"
มีการวิจัยและคาดเดาถึงสายพันธุ์มังกรที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าที่ค้นพบซึ่งพวกมันไม่สามารถลอดผ่านประตูมิติที่มีขนาดเล็กได้
และนั่นเองคือจุดเริ่มต้นของการค้นคว้าและอัญเชิญมังกรจากต่างโลกที่มีพลังแข็งแกร่งยิ่งกว่าสิ่งมีชีวิตบนพิภพแห่งนี้
เหล่าจอมเวทผู้อัญเชิญมังกรผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ดทั่วทั้งผืนแผ่นดินในช่วง 800 ปีหลังการค้นพบทวีปมังกร
พวกเขาตื่นเต้นกับศาสตร์การควบคุมสิ่งมีชีวิตที่เหนือล้ำกว่าสิ่งมีชีวิตใดๆบนผืนพิภพรวมไปถึงผืนน้ำก็ไม่เคยปรากฎสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งเช่นมังกร
กระทั่งวันหนึ่งที่พลังอำนาจเหล่านั้นเริ่มทะลักออกมาจากภาชนะที่กักเก็บ พวกเขาต้องการแสดงแสนยานุภาพ ต้องการใช้พลังอำนาจที่มี
สงครามที่ยืดเยื้อเปลี่ยนผืนทวีปที่เขียวชอุ่มกลายเป็นสีดำแดงเกือบครึ่งหนึ่ง ผู้คนล้มตายไปเกือบ 2 ใน 3
(http://i.imgur.com/rzrVLMQ.jpg)
"เราไม่เห็นด้วย พวกเขาจะต่อสู้จนตัวตายและพวกเราจะพินาศ ทุกอย่างควรยุติ เราสัญญากันแล้ว" เด็กหญิงสะบัดผ้าคลุมและโต้แย้งนายเหนือหัวกลางโถงพระโรง
เธอคือ Zuleika จอมทัพแห่งอาณาจักรมหาอำนาจที่กำลังกำชัยในมหาสงครามซึ่งยืดเยื้อมาตลอดพันปี สงครามที่เหล่าจอมเวทผู้อัญเชิญของแต่ละดินแดนต่างต่อสู้ห้ำหั่นกันมาตลอด
และมันน่าเศร้า เสียงของเธอไม่มีอำนาจมากพอ
อาณาจักรของเธอ พี่น้องของเธอ และบ้านเกิดของเธอได้สาบสูญไปหลังจากวันที่เธอลั่นเสียงเพียง 8 วันให้หลัง
ชนเผ่ากลุ่มสุดท้ายคือลูกหลานผู้สืบสายเลือดมาจากชนเผ่ารูน พวกเขาต่อต้านข้าศึกและต่อต้านสงครามมาโดยตลอดจนกระทั่งบ้านเกิดเมืองนอนของพวกเขาล่มสลายลงไป
ในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตพวกเขาค้นพบเวทมนตร์ในการสร้างชีวอาวุธที่มีชีวิต และนั่นเองคือต้นกำเนิดของ Dragone
([url]http://i.imgur.com/QPmr3kB.jpg[/url]) ([url]http://i.imgur.com/xodhsqZ.jpg[/url]) ([url]http://i.imgur.com/MfVDlt7.jpg[/url]) ([url]http://i.imgur.com/cTFsGlS.jpg[/url]) ([url]http://i.imgur.com/GSelQvd.jpg[/url]) ([url]http://i.imgur.com/KY6KzRP.jpg[/url]) ([url]http://i.imgur.com/UNiyTWJ.jpg[/url])
ชีวอาวุธรูปร่างคล้ายมนุษย์ครึ่งมังกรที่ชื่อว่า Dragone ถูกสร้างขึ้นมา เพื่อหวังทำลายล้างมังกรและผู้ควบคุมมังกรทั้งหมดอันเป็นศัตรูที่พวกเขาเกลียดชัง
ผู้สร้างได้สาปแช่งผู้ก่อสงครามและฝังเอาความคิดเหล่านั้นลงในจิตใจของ Dragone ยังผลให้ Dragone มีอคติในใจและเป็นศัตรูกับมังกรในทุกชาติภพ
การต่อสู้ระหว่างจอมเวทผู้อัญเชิญและอาวุธมีชีวิตอย่าง Dragone ส่งผลให้ทวีปจมลงก้นทะเลไปครึ่งหนึ่ง เหลือไว้เพียงเศษซากของอารยธรรมที่มนุษย์เคยสร้างบนผืนดินแห้งผาก
"มนุษย์เสียชีวิตไปไม่น้อยกว่าแปดสิบห้าล้านคน และจอมเวทผู้อัญเชิญมังกรบนแผ่นดินก็ล้มตายไปทั้งสิ้นเก้าแสนเจ็ดหมื่นสี่พันหกร้อยหกสิบเจ็ดคน"
จอมเวทคนสุดท้ายยืนอยู่บนเศียรของมังกรสามหัวนามว่า Zahhak เผชิญหน้ากับ Dragone คนสุดท้ายที่เหลืออยู่ซึ่งคืนสภาพมาเป็นร่างมนุษย์
"เจ้าเหมารวมได้อย่างไร มนุษย์ล้มตายไปก่อนหน้าที่พวกเราจะตื่นขึ้น มันเป็นเพราะพวกเจ้า" Dragone ผู้มีผมสีแดงเพลิงสะบัดผม
"อย่าได้เกิดมาบนผืนแผ่นดินนี้อีกเลยเจ้ามนุษย์น่ารังเกียจ" ขาดคำของเธอศึกสุดท้ายก็บังเกิด มันเป็นการต่อสู้ของจอมเวทคนสุดท้ายและราชินีแห่ง Dragone
(http://i.imgur.com/2trIL1R.jpg)
มหาเวท LaFatum ที่ราชินีแห่ง Dragone ร่ายออกมาได้กวาดและหอบเอาทุกอย่างในรัศมีหลายร้อยกิโลเมตรหายเข้าไปในประตูมิติ
พร้อมกับร่างของเธอที่ถูก Zahhak ขย้ำจนแหลกเหลวไปพร้อมกัน
และนั่นคือบทสรุปของสงคราม
-
(http://i.imgur.com/xpfZnrD.jpg)
อย่างไรก็ตาม หลายพันปีต่อมาประตูมิติกลับเปิดขึ้นเหนือฟากฟ้าที่เต็มไปด้วยเมฆามืดดำ
มนุษย์ที่ยังหลงเหลืออยู่บนผืนพิภพผู้หนึ่งแหงนหน้าขึ้นมองสิ่งที่สยายปีกออกปกคลุมท้องฟ้าแล้วชี้มือขึ้นไปยังสิ่งนั้น เจ้ามังกรยักษ์ที่มีสามเศียร
ราชินีมังกรทรงโปรดเราด้วย
เขามองไม่เห็น Zuleika ที่อยู่บนหลังของมัน จอมเวทที่น่าจะตายไปแล้วในมหาสงครามเมื่อหลายพันปีก่อน
Zuleika ใช้เวลานับพันปีในการหาทางกลับมายังผืนแผ่นดินเกิด เธอโชคดีที่ Zahhak มีสามชีวิต และมันใช้ชีวิตที่เหลือนั้นมอบให้กับเธอ
.
.
.
.
เรากลับมาเพื่อชดใช้ในสิ่งที่พวกเราได้กระทำมันเอาไว้
เราหาใช่ราชินีของพวกท่าน
-
กล่าวขานกันมานานแสนนานถึงมังกรชั้นราชันย์ตนหนึ่งที่มีอำนาจร้ายกาจแต่ไม่ถูกบันทึกเอาไว้ในประวัติศาสตร์อันเนื่องมาจากหลักฐานยืนยันถึงการมีอยู่ของมันนั้นคลุมเครือ
ในอดีต นามของมันถูกนำมาใช้เป็นนามของหอสมุดยักษ์อันแปลว่า "Zahhak the son of Zuleika" หรือ "ซาฮัคผู้เป็นบุตรแห่งซูไลก้า"
http://baron.wudthipan.com/forum/index.php?topic=1811.0 (http://baron.wudthipan.com/forum/index.php?topic=1811.0)
นักประวัติศาสตร์ถึงกับไขว้เขวคาดเดาผิดคิดว่ามันหมายถึงอัครมหาศาสดา Zuleika มีสาวกนามว่า Zahhak
หรือบ้างก็ว่ามันไม่มีแก่นสารใดมากไปกว่าคนโบราณที่รังสรรค์นามนี้ตามนิมิตร มีการคาดเดาเพียงน้อยนิดที่จะเฉียดไปใกล้กับความจริง
บางที Fadil ผู้สร้างนามนี้อาจจะหมายมั่นในเจตจำนงค์อื่น หากแต่มองในมุมมองทั่วไปของมนุษย์มันก็เป็นเพียงการลวงให้ผู้คนเข้าใจผิดและเชื่อในสิ่งที่เขาสร้างขึ้น
ผู้ที่รู้จัก Zahhak มีเพียงจอมมายากลหรือผู้อัญเชิญมังกรอันยิ่งใหญ่ในอดีตกาลเท่านั้น
พวกเขารู้จักและเข้าใจดีเป็นอย่างยิ่งว่า Zahhak คือมังกรสามเศียรที่มีสามชีวิต และมีพลังอำนาจเหนือกว่าราชันย์มังกร Al-Faris เสียอีก
มีจอมเวทผู้อัญเชิญมังกรไม่ถึงยี่สิบคนที่ควบคุม Zahhak ได้นับแต่เริ่มนับปฏิทินตามศักราชมังกรตลอดช่วงเวลานับพันๆปี
ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ Zuleika จอมเวทอัญเชิญผู้เป็นอาจารย์ของ Fadil
รูปกายของเจ้ามังกรที่ร้ายกาจซึ่งเคยสังหารราชินีแห่ง Dragone ลงได้นั้นมีสามเศียร เกล็ดสีฟ้าคราม ปีกสยายยาวออกแทบจะปกคลุมได้ทั้งอาณาจักร
ละอองจากขนปีกประหนึ่งปีกสีขาวบริสุทธิ์ของเทวาบนสรวงสวรรค์มีอานุภาพในการลดทอนอำนาจเวทมนตร์จนเหลือเพียงศูนย์ จะงอยปากที่แข็งแกร่งเต็มไปด้วยคมเขี้ยวที่แหลมคมและแข็งแกร่งประดุจเพชร
นั่นคือภาพที่อาหว่อกำลังเผชิญอยู่ เขาแหงนมองจนคอแทบจะตั้งฉากกับพื้นดิน ในใจขบคิดถึงการปรากฎตัวของมัน
ราชินีมังกรทรงโปรดเราด้วย
เสียงของผู้คนที่รู้จักรูปลักษณ์ของราชินีมังกรทั่วทั้งแผ่นดินที่เห็น Zahhak ต่างพร้อมใจกันสวดมนตร์และขอพร บ้างก็กราบไหว้ราวกับคนบ้า ดุจดังพวกเขาที่สิ้นหวังได้เผชิญกับปาฏิหาริย์
(http://i.imgur.com/vsiPEWG.jpg)
"สิ่งใดที่ท่านต้องการหรือ สหายแห่งเรา" Karal ร้องถามด้วยน้ำเสียงกึ่งตะโกน
"ท่านกลับมาอีกเพื่อเหตุอันใด แผ่นดินนี้ไม่จำเป็นต้องมีท่านอีก พลังอำนาจของท่านไม่จำเป็นอีกแล้ว"
อาหว่อมองตามแต่ยังคงเงียบ เขาพยายามมองหาเหตุผลที่เป็นไปได้แต่ดูจะมีเวลาไม่พอที่เขาจะเข้าใจถึงเจตจำนงค์ของ Zahhak
เลือก 1 ทางเลือก (ไม่มีผิด)
- Karal มานี่ พวกเราจะหยุดมัน ...และตายกลายเป็นตำนาน
- ในเมื่อผู้คนเชื่อว่า Zahhak คือราชินีมังกร ทำไมเราไม่ให้มันเป็นราชินีมังกรไปเสียจริงๆเลยล่ะ
- สู้ไหวหรอก นั่นมันอภิมหาราชันย์มังกรนะ เราแพ้แล้ว (Fatimah หรือดินแดนบางแห่งจะถูกทำลาย และอาหว่อจะเป็นใหญ่ที่นั่นในภายภาคหน้า)
-
(http://i.imgur.com/NvbQCSb.jpg)
"Karal ลองถามเพื่อนดูว่าเอา sneaker ไหม หายหิวเผื่อจะอารมณ์ดี"
แค่ยืนมองก็ปวดคอตายแล้ว
- สู้ไหวหรอก นั่นมันอภิมหาราชันย์มังกรนะ เราแพ้แล้ว (Fatimah หรือดินแดนบางแห่งจะถูกทำลาย และอาหว่อจะเป็นใหญ่ที่นั่นในภายภาคหน้า)
-
มันเป็นไปไม่ได้เลยด้วยซ้ำที่มนุษย์จะต่อกรกับจ้าวมังกร แต่ Aisha และ Ace ก็ขึ้นบนหลังของมังกรฟาราสเพื่อไปเผชิญหน้ากับมัน
ทั้งสองควบมังกรบินฉวัดเฉวียนต่อสู้ไปพลางหลบเลี่ยงการโจมตีที่พลาดพลั้งคงถึงแก่ความตายเดี๋ยวนั้น
แน่ใจได้เลยว่าพวกเขาคงไม่รอดไปได้หากไม่มีบางสิ่งบางอย่างสลายม่านอาคมและสูบเอาพลังของ Zahhak ไปอย่างมากมายมหาศาล
อาหว่อที่เดิมทีตัดสินใจถอยหนีหันกลับมาชูดาบและกู่ร้องให้ทหารหาญร่วมใจกันต่อสู้ขับไล่เจ้ามังกรร้าย
และด้วยมนตราอัญเชิญโกเลมจักรราศีประกอบเข้ากับพลังของ Karal มันเป็นไปได้ที่พวกเขาเหล่ามวลมนุษย์จะสยบมังกรยักษ์อย่าง Zahhak ที่อ่อนแรง
หากแต่ร่างของ Zahhak ผูกอยู่กับมิติอื่น ทันทีที่มันจบชีวิตมันก็มลายหายไปไม่ทิ้งร่องรอยเอาไว้ เช่นที่มันเคยจบชีวิตไปก่อนหน้านี้เมื่อหลายหมื่นปีก่อน
เสียงกู่ร้องของทหารทุกฝ่ายสนั่นลั่นสนามรบ ทั้งทหารของ Neelam และ Fatimah
แต่หลังจากนั้นไม่ถึงครึ่งชั่วโมง
(http://i.imgur.com/VzzVC6H.jpg)
ดาวตกเพลิงและมวลหมู่ลูกไฟยักษ์ก็ปรากฎขึ้นเหนือฟากฟ้าทางใต้และแตกกระจายเป็นธุลีไปแทบทั้งหมดในเวลาต่อมา
คาดเดาได้ว่ามีผู้หยุดมันเอาไว้ได้อย่างปาฏิหาริย์ หากแต่วีรบุรุษไม่ได้มีเพียงผู้เดียว
อาหว่อได้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและไม่ท้อถอยแม้ศัตรูจะเป็นถึงจ้าวมังกร
การที่เขารอดชีวิตและไม่ได้หนีไปไหนส่งเสริมให้ชื่อเสียงของเขาเป็นที่รู้จักไปทั่วแดนดิน (จริงๆก็หนี แต่พอดีเห็นว่าได้โอกาสเลยกลับมา)
ผู้คนเล่าลือว่ามหาอุปราชแห่ง Fatimah คือสุดยอดจอมเวทแห่งยุค เมื่อได้เห็นเขาแสดงอภินิหารด้วยการอัญเชิญโกเลมโบราณ
รวมไปถึงการหยิบยืมพลังของ Karal เพื่อใช้อาคมที่ร้ายกาจซึ่งไม่เคยมีใครทำได้
End
เกมจบลงตรงนี้ และจะทำการนับคะแนน
ทุกคนที่จบแล้วจะเขียนฉากจบต่อ หรือจะให้ GM เขียนให้ (ตามฟีลลิ่งและรสนิยมของ GM) ก็ได้
โดยมาต่อบทอีกทีว่าต้องการเนื้อเรื่องไปในทิศทางใด