* ห้องโถงรับแขก

Refresh History
  • Johan: [link]
    July 21, 2023, 11:25:58 AM
  • Johan: อันนี้ครับ
    July 21, 2023, 11:26:02 AM
  • Johan: จริงๆไม่เชิงลงแข่งเพราะเป็นพาร์ทเนอร์กับบุสดีอยู่แล้วเลยอดชิงรางวัลที่ 1 2 3 (3000 บาท...) ก็จะไม่ไปแย่งรางวัลส่วนนี้กับหน้าใหม่ แต่ลงเพื่อชิงรางวัลเซ็นสัญญา รางวัลอันนี้ไม่จำกัด ได้เงินเยอะมาอุดส่วนที่ต้องเอาไปจ่ายให้นักวาด
    July 21, 2023, 11:28:55 AM
  • Johan: ช่วงก่อนวันที่ 10 เลยต้องเร่งเตรียมไฟล์ + เขียนเรื่องไว้เปิดตัวให้ปังๆ เพราะงบวาดนี่แพงเข้าเนื้อ วาดเยอะไม่ไหว มาเน้นการนำเสนอด้วยเส้นเรื่องหลายทางเลือกดีกว่า
    July 21, 2023, 11:31:12 AM
  • lostlance: งี้นี่เองงง
    July 21, 2023, 07:09:04 PM
  • Qiao: อยากเล่นแนว fear and hunger 1-2 ก็ได้
    August 28, 2023, 10:56:33 PM
  • lostlance: ผมว่าเกมมันหลอนไป
    August 31, 2023, 10:47:07 AM
  • Johan: สลัดทั้งงานราษฎร กับงานหลวงไม่ออก น่าจะมาต่อสักใกล้ๆปลายปีนะครับ
    September 29, 2023, 06:48:36 PM
  • Bloody Rabbits: รออยุ่ว
    September 29, 2023, 10:01:26 PM
  • lostlance: ที่โพสใหม่นั้นสแปมหรืออะไรน่ะ
    October 05, 2023, 02:12:26 PM
  • Chao: ยังแอบมาต่อนะเออ
    December 02, 2023, 01:55:59 AM
  • Johan: สวัสดีปีใหม่ครับ ขอให้ทุกคนยุ่งๆงานเยอะๆ
    January 01, 2024, 11:30:01 AM
  • Johan: อยากมาต่อ แต่เคลียรืเวลาไม่ลงตัวเลย
    January 01, 2024, 11:30:18 AM
  • Johan: Chao: ยังแอบมาต่อนะเออ <<< ตอบแล้วๆ (เกมบ้าอะไรฟระ โพสละครึ่งปี)
    January 01, 2024, 11:35:44 AM
  • lostlance: สวัสดีปีใหม่ครับบ
    January 01, 2024, 08:58:21 PM

Author Topic: [BR] The Battle Royale - Prologue  (Read 1187 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Luca

[BR] The Battle Royale - Prologue
« on: September 29, 2015, 08:26:10 PM »


เป็นเวลานานหลายชั่วโมงทีเดียวที่ชายวัยกลางคนคร่ำเคร่งมองดูกระดาษแผ่นเล็ก ๆ ในมือที่ชุ่มเหงื่อ กระดาษที่ถ่ายเอกสารมาหลายแผ่นและแผ่นหนึ่งก็มาอยู่ในมือของเขา
เขาไม่มีวันลืมภาพถ่ายที่อยู่บนกระดาษเหล่านี้ เขารู้ชื่อของทุกคนทั้งหมด ถึงแม้ว่าเจ้าพวกนี้กว่าครึ่งจะจำนามสกุลของเขาไม่ได้ก็ตามที
ภาพในวันเก่า ๆ ที่เคยสอนสั่งเด็กพวกนี้ในฐานะครูที่ปรึกษาพรั่งพรูออกมาไม่รู้จบพร้อมกับหยาดน้ำใส ๆ ที่หยดลงบนแว่นตากรอบสีชาจนเป็นวงหลายแต้ม
เขาจรดปากกาเขียนชื่อของแต่ละคนลงไปทีละคน ทีละคน จนครบทั้ง 44 คน และหลังจากนั้นไม่นานนักชีวิตของเขาเองก็ดับวูบลง

พร้อมกับเสียงปืนที่เขาไม่ได้เป็นคนลั่นไก




พร้อมกับสายฝนที่ลงเม็ดหนา


"ฉันล่ะเบื่อหน่ายไอ้ระบบราชการเส็งเคร็งของรัฐบาลเน่า ๆ นี่เหลือเกิน งานสำคัญอย่างนี้ยังทำเป็นเด็กเล่นขายของ" เสียงที่ดูคล้ายจะมีอำนาจสบถซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างไม่พอใจ
เขายิ่งอารมณ์เสียหนักขึ้นอีกเมื่อตัวหนังสือในกระดาษมันสร้างปัญหาให้กับเขา "บ้าเอ๊ย ใครมาอ่านทีซิว่าไอ้เด็กบ้านี่มันชื่ออะไร"

 

Offline Luca

Re: [BR] The Battle Royale - Prologue
« Reply #1 on: September 29, 2015, 09:02:48 PM »


ลานดินเปียกแฉะคือสิ่งที่คุณสัมผัสมันเป็นสิ่งแรก ยังคงมีเม็ดฝนปรอยแต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่จะต้องสนใจมันมากไปกว่าคุณมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร
ทิวทัศน์โดยรอบคือสวนสนุกที่เงียบเชียบเลยเวลาเปิดทำการ เสียงจ้อกแจ้กของผู้ร่วมชะตากรรมที่ต่างก็ตั้งคำถามเดียวกับคุณ
หลายคนคุ้นหน้าคุ้นตาดี บางคนเคยเจอบ้าง แต่บางคนคุณก็นึกไม่ออกว่าเคยรู้จักกันมาก่อนหรือเปล่า หลายคนสวมชุดนักเรียน และมาอยู่ในสภาพเดียวกัน สภาพที่สุดห่วยบนสถานที่ห่วย ๆ
เดี๋ยวสิ ไอ้นั่นมันอะไร แฟชั่นใหม่รึไง สายตาของคุณมองไปเห็นปลอกคอที่ทุกคนสวมอยู่ คุณไม่ลืมที่จะสัมผัสรอบคอของคุณบ้างแล้วก็พบว่ามีบางอย่างคาดเอาไว้รอบ ไม่ผิดแน่

"เอ้า เอ้า อย่าไปดึงมันสิไอ้หนู เดี๋ยวก็บึ้มหรอก"

เสียงนั้นดึงสายตาของทุกคนไปบรรจบกัน



"สวัสดีนักเรียนทุกคน ฉันคือโยเนจิ เรียกฉันว่าคุณโยเนจิก็แล้วกัน" เป็นชายร่างท้วมสูงประมาณ 150-155 ซม. มือขวามีร่ม มือซ้ายมีกระดาษยับยู่ยี่ใบหนึ่ง

"หรือสาว ๆ จะเรียกฉันว่านายท่านก็ไม่เลว"

ข้างกายเขามีทหารสี่ห้าคนถือปืนกลในท่าพร้อมยิง

Quote
เลือก Hide ที่กระทู้ตัวเอง (ระวัง อย่าโพสผิดกระทู้นะ)

- พุ่งออกไป: ทำอะไรระบุ
- แหกปากตะโกนว่า...
- ตกใจหนักมาก/กำลังตกใจอยู่

จะ Roleplay มาก็ได้ สิ่งที่เขียนมาจะนำมาแสดงที่นี่ ส่วนคนที่เลือกข้อสุดท้ายจะเงียบและอยู่เฉย ๆ


Offline Luca

Re: [BR] The Battle Royale - Prologue
« Reply #2 on: September 29, 2015, 10:49:06 PM »
จะสถานที่ ปลอกคอนี่ ลุงท่าทางหื่นๆนั่นเป็นใคร หรือทหารที่ยืนขนาบข้างอยู่ด้วย ไม่ว่าอะไรก็ดูไม่น่าไว้ใจ ยิ่งถ้านับปืนกลในมือนั่นไปด้วยสถานการณ์ตอนนี้เรียกได้ว่าน่าหวาดหวั่นเอาการ
การมีอะไรมาสวมรอบคอแบบนี้ชวนให้รู้สึกไม่ดีเลยสักนิด แต่จากคำปรามเมื่อครู่ ไปยุ่งกับมันคงไม่ใช่ความคิดที่ฉลาดนัก
สภาพที่จับต้นชนปลายไม่ถูกชวนให้หงุดหงิด แต่สังหรณ์บางอย่างกดให้นิ่งเงียบเอาไว้ การที่อยู่เฉยๆตอนนี้ น่าจะเป็นอะไรที่ดีที่สุด...

ทุกคนก็น่าจะคิดแบบนี้ คนสติไม่ดีเท่านั้นที่จะผลีผลามพุ่งพรวดออกไป



"เฮ้ย ! นี่มันอะไรวะ !"

เสียงห้าว ๆ ดังออกมาจากฝูงนักเรียน

"นี่แกต้องการอะไรจากพวกเรากันแน่ ไอ้หมูตอน !"
"เสียเวลา%$##แถมไอ้ปลอกคอบ้า ๆ นี่เอง"

สาวร่างสูงโปร่งสวมกระโปรงยาวกับเสื้อแก๊งเดินออกมาพร้อมกับโวยวายใส่เสียงดัง
แต่ถึงจะหงุดหงิด หัวร้อนเพียงใด ก็ยังพอเข้าใจสถานการณ์ตรงหน้า ปืนที่เล็งมานั่นคงไม่ใช่ของเล่นแน่ ๆ



"คุณโยเนจิสินะ ? ขอบคุณที่พาพวกเรามาสวนสนุกแต่พวกเราคงไม่มีสมาธิจะฟังคุณหรอก หากทหารพวกนั้นยังเล็งปืนมาทางพวกเราอยุ่อย่างนี้" เด็กผู้หญิง?คนหนึ่งลุกขึ้น

อาจจะเพราะได้ยินคำว่าหมูตอนทำให้ Yonechi ชักสีหน้าขึ้นมาแว่บหนึ่ง



"โอ้ โรงเรียนของพวกเธอนี่มันเลวร้ายน่าดูที่ปล่อยให้เด็กนักเรียนย้อมผมและแต่งตัวเป็นกุ๊ยอย่างนั้นได้ ผู้ปกครองของพวกเธอกำลังร้องไห้เสียใจนะรู้ตัวไหม" Yonechi มองดูกระดาษยับยู่ยี่ในมือเพื่อดูชื่อของทั้งสอง
"ผู้ชายหรอกเรอะ..." แล้วเขาก็ชักสีหน้า ก่อนจะเมินเลยไป เขาไม่ได้บอกหรอกนะว่าเขาเกลียดพวกกะเทยเป็นที่สุด แต่สายตาและสีหน้าของเขาบ่งบอกออกมาอย่างชัดเจน ซึ่งสาวแสบก็โดนเมินไปด้วยกัน




"พวกเราอยู่ในโปรแกรมBR ใช่ไหม รีบๆแจกอาวุธเลย จะได้เอาไปฆ่ากัน 555" นักเรียนชายอีกคนลุกขึ้น ดูเหมือนเขาจะรู้อะไรพอสมควร แต่ก็โดนเมินอีกคน

ความทรงจำก่อนหน้าจะมายืนอยู่ตรงนี้ขาดหาย และมันต้องไม่ใช่เรื่องดี
เด็กสาวคนหนึ่งมองซ้ายมองขวา ถึงแม้จะไม่อยากให้เจอคนรู้จักที่นี่ แต่เด็กสาวก็ยอมรับว่าการที่เห็นคนคุ้นหน้าทำให้รู้สึกอุ่นใจ
เด็กที่ยืนอยู่อีกมุมมาจากโรงเรียนเดียวกันกับเธอ คนนั้นก็ด้วย อาการสั่นที่มือค่อยๆดีขึ้นเรื่อยๆ ความรู้สึกอยากวิ่งออกไปให้พ้นก็ลดลง
แต่มันก็แย่ลงอีกครั้งเมื่อ 'คุณโยเนจิ' เริ่มพูด --- ที่แย่ยิ่งกว่าคืออาวุธในมือคนกลุ่มนั้น ตำรวจ? ทหาร?
เธอไม่กล้าขยับตัว ฝนอาจทำให้มองได้ไม่ชัด แต่ปืนนั่นมีแนวโน้มจะเป็นของจริง ปลอกคอ 'ระเบิด' นี่ก็ด้วย?
เธอสูดลมหายใจเข้าลึก หัวใจเต้นระส่ำ กวาดสายตาหาที่กำบัง ..ก็เหมือนทุกครั้งที่ลงแข่งกรีฑา เสียงปืนจะหมายถึงสัญญาณให้ออกวิ่ง
อันตราย.. แต่ไม่ ต้องยังไม่ใช่ตอนนี้




"........................."
ท่ามกลางความตึงเครียดชายหนุ่มที่อยู่หลังสุดดูจะหงุดหงิดมากๆ... ย้ำว่ามากๆ จนใครก็ตามที่หันมามองหน้าเขาต้องคิดว่าเขากำลังโกรธมากๆอยู่แน่ๆเลย
ไม่รู้จะเริ่มจากเรื่องอะไรก่อนดี เรื่องที่จู่ๆตัวเองก็สลบแล้วตื่นขึ้นในที่ที่ไม่รู้จักแบบนี้
หรือเรื่องที่ตัวเองอยู่ร่วมกับคนที่คุ้นหน้าบ้าง ไม่คุ้นหน้าบ้าง (ไม่ว่าเป็นอย่างไหนเค้าก็หงุดหงิดอยู่ดี)
หรือเรื่องที่ตัวเองถูกใส่ปลอกคอเยี่ยงสัตว์เลี้ยงหรือสุนัขดี... เรนาร์โด้น่ะแปลว่า"จิ้งจอก"น่ะรู้มั้ย? แล้วหมาจิ้งจอกน่ะ ไม่ใช่สัตว์ที่ต้องถูกพันธนาการแบบนี้หรอกนะ

แม้เค้าจะเกลียดไอปลอกคอนี่มากๆ แต่คุเรตะก็เป็นหนึ่งในคนที่เมื่อตื่นขึ้นมาแล้วก็ลุกขึ้นยืนเฉยๆมองรอบข้าง ไม่ได้ทำท่าเหมือนจะแกะปลอกคอนั่นออก
เพราะว่าเขาฉลาดพอที่จะรู้ว่า ถ้าถูกจับใส่เช่นนี้ย่อมแปลว่ามันถอดมิได้อยู่แล้ว... ไม่สิ อาจจะทำได้ถ้าใช้แรง แต่ไม่ปลอดภัยแน่ๆล่ะ
เขาได้แต่หันหัวมองสังเกตและสำรวจสภาพแวดล้อม ว่าเขาอยู่ที่ไหน แล้วคนอื่นๆที่ถูกพามาทำอะไรอยู่บ้าง

แล้วตอนนั้นเอง เสียงของผู้ชายก็ดังขึ้น เขาหันไปมองต้นตอของเสียง... ชายที่เรียกตนเองว่าโยเนจิ และทหารถือปืนจำนวนนึง
'อ่า... ดันเข้ามาอยู่ในสถานการณ์ที่ยุ่งยากเข้าแล้วสิ' คุเรตะบ่นกับตัวเอง เขาไม่ชอบความวุ่นวายนี่เลย มันทำให้เขาคิดได้ลำบาก
แน่นอน สิ่งที่ทุกคนต้องนึกคือ 'นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่' 'ที่นี่ที่ไหน' 'พาพวกเขามาทำไม' 'พวกแกต้องการอะไร' 'ขอกลับบ้านได้มั้ย'

...แต่คุเรตะรู้ดี ว่านี่คงไม่ต่างกับการถามในห้องเรียนว่า"มีอะไรสงสัยมั้ย?"ของคุณครู หรือก็คือ ไม่มีคนถามแน่ๆยังไงล่ะ
เพราะฉะนั้น คุเรตะจึงยกมือขึ้นแล้วพูดให้เสียงดังพอที่โยเนจิอะไรนั่นได้ยิน
เขาพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดนิดๆ(แม้เขาจะพยายามกดอารมณ์มากแล้ว) พร้อมกับจงใจทำให้มันห้วนๆดูไม่สุภาพ เพราะเขาไม่เห็นความจำเป็นที่ต้องทำแบบนั้น

"...เข้าเรื่องกันเลยเถอะ พาพวกผมมาที่นี่ทำไม แล้วต้องการให้พวกผมทำอะไรกันแน่..."




"อ้า มีเด็กที่น่าชื่นชมอยู่คนหนึ่ง ทั้งกล้าถามครูเมื่อไม่เข้าใจ แล้วก็ยังสุภาพอ่อนน้อม ฉันล่ะอยากจะให้เกรด 4 กับเธอจริง ๆ"
"ดูเหมือนทุกคนจะมีวุฒิภาวะพอสมควร ฉันดีใจนะที่พวกเธอมาเข้าร่วมโปรแกรมนี้"

คนที่แสดงตัวจะมีสิทธิ์ได้เลือกเพื่อนสนิทเพิ่มขึ้นอีก 1 คน หรือเลือกรับ Exp +1 แทน

Offline Luca

Re: [BR] The Battle Royale - Prologue
« Reply #3 on: September 29, 2015, 11:08:40 PM »
การปิดประเทศมันก็ดีอยู่อย่าง มันทำให้เรามีอิสระ เราไม่ต้องสนใจใคร ไม่ต้องฟังใครหน้าไหน และไม่ต้องคอยเดินตามก้นใคร
แต่เจ้าเด็กเหลือขอพวกนี้จะเข้าใจถึงสถานะที่สั่นคลอนของประเทศเรามากแค่ไหน การอยู่อย่างโดดเดี่ยวจำเป็นต้องเข้มแข็ง ต้องพัฒนาตนเองอย่างไม่หยุดยั้ง

มีเด็กนักเรียนที่ต้องออกจากโรงเรียนกลางคันในปีนี้นับหมื่น ครูอาจารย์เสียชีวิตในหน้าที่เพราะเจ้าเด็กเหลือขอที่ไม่อยากเรียนหนังสือใช้กำลังทำร้าย ระบบการศึกษากำลังจะพังพินาศ เด็กวัยรุ่นที่ไม่เรียนหนังสือก็หันไปก่ออาชญากรรมแทน
ปัญหาวัยรุ่นกลายเป็นปัญหาระดับชาติ พวกเขาไม่ยอมเคารพเชื่อฟังคำสั่งของผู้ใหญ่ กระด้างกระเดื่องต่อครูบาอาจารย์ รัฐบาลจึงวางมาตรการตอบโต้ ด้วยการประกาศกฎหมายใหม่เกี่ยวกับการศึกษา ระบบการศึกษาใหม่ที่จะช่วยพัฒนาบุคลากรของประเทศ

กฎ B.R. หรือ Battle Royale

ทุกปีจะมีการสุ่มนักเรียนขึ้นมาจำนวนหนึ่งซึ่งจะมาจากโรงเรียนเดียวกัน ถึงแม้จะไม่ได้อยู่ชั้นเดียวกัน บอกพวกเขาว่าเราจะไปทัศนศึกษาแล้วก็พาพวกเขาไปที่เกาะสักแห่งหนึ่งเพื่อให้พวกเขามาเล่นเกมกัน เกมที่ชื่อว่า Battle Royale
กติกานั้นก็ไม่ยากอะไร พาเจ้าเด็กพวกนั้นไปโยนทิ้งไว้บนเกาะที่จัดเตรียมเอาไว้ สวมปลอกคอที่ติดตั้งระเบิดเพื่อไม่ให้ขัดขืน ใครหือก็กดระเบิดซะ จากนั้นก็แจกอาวุธให้เอาไปฆ่ากัน ทุกคนจะต้องฆ่ากันจนเหลือรอดเพียงคนเดียว
หรือจะตายกันหมดก็ไม่เป็นไร มีอยู่เหมือนกันที่ผู้เข้าร่วมเกมตายกันหมดเกมนั้นก็จะไม่มีผู้ชนะ จุดประสงค์สำคัญไม่ได้ต้องการผู้ชนะ แต่มีอยู่สามข้อ

หนึ่ง กำจัดเด็กเหลือขอ บอกให้เด็กวัยรุ่นทั้งหลายได้รู้ถึงอำนาจของผู้ใหญ่
สอง ศึกษาวิจัยการต่อสู้เอาชีวิตรอดเพื่อนำข้อมูลไปพัฒนาขีดความสามารถของกองทัพ
และสาม การพนัน ความสนุกสนานของผู้ชม ผู้ชมจะได้ลุ้นไปกับเหล่านักเรียน และกระตุ้นเศรษฐกิจ

บนเกาะยังแบ่งเป็นโซน เมื่อพ้นวันจะมีเขตที่ถูกห้ามเข้า หรือเรียกว่าเขตอันตราย เขตอันตรายจะเพิ่มขึ้นจนกระทั่งวันสุดท้ายเขตอันตรายจะครอบคลุมทุกพื้นที่ของเกาะ
เพื่อที่ทุกคนจะได้มาเจอกัน มาฆ่ากัน เกมจะได้ไม่น่าเบื่อไงล่ะ

ส่วนปลอกคอ มันจะระเบิดในเวลาแค่ 3 วินาทีเมื่อ
หนึ่ง อยู่ในเขตอันตราย
สอง พยายามที่จะแกะออก



"และ สาม เมื่อฉันกดสวิตซ์มัน อย่างนี้..." แล้ว Yonechi ก็เอาอุปกรณ์บางอย่างออกมากดกริ๊กเพื่อสาธิตให้ดู พร้อมกันนั้นก็มีเสียงดังคล้ายเตาไมโครเวฟร้องเตือนให้เอาจานอาหารออกจากเตาเสียที

เสียงมันดังมาจากปลอกคอของนักเรียนหญิงคนหนึ่ง



"ม ไม่นะ..."

Yonechi ดูชื่ออีกที

Spoiler for Hiden:

*กดที่หัวของภาพเพื่อขยายดูได้

เลือก Hide ที่กระทู้ตัวเอง (ระวัง อย่าโพสผิดกระทู้นะ)

- พุ่งออกไปแย่งอุปกรณ์มาปิด
- อื่น ๆ ระบุ
- ตกใจหนักมาก/กำลังตกใจอยู่

จะ Roleplay มาก็ได้ สิ่งที่เขียนมาจะนำมาแสดงที่นี่ ส่วนคนที่เลือกข้อสุดท้ายจะเงียบและอยู่เฉย ๆ

Offline Luca

Re: [BR] The Battle Royale - Prologue
« Reply #4 on: September 30, 2015, 08:20:26 PM »


เด็กหญิงหน้าซีดยิ่งกว่าเดิมเป็นหลายร้อยเท่าเมื่อเธอคิดจินตนาการว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากปลอกคอนี้ระเบิด เธอแข็งทื่อ ส่งเสียงไม่ออก หายใจไม่ออก
เวลาเพียง 3 วินาทีแต่กลับยาวนานเหมือน 3 ชั่วโมงสำหรับนักเรียนหญิงตัวเล็ก ๆ ที่ไม่มีพลังอำนาจอะไร
เมื่อเช้าเธอตื่นเช้ากว่าทุกวันเพราะเห็นว่าจะได้มาทัศนศึกษากับเพื่อน ๆ แต่อันที่จริงเธอก็ไม่เคยมาโรงเรียนสาย ไม่เคยขาดส่งการบ้าน
เธอไม่เคยโดดเรียน ถ้าเธอจะหยุดเรียนก็เพราะป่วยเท่านั้น เธออาจได้เป็นนักเรียนดีเด่นหากว่าเธอหัวดีกว่านี้สักหน่อย แต่เธอก็ถือว่าประพฤติตัวสูงกว่าเกณฑ์ของเด็กทั่วไปอยู่แล้ว

Quote
"โมเอะจัง ฉันขอยืมสมุดการบ้านคณิตศาสตร์หน่อยสิ"
"เอ่อ แต่ ถ ถ้าทำเองมันจะดีกว่า..."
"โธ่ เธอนี่ล่ะก็ นี่มันกี่โมงแล้วใครจะไปทำทัน เอามาเร็วน่าฉันจะรีบลอกรีบเอาไปส่ง ขอร้องล่ะ"
"อ อื้อ..."


เธอเคยปฏิเสธใครหรือเปล่านะ อ๊ะ จริงสิ วันนี้ปกติมันเป็นเวรรดน้ำแปลงผักหลังโรงเรียน แล้วคุณแม่จะกลับดึก


แม่จ๋า วันนี้หนูจะกลับช้านะ
« Last Edit: September 30, 2015, 08:20:39 PM by Luca »

Offline Luca

Re: [BR] The Battle Royale - Prologue
« Reply #5 on: September 30, 2015, 09:09:52 PM »
พริบตาหนึ่ง คล้ายกับสิ่งที่สาวน้อยทำมาตลอดกลับส่งผลเมื่อเพื่อนหลายคนพร้อมกันเสี่ยงตายก้าวออกมาในวินาทีนั้น




"พ...พวกแก..."
"พวกแกคิดจะทำอะไรกันแน่หา.. !?" เหมือน Kana จะไม่กลัว กลับโผเข้ากอดเพื่อนร่วมโรงเรียนที่น่าสงสารคนนั้นไว้แน่นทำให้ Yonechi กดปุ่มยกเลิก



"คุณโยเนชิหยุดเถอะค่ะ! พวกเราเข้าใจแล้ว ขอร้องล่ะหยุดก่อนเถอะ" Sachiko ก็ขอร้องเช่นกัน เธอขอร้องพลางมองไปทางปลอกคอของเด็กคนนั้น



"เดี๋ยวเด่ะอาจารย์ ไอ้นั้นมันเหยื่อของผม ระเบิดหัวมันทิ้งตอนนี้ก้ไม่สนุกอะเด่ะ เกมนี้จะให้สนุกมันต้องฆ่ากันเองดิ ไม่ใช่ให้อาจารย์มาฆ่านักเรียน"
จบเวนแหกปากดังมาจากด้านหลังแข่งกับเสียงของใครอีกหลายคน



"คุณพี่เจ้าขา...จะรีบโชว์ของเลยมันไม่สนุกหรอกนะค้า~?" Hana สนับสนุน



"เข้าใจแล้วค่ะ ไม่ต้องแสดงตัวอย่างก็ได้ค่ะ อย่าเสียนักเรียนไปเปล่า ๆ คนนึงเพื่อแสดงตัวอ่างที่ไม่จำเป็นเลยนะคะ" Saya พยายามร้องขอชีวิตให้กับ Moe



"ห..หยุดเถอะค่ะ ..เราเข้าใจเรื่องปลอกคอแล้ว"



"แบบนั้นมันไม่ดีกับโชว์ของคุณนะ คุณโยเนจิ"
"เปลี่ยนเป็นโยนอาวุธให้ใครสองคนสู้กันดีกว่ามั้ย ถ้าจะเปิดการนองเลือดน่ะ!!"
"แบบนั้นเรตติ้งมันต้องขึ้นแน่ๆ แล้วก็ไม่มีใครกล้าขัดขืนคุณหรอกในเมื่อเพื่อนคุณถือปืนกลนีโอเจ็ทอาร์มสตองอยู่น่ะ"

สายตาทุกคู่สะกดไปยังเป้าหมายเดียวกันคล้ายจะคาดหวังคำตอบที่ดีพอเท่าที่พวกเขาจะพึงคาดหวังมันได้




"เฮ้อ....."

"มีเรื่องจะพูดแค่นี้ใช่ไหม" แล้ว Yonechi ก็กดสวิตซ์อีกครั้ง อย่างหน้าตาเฉย



"ไม่คิดว่าคนที่พนันเด็กนั้นจะหัวเสียกับการสาธิตที่ไม่เกิดประโยชน์นี้หรือไง ?" Tori รีบพูดขึ้นเพื่อพยายามช่วยเด็กดวงซวย
ถ้าจะมีเหตุผลที่เค้าโดนจับมาที่เกาะแห่งนี้คงเพราะการที่เค้าสามารถใช้เหตุผลและคำพูดตอกหน้าผู้ใหญ่กับอาจารย์หลาย ๆ คนกลายเป็นของเล่นของพวกเด็กนักเรียนในห้องนั้น ๆ นั้นละ
และนี้ก็เป็นอีกครั้งที่โทริเลือกที่จะพูดออกมา ...



"มันก็จริง ถ้าปลอกคอระเบิดคงเสียสินค้าไปถึงสองคน" แล้ว Yonechi ก็กดยกเลิกอีกครั้ง เจ้าหมอนี่เห็นชีวิตคนเป็นเหมือนมดที่อยากจะบี้ทิ้งเมื่อไหร่ก็ได้
"ก็ได้ ก็ได้ ตกลง ไม่กดแล้วก็ได้ ไปนั่งที่ซะให้หมด จะได้เริ่มเกมกันสักที เนอะ~"




".............." เด็กสาวไม่ชอบหน้าของชายร่างท้วมที่กำลังพูดอยู่สักเท่าไหร่ ยิ่งฟังสิ่งที่พูด สึกิก็ยิ่งรู้สึกสะอิดสะเอียนกับสิ่งที่ได้ยินมากขึ้น
ถึงแม้จะรู้สึกไม่อยากที่จะให้ความเคารพเลยก็ตาม แต่ความยั้งคิดของเธอยังคงเตือนตัวเองให้ยังพอรักษามารยาทกับชายผู้นั้นอยู่บ้าง

"แล้วฉันจะรู้ได้ยังไงล่ะว่าคุณจะไม่เกิดไร้เหตุผลกดระเบิดปลอกคอมั่วซั่วอีก เกิดเกลียดขี้หน้าใครคุณก็กดระเบิดปลอกคอให้ตายๆไปซะโดยที่ไม่ได้ทำอะไรผิด"
"มันจะยุติธรรมตรงไหนกัน? อีกอย่าง ใครจะไปรู้ล่ะว่าคุณจะทำหรือไม่ทำ ไม่มีอะไรรับประกันสักหน่อย"

เสียงของ Tsuki ไปกระตุ้นให้ Yonechi อยากกดระเบิดขึ้นมาอีกครั้ง แต่ดูเหมือนครั้งนี้เขาจะยับยั้งชั่งใจได้
เขาสูดลมหายใจลึก ๆ หลายครั้งก่อนจะแกะเอาถ่านออกจากรีโมทแล้วโยนลงพื้นกระทืบแตกละเอียด



"เป็นวิธีที่ดี แบบนี้ก็ดี ถ้าฉันเผลอระเบิดหัวพวกเธอเล่นเงินโบนัสฉันก็โดนหักไม่น้อย สบายใจแล้วนะสาวน้อย"

แล้ว Yonechi ก็หัวเราะฮี่ฮี่ฮี่ก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะเสียดังลั่น สวนทางกับ Moe ที่กลัวจนเกือบเสียสติจนเพื่อนต้องรีบเข้ามาประคองกลับไปยังจุดที่นั่งเดิม
« Last Edit: September 30, 2015, 09:14:06 PM by Luca »

Offline Luca

Re: [BR] The Battle Royale - Prologue
« Reply #6 on: September 30, 2015, 09:31:30 PM »


นี่คือแผนที่ของเกาะนี้ ส่วนชื่อของมันคือเกาะอะไรไม่ต้องสนใจ บนเกาะนี้ว่างเปล่า นอกจากที่จุดนี้ซึ่งก็คือจุด C ตามแผนที่แล้วก็ไม่เหลือใครบนเกาะอีก
ชาวบ้านทุกคนให้ความร่วมมืออย่างดีในการอพยพโดยที่รัฐบาลไม่ต้องจ่ายเงินชดเชยให้กับความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น...



"อย่างที่บอกว่าแต่ละโซนจะถูกประกาศเป็นเขตอันตรายเมื่อสิ้นสุดวัน แต่วันแรกฉันใจดีเปิดโอกาสให้ทุกคนเที่ยวชมทั่วทั้งเกาะเลย โฮะ โฮะ โฮะ"
Yonechi เดินลูบพุงไปยังด้านหนึ่งที่มีกองกระเป๋าใบเขื่อง ในกระเป๋ามีน้ำ อาหารแห้งพอจะประทังชีพได้ 1 วันเต็ม
แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนจะอยู่รอดได้นานนัก แบกไปเยอะก็สิ้นเปลือง เอาไปแค่นี้แหละ หิวก็หาเอาตามบ้านช่องที่เปิดทิ้งไว้ละกัน
นอกจากอาหารก็ยังมีแผนที่ เข็มทิศ และยาแก้ปวด แต่ไม่มีผ้าพันแผลหรืออุปกรณ์ปฐมพยาบาลหรอกนะ เว้นแต่ใครที่โชคดีหน่อยก็จะมีของแบบนั้น

"เอาล่ะ มีใครสงสัยอีกไหม ใครพร้อมแล้วก็ลุกขึ้นแล้วเดินมาทางนี้ ต่อแถวกันดี ๆ ล่ะ ใครแซงคิวพ่อจะระเบิดหัวซะ"

Offline Luca

Re: [BR] The Battle Royale - Prologue
« Reply #7 on: October 01, 2015, 11:06:17 AM »


"อ่า...ผมมีคำถามครับโยเนจิซัง  สำหรับผู้ชนะนี่มีรางวัลอะไรให้เป็นพิเศษไหมครับ ...ที่นอกเหนือจากการมีชีวิตรอดน่ะ : ) "
Amon ที่ต่อแถวอย่างไม่เดือดร้อนใจอะไรนักถามขึ้นเมื่อถึงคิวของตนเอง



"ฮ่าฮ่าฮ่า คำถามที่เหมือนกับจะเอาไปปลอบใจตัวเองนั่นมันอะไรกันเรอะ" Yonechi หัวเราะแล้วก็จับคางคล้ายจะลืม บ้าเอ๊ย รางวัลของผู้รอดชีวิตมันต่ำต้อยด้อยค่าขนาดนั้นเลยเรอะ
"อืมมมม" เขาหันไปถามทหารที่ยืนอยู่ข้าง ๆ จนนึกได้

"อ้า ก็สวัสดิการกินฟรีอยู่ฟรีตลอดชีพ มีบริการจัดหางานและบรรจุงานในหน่วยงานรัฐให้อีกด้วยนะ"
"เอาไว้รอดตายมาได้ค่อยมาถามอีกทีก็ยังไม่สายหรอก" ดูเหมือน Yonechi จะไม่เชื่อว่า Amon จะได้รับสิทธิ์นั้น

"อย่างนี้เอง ขอบคุณครับ : D" เด็กหนุ่มตอบสั้นๆก่อนฉีกยิ้มกว้าง
เขาไม่ได้พูดถึงเหตุผลที่ถามไป แต่มันก็ไม่ใช่อะไรซับซ้อน หลังจากได้รับของแล้วเขาก็เดินออกจากบริเวณนั้นไป


การมานั่งเปิดดูข้าวของในที่ซึ่งอันตรายที่สุด ในสถานที่ซึ่งหลายคนเพิ่งจะได้กระเป๋าที่บรรจุอาวุธเอาไว้แบบนี้คนปกติคงไม่ทำกัน

บนม้าหมุนที่หยุดนิ่งและยังเปียกหมาด ๆ จากฝนที่เทลงมาช่วงหนึ่งก่อนหน้านี้แม้ว่าตอนนี้มันจะหยุดตกแล้วก็ตาม
Amon นั่งพิงม้าหมุนสีขาวขุ่น เปิดดูสัมภาระในกระเป๋าใบใหญ่ที่มันหนักกว่าจะเป็นกระเป๋าสัมภาระของนักเรียน
เขามองดูของในกระเป๋าด้วยสายตาที่ไม่แสดงอากัปกริยาอะไรมากนักพลางจัดของในนั้นอย่างใจเย็น และถ้าลองมองให้ดีอาจจะเห็นเขายิ้มน้อย ๆ ด้วย

พลันเสียงฝีเท้าคู่หนึ่งก็มาหยุดอยู่เยื้องไปทางเบื้องหลัง แถวจุดขายป็อปคอร์นหรือเปล่านะ เขาจำได้ว่ามีตู้ขายป็อปคอร์นที่ว่างเปล่าถูกเข็นมากองไว้แถวนั้น

Offline Luca

Re: [BR] The Battle Royale - Prologue
« Reply #8 on: October 01, 2015, 07:35:58 PM »
เปรี้ยง

เสียงปืนดังขึ้นจากด้านหลังม้าหมุนเมื่อ Amon เป็นฝ่ายเปิดฉากลั่นไกด้วย Colt M1892 มันบดขยี้กระจกตู้ป็อปคอร์นแตกละเอียดและถากเอวเป้าหมายที่เอี้ยวหลบทันอย่างเหลือเชื่อ
ในอึดใจเดียวกันก่อนที่ Amon จะลั่นไกนัดที่สอง มีดซัดเล่มหนึ่งก็แหวกอากาศพุ่งสวนมาผ่านข้างแก้มเขา และอีกเล่มไปปักแน่นบนตัวม้าหมุน
ทั้งที่ระยะไกลขนาดนี้แต่ปฏิกริยาและความแม่นยำทัดเทียมกับปืน ไม่นับเรื่องที่คาดเดาวิถีกระสุนได้ Amon เข้าใจได้ทันทีว่าเจ้าหมอนั่นไม่ธรรมดา ลำพังปืนลูกโม่แก่ ๆ กระบอกนี้คงไม่พอจะสยบหมอนั่นที่คล้ายจะมีปืนเช่นกัน

เป็น Amon ที่อาศัยความมืดกลิ้งลงจากลานม้าหมุนแล้ววิ่งมุดหลบมีดบินอีกเล่ม ดาบคาตานะยาวเหยียดโค้งมนวาววับชักออกมาจากฝักปะทะเข้ากับมีดทหารของอีกฝ่าย เกิดเป็นการสัประยุทธ์ของตัวเอ้ทั้งสองที่โคจรมาเจอกันแต่หัววัน
แต่ก็แค่ไม่กี่อึดใจ อีกฝ่ายบาดเจ็บ และมีดสั้นไม่มีทางเอาชนะดาบซามูไรได้เมื่อทั้งสองฝ่ายมีฝีมือทัดเทียมกัน

Amon ถีบยันยอดอกจนอีกฝ่ายเสียหลัก แล้วโถมตัวเข้าฟันอย่างไม่ปราณี




ส่งร่างนั้นลงไปนอนแน่นิ่งเหนือกองเลือดของตนเอง


Quote


Sanada Junpei เสียชีวิต


Spoiler for Hiden:
ของตกให้ Amon เก็บ

Throwing Knife: มีดซัด Range 4 [3/3]
Combat Knife: มีดต่อสู้ Atk +1 Range 2 หลบ Skill Seeker ได้ 50%
Ruger LCR: ปืนพก Atk 2 Range 7 หลบ Skill Seeker ได้ 50% [3/3]
« Last Edit: October 01, 2015, 07:39:13 PM by Luca »

Offline Luca

Re: [BR] The Battle Royale - Prologue
« Reply #9 on: October 01, 2015, 07:52:51 PM »


"โอ้ เริ่มแล้วเรอะ แกนี่ใช้ไม่ได้เลยนะจุนเปย์ มีคนต้องหมดตัวเพราะแกไม่น้อยแน่" Yonechi นั่งกระเช้าลอยฟ้าส่องกล้องดูจากที่สูง มีเบียร์สองกระป๋องกลิ้งอยู่ข้างเท้า

เขาลดกล้องลงแล้วควานหาแผ่นรายชื่อ เอาปากกาเมจิกออกมาขีดฆ่า



"ปีนี้น่าจะสนุกกว่าปีที่ผ่านมา ทุกคนก็ดูจะขยันขันแข็งกันดีจังน้า" แล้ว Yonechi ก็หัวเราะอย่างครื้นเครงอยู่คนเดียว
« Last Edit: October 01, 2015, 07:53:21 PM by Luca »

Offline stargazer

Re: [BR] The Battle Royale - Prologue
« Reply #10 on: October 01, 2015, 08:27:19 PM »
อามอนหยุดหอบหายใจอยู่ครู่หนึ่ง มือที่กำดาบเพิ่งจะมาสั่นเอาเสียตอนนี้ ตอนที่ศัตรูแน่นิ่งไปแล้ว
สีหน้าเขาไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ทั้งยังรู้สึกได้ว่าหัวใจเต้นเร็วรัว
อาจเพราะเป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่ จึงไม่คุ้นชินกับมันนัก

สักพักเขาก็ผ่อนลมหายใจยาว ดึงสีหน้าให้กลับมาเป็นปกติ แม้จะไม่จำเป็นเพราะคงไม่มีใครมาเห็นก็ตาม
".....ทีหน้าทีหลังอยากคุยกันก็มาหาจากข้างหน้าสิคร้าบ.."
เขากล่าวกับร่างของจุนเปย์ ก่อนจะเข้าไปค้นของที่มีประโยชน์มาเก็บใส่กระเป๋าไว้

- Throwing Knife
- Combat Knife
- Ruger LCR

"...ไม่สิ สำหรับนายไม่มีคราวหน้าแล้วนี่นะ โทษที"
อามอนพนมมือไหว้ศพเงียบๆแล้วจึงจากไป

Offline Luca

Re: [BR] The Battle Royale - Prologue
« Reply #11 on: October 01, 2015, 09:26:40 PM »


แล้วค่ำคืนนี้จะดำเนินไปอย่างไรกันนะ

Quote


หลังจากสำรวจของในกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว คิสึเนะยังคงนั่งอยู่กับพื้น ก้มหน้าเงียบๆ
เสียงคล้ายจะสะอื้นออกมาเบาๆดังมาจากเด็กสาว
แม้ตามตัวเธอจะเปรอะไปด้วยดินโคลน แต่ตอนนี้เธอไม่คิดจะใส่ใจเรื่องนั้น
คิสึเนะไม่รู้จะทำยังไงต่อไปดี สีหน้าของเธอยังคงไม่สบายใจ ความรู้สึกหวาดกลัวและสับสนทำให้เธอวิ่งออกมาจาก'ที่นั่น'โดยไม่ได้สนใจว่าตัวเองจะมาหยุดอยู่ที่ไหน
เรื่อง'ฆ่า' เป็นอะไรที่ไกลตัวจากคิสึเนะมากเกินไป เธอคิดว่าตัวเธอเองคงไม่สามารถทำได้ง่ายๆแน่

คิสึเนะกำล็อกเก็ตขนาดเล็กที่คล้องคอเธออยู่ มันเป็นของขวัญจากคนสำคัญ
'ถึงแม่เค้าจะไม่อยู่แล้ว แต่คิสึเนะ.. ลูกก็ต้องเข้มแข็งไว้นะ'
เสียงทุ้มของชายวัยกลางคนดังขึ้นในความทรงจำ และรอยยิ้มอันแสนใจดีแม้จะแฝงไปด้วยความเศร้าอยู่ก็ตาม
คิสึเนะสูดหายใจลึก เรียกแรงฮึดให้ตัวเอง
เธอลุกขึ้นยืนพลางสำรวจบริเวณโดยรอบอย่างระมัดระวัง ด้วยเป็นกังวลว่าจะเกิดเหตุแบบเมื่อครู่ ถ้าพลาดไปเธอคงจะบาดเจ็บหนักเป็นแน่
เธออยากจะรอดออกไปจากที่นี่ ทุกคนก็คงคิดแบบนั้นเช่นกัน..
.. ถ้าจากนี้พบเพื่อนๆที่ไว้ใจได้ ก็คงดีสินะ ....


Quote
ณ เขตชุมชนไม่ไกลจากจุดเริ่มต้นมากนัก ชายหนุ่มท่าทางเหยาะแหยะนั่งกุมศีรษะด้วยความหวาดกลัว
เขาค้นกระเป๋าหยิบหนังสือที่แทบจะไร้ประโยชน์มาฉีกกระดาษด้วยมือไม้อันสั่นเทาก่อนจะม้วนมันเป็นกระบอกโทรโข่งและตะโกน



"พ...เพื่อนๆ ได้โปรดอย่าฆ่ากันเลยนะ มารวมตัวคิดวิธีหนีกันเถอะ!! Ken Rachelle พวกนายอยู่ไหนกัน ฉันอยากกลับบ้าน!"
หลังจากรวมรวบพลังตะโกนออกไปเขาก็ทรุดล้มลงร้องไห้


Quote


หลังจากที่หญิงสาวนั่งพักเพื่อทำใจและเตรียมใจสำหรับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้ เธอก็นึกถึงเพื่อนๆของเธอขึ้นมา ว่าป่านนี้พวกเขาจะไปอยู่ไหนกันนะ...

อิซามิเปิดหนังสือคู่มือเล่มหนานั่นอ่านไปพลางๆ เธอคิดว่าขนาดของมันถ้าเอาไปตบหัวใครก็น่าจะสลบได้ แต่ก็น่าจะรับดาเมจแทนได้เช่นเดียวกัน
เธอพับเก็บมันเอาไว้ แล้วหันมาสนใจปืนทั้ง 2 กระบอกที่เธอมีอยู่ เพื่อตรวจดูว่าแต่ละกระบอกมีกระสุนทั้งหมดกี่นัด

ก่อนที่จะเลือกสำรวจพื้นที่บริเวณนั้น
"ประตูนั่น..ถ้าใช้มีด จะเปิดได้รึเปล่านะ?"


Quote
ซายะ จำได้ถึงสิ่งที่เธอพูดกับเพื่อน ๆ ทุกคนก่อนจะหนีออกมา



"ทุกคนคะ สัญญานะว่าเราจะรอดไปด้วยกัน  แล้วซายะจะพาไปเที่ยวที่เกาะของซายะ" เธอโบกมือให้เพื่อน ๆ เป็นครั้งสุดท้ายแล้ววิ่งหายไปในความมืด


Quote


คุเรตะหงุดหงิดเล็กน้อยที่ต้องมาเจอเรื่องสกปรกๆแบบนี้
แต่เขาก็อารมณ์เสียมากพอ ที่จะหยิบหินแถวนั้นมาขูดกำแพงบ้านอย่างเด็กมือบอน
ระหว่างนั่นเองเขาก็นึกถึงอดีตท่ามกลางบรรยากาศที่ไม่น่าทำให้ใครนึกถึงวันวานได้
พอเสร็จแล้วคุเรตะก็เริ่มเดินออกไป จากบ้านนั่น ที่มีข้อความบางอย่างบนฝาผนัง

"ผมไม่ใช่เด็กเหลือขอ
และผมจะชนะเกมนี้ให้ดู"


Quote


"ก็ได้ ฉันจะคุ้มกันเธอเอง"


Quote


"ม ไม่นะ.... แม่จ๋า" Moe สั่นกลัว เธอหลับหูหลับตาวิ่งเข้าเมือง